ผลปฏิบัติธรรม
เลส-ขะ และ เนียด้า (ชาวมาไซ)ปกติ ธรรมชาติของมาไซ จะไม่ชอบนั่ง แต่จะชอบแต่ยืนและกระโดด ดังนั้น ตอนแรกที่ ยอดกัลยาณมิตร ชวนมาไซนั่งสมาธิกัน หลายๆคนนั่งแป๊บเดียว ก็ออกไปย่างกวาง เดิน กระโดดไปมา จึงเหลือ มาไซเพียง 2คน ที่นั่งต่อเนื่องมาไซคนที่1 ชื่อ เลส-ขะ อายุ 30ปี มีพี่น้อง 30คน เป็นกำลังหลักของครอบครัว อาชีพเลี้ยงวัว เสื้อผ้ามีชุดเดียว ไม่เคยรู้จักสมาธิมาก่อน จนกระทั่งมาเจอยอดกัลยาณมิตร แนะนำให้นั่งนึกถึงดวงอาทิตย์ จึงได้นั่งสมาธิครั้งแรกในชีวิต ใต้ร่มไม้ ก็นั่งไป 2ชั่วโมงเลย นั่งแล้วรู้สึกตัวเบาๆ ลอยๆ แต่สิ่งที่เห็นข้างใน อธิบายไม่เป็น ยอดกัลยาณมิตร จึงให้วาดรูปสิ่งที่เห็นมาให้ดูมาไซคนที่2 ชื่อ เนียด้า อายุ 21ปี อาชีพเลี้ยงวัว ไม่เคยรู้จักสมาธิเหมือนกัน เป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยยิ้ม แต่พอมารู้จักสมาธิ ก็นั่งและวาดภาพผลปฏิบัติธรรมมาให้ดูปัจจุบัน มาไซ ทั้งสอง บอกว่า ชอบนั่งสมาธิมาก และตอนนี้ก็ยังนั่งสมาธิอยู่ทุกวัน และทั้งสองบอกว่า ยังเห็นแบบที่วาดในรูปตอนเจอ เลส-ขะ ครั้งแรกสุด ผิวของเขาก็ดูดำขลับเหมือนมาไซคนอื่นๆ แต่หลังจาก เลส-ขะ เห็นองค์พระ และนั่งสมาธิต่อเนื่องทุกวัน พอมาเจออีก ก็รู้สึกหน้านวลขึ้น หน้าตาดูแจ่มใสกว่าแต่ก่อน ตอนเจอแรกๆดำ ตอนนี้ดำจางลง เลส-ขะ บอกว่า ตั้งแต่นั่งสมาธิแล้ว เวลาเขาเดินไปไหนมาไหน รู้สึกเดินสบายขึ้นกว่าเดิมนอกจากนั้น เลส-ขะ ยังบอกว่า แต่ก่อนรู้สึกสิงโต คือ ศัตรู ต้องฆ่า ฆ่าแล้วจึงจะเป็นมาไซที่สมบูรณ์ แต่ตอนนี้ เลส-ขะ รู้สึกสงสาร ไม่อยากฆ่าสิงโตเลยมาไซ มีกระจัดกระจายอยู่ทั่วในแต่ละประเทศของทวีปแอฟริกา ซึ่งนักท่องเที่ยวอย่างเรา อาจจะเห็นมาไซเป็นชนเผ่าหนึ่ง แต่ตัวมาไซเอง เขามีความภูมิใจในชนชาติตัวเองสูงมาก มีวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง ที่วัฒนธรรมอื่นเข้าไปเปลี่ยนเขาไม่ได้ แม้มาไซจะนอนบนกองมูลวัวแห้ง แต่เขาก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ และ การฆ่าสิงโตได้คือ ความภูมิใจที่สุดของมาไซปกติ ผู้หญิงไม่มีสิทธิ์สั่งผู้ชายมาไซ เหตุผลเพราะ ผู้หญิงฆ่าสิงโตไม่ได้ ผู้หญิงมีหน้าที่ คือ สร้างบ้าน ทำอาหาร เลี้ยงลูก ส่วนผู้ชายมีหน้าที่ล่าสิงโต เลี้ยงวัว แต่มาไซทั้งสอง หลังจากนั่งสมาธิแล้ว ก็คอยดูแล และทำตามที่ยอดกัลยาณมิตรบอก จนมาไซคนอื่นยังสงสัยว่า ทำไมมาไซทั้งสอง ถึงฟังคำของยอดกัลยาณมิตร ซึ่งเป็นผู้หญิง
http://goo.gl/ADPgM