มหกรรมโลกสู่มหกรรมเรา

โลกเราทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้ เราสามารถเห็นได้จากพฤติกรรมของประชากรโลก รวมถึงการจัดงานต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก นิทรรศการทางวิทยาศาสตร์ และงานแสดงศิลปะต่างๆ และตอนนี้มีงานหนึ่งที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจก็คือ https://dmc.tv/a8504

บทความธรรมะ Dhamma Articles > Review รายการ
[ 9 ต.ค. 2553 ] - [ ผู้อ่าน : 18272 ]
มหกรรมโลก สู่ มหกรรมเรา
 
        โลกเราทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้ เราสามารถเห็นได้จากพฤติกรรมของประชากรโลก รวมถึงการจัดงานต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก นิทรรศการทางวิทยาศาสตร์ และงานแสดงศิลปะต่างๆ และตอนนี้มีงานหนึ่งที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจก็คือ World Expo 2010 หรือ มหกรรมโลก นั่นเอง
 
แหล่งที่มาของภาพ : http://www.goldseasontravel.com/_china_tour_page_20.html
  
        ซึ่งงานนี้จัดที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เป็นงานที่มีนักท่องเที่ยวและชาวต่างประเทศเดินทางไปมากที่สุดในปีนี้เลยก็ว่าได้ World Expo 2010 จัดมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ โดยการจัดงานปีนี้ใช้หลักการว่า Better City, Better Life หรือ เมืองที่ดีขึ้น ชีวิตที่ดีกว่า โดยสถานที่จัดงานอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ งานนี้ใช้พื้นที่ทั้งหมด 5.28 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 5 เท่าของมหาธรรมกายเจดีย์นั่นเอง
 
        โดยในปีนี้ได้เน้นไปในเรื่องของ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการประหยัดพลังงาน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ไปชมถึง 70 ล้านคนเลยทีเดียว และถึงตอนนี้มีผู้เข้าชมรวมแล้วทั้งสิ้น 60 ล้านคนแล้ว
 
        World Expo จัดขึ้นครั้งแรกในปีพุทธศักราช 2394 และจัดขึ้นทุกๆ 5 ปี ปัจจุบันมีประเทศสมาชิกแล้วทั้งสิ้น 205 ประเทศ สำหรับประเทศไทยได้เข้าร่วมครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2405 ในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยวัตถุประสงค์ของงาน จะแยกเป็นยุคๆ ไป โดยในยุคแรกเริ่มจะเป็นการนำเสนอเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนทางด้านอุตสาหกรรม เครื่องจักร ยุคต่อมาเป็นยุคการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ระหว่างประเทศต่างๆ และยุคปัจจุบัน เป็นยุคการสร้าง Brand เพื่อเน้นให้เห็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นการเปิดประเทศสู่สายตาชาวโลกนั้นเอง
 
       
 
 
        ในปีนี้ประเทศไทยใช้งบประมาณไป 590 ล้านบาท โดยจัดสร้างอาคารศาลาไทย บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ เพื่อนำเสนอวิถีชีวิตของคนไทย ส่วนรัฐบาลจีนใช้งบในการเตรียมพื้นที่ประมาณ 25,000 ล้านบาท ใช้เวลาเตรียมงาน 7 ปี ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 140,000 ล้านบาท ประเทศจีนลงทุนไปขนาดนี้ แล้วได้อะไรกลับคืน สิ่งที่จีนได้คือ คนจีนจะได้รู้จักความยิ่งใหญ่ในประเทศตน เพราะการจะสร้างประเทศให้ยิ่งใหญ่นั้น คนในประเทศจะต้องรู้สึกว่าประเทศของตนนั้นยิ่งใหญ่จริงๆ มีนักวิเคราะห์ท่านหนึ่ง กล่าวว่า จีนหวังจะได้รับชื่อเสียงความชื่นชมจากทั่วโลก ในเรื่องของการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม รวมไปถึงความโอบอ้อมอารีของจีนต่อประเทศอื่นๆ และเป็นความพยายามที่จะผลักดันตนเองไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ส่วนนักวิเคราะห์ของจีนบอกว่า งานนี้จะผลักดันให้เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางการเงินของโลก โดยสังเกตได้จากโครงสร้างพื้นฐานที่ปรับใหม่ทั้งหมด และยังทำให้เมืองที่อยู่รอบนครเซี่ยงไฮ้ผลักดันตัวเองให้เจริญขึ้นไปอีก จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทีเดียว
 
แหล่งที่มาของภาพ : http://www.oknation.net/blog/inter/2008/04/10/
 
        การลงทุนจัดงานครั้งนี้เป็นการได้ที่มากกว่าที่คิด และเป็นการได้ในระยะยาว เราคงจำได้ว่าเมื่อปี พ.ศ.2551 ประเทศจีนมีงานใหญ่คือกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นงานโอลิมปิกที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ส่วนงาน World Expo ก็ถือว่าเป็นการเปิดตัวประเทศจีนอีกครั้งหนึ่ง เมื่อก่อนประเทศจีน เป็นประเทศที่คนอื่นมองว่า คนเยอะ ค่าแรงถูก ข้าวของราคาถูก แต่ไม่ค่อยมีคุณภาพ แต่พอผ่านงานนี้ไปประเทศจีนจะถูกยกอันดับขึ้นมาอีกมากทีเดียว แล้วจีนทำได้อย่างไร ที่เป็นเช่นนี้เพราะจีนรู้จักตัวเอง มองเห็นจุดอ่อน จุดแข็งของตัวเอง เข้าใจตัวเอง เข้าใจสถานการณ์ของโลก รู้ว่าตัวเองมีอะไร เงินก็ไม่มี เทคโนโลยีก็ไม่มี สิ่งที่มีคือ คน เท่านั้นเอง จีนมองตัวเองขาดตลอด รู้ว่าตัวเองมีจุดอ่อนจุดแข็งยังไง แล้วดำเนินมาตรการที่เหมาะสมกับสภาวะตัวเองในขณะนั้น ทำให้จีนเติบโตเป็นระยะๆ ขึ้นมาได้ ด้วยการเดินที่ละก้าวอย่างมั่นคง สุดท้ายความสำเร็จจึงเกิดขึ้น
 
        ถามว่าประเทศจีนทำตามหลักอะไร ? จริงๆ แล้วก็คือ หลักสัปปุริสธรรม 7 ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง  ที่ทำให้จีนสามารถผ่านวิกฤตแต่ละช่วงเข้ามาได้ มองเขาแล้วมองเราดูว่า ประเทศไทยมีข้อดีเยอะ ถ้าปรับอะไรลงตัวนิดเดียว ภายใน 10 ปี ประเทศไทยสามารถพัฒนาจนกระทั่งเป็นกลุ่มของประเทศที่พัฒนาแล้วได้เลย และในระยะเวลา 20 ปี เราจะมี GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) ที่อยู่ในแถวที่ใกล้เคียงกับ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เลยทีเดียว ถ้าหากมีการรวมพลังของประชากรในประเทศได้เป็นอย่างดี และไม่ใช่เติบโตเฉพาะเศรษฐกิจแต่เพียงเท่านั้น แต่จิตใจของคนจะเจริญไปพร้อม โดยอาศัย "หลักธรรมในพระพุทธศาสนา" เมื่อนั้นประเทศไทยจะกลายเป็น "ปิ่นนานาประเทศ" ให้คนทั้งโลกมาดูว่าเราทำได้อย่างไร ขณะนี้ประเทศไทยมีเงื่อนไขความพร้อมอยู่แล้วเพียงแต่รอผู้นำที่มีความสามารถมาประสานงานกันได้จริงๆ เท่านั้นเอง
 

http://goo.gl/VFBgI


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      วันลอยกระทง 2566 ประเพณีและประวัติวันลอยกระทง วิธีทำกระทงง่ายๆ
      วันตรุษจีน 2566 ประวัติวันตรุษจีน การ์ดและคำอวยพรตรุษจีน
      วันครูแห่งชาติ 2567 ประวัติความเป็นมาของวันครู กิจกรรมวันครู
      วันพ่อแห่งชาติ 2566 ประวัติความเป็นมาความสำคัญ กลอนวันพ่อ การ์ดวันพ่อ
      วันปิยมหาราช ประวัติและความสำคัญของวันปิยมหาราช
      วันแม่แห่งชาติ 2566 กลอนวันแม่ ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของวันแม่แห่งชาติ
      กลอนวันแม่ กลอนวันแม่สั้นๆ ซึ้งๆ จากใจลูกน้อย
      วันสื่อสารแห่งชาติ 2566 ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของการสื่อสาร
      วันภาษาไทยแห่งชาติ 2566 ประวัติ ความสำคัญของวันภาษาไทยแห่งชาติ
      วันสิ่งแวดล้อมโลก World Environment Day
      วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2567 World No Tobacco Day
      วันครอบครัว 14 เมษายน ประวัติความเป็นมาและความสำคัญ
      วันสตรีสากล ประวัติความเป็นมาความสำคัญของวันสตรีสากล




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related