ผลการปฏิบัติธรรม
กัลยาณมิตรทศพล ยูนศรีแดง (ประเทศไทย)กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงจากชีวิตที่มีความคิดจมปรัก อยู่แต่กับความเบื่อหน่าย ตั้งแต่ตื่นนอนจนค่ำ หาทางออกไม่ได้อยู่หลายปี เพียงแค่วันแรกที่ได้พบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เพียงไม่กี่นาทีที่ได้นั่งสมาธิ(Meditation)ตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อนำ ความสดชื่นของชีวิตก็พรั่งพรู ความเบื่อหน่ายก็บ๋ายบาย โบยบินไป อย่างไร้ร่องรอยจนทุกวันนี้ครับผม นายทศพล ยูนศรีแดง อายุ 43ปี ขอกราบรายงานตัว ในฐานะนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ใหม่แกะกล่องครับ ผมเป็นพนักงานสาขาวิทยาศาสตร์ ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง มีหน้าที่ตัดชิ้นเนื้อคนไข้เพื่อตรวจมะเร็ง ทำมา 14ปีแล้ว วันหนึ่งๆมีคนไข้ให้ตรวจถึง 30-40ราย งานล้นมือ ปัญหาล้นใจ จนตื่นนอนก็ไม่อยากไปทำงาน เบื่อไปหมด พอทนไม่ไหว ผมก็ลาไปปฏิบัติธรรม ผมไปมาหลายที่ แต่ละที่ก็สอนคนละแนว ผมได้แต่ความปวดขากับความฟุ้ง ไม่พบความสงบจริงเลยสักครั้ง แต่กลับมา ผมก็ยังนั่งสมาธิไปตามเรื่อง อยู่เรื่อยๆและแล้วผมก็ได้พบ กัลยาณมิตรพรชนก พูนนารถ (คุณกี้) ผู้ประกาศข่าวสาวเสียงเจ้าทรัพย์ เธอมาชวนผมไปทำบุญที่วัดพระธรรมกาย เมื่อกลางปีที่แล้ว พอเห็นวัดครั้งแรก แม้จะรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับพิธีกรรมของวัด ที่จัดได้อย่างอลังการ แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมพิธีกรรมของวัด ต้องจัดใหญ่โตเช่นนั้นครั้นเมื่อตรองตามที่คุณกี้อธิบาย ก็เข้าใจว่า “คนเราจะมีความปลื้มปีติและประทับใจ ก็ต่อเมื่อได้เห็นภาพที่ยิ่งใหญ่งดงาม และเมื่อประทับใจก็ย่อมจะจดจำบุญที่ยิ่งใหญ่งดงามนั้นได้” เมล็ดพันธุ์แห่งความเลื่อมใสศรัทธา ได้เติบโตในใจของผม ที่เห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อ มุ่งมั่นจะรวมสงฆ์ทั่วโลกให้เป็นหนึ่งเดียว ยิ่งเห็นพระต่างประเทศมาเยือนเป็นคณะ ศรัทธาก็ทับทวีซาบซึ้งว่าที่นี่เป็น Buddhism Metropolis (มหานครแห่งพระพุทธศาสนา) ได้จริง จากที่เคยคาใจ ก็กลายเป็นคลายใจทันทีครับผมได้รับ CD สอนนั่งสมาธิ และเริ่มดู DMC ผ่านเคเบิ้ลทีวี แต่ก็ยังไม่เข้าใจอะไรมาก เลยทำตามไม่ได้ จนกระทั่งอาทิตย์ต้นเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2550 คุณกี้ชวนผมมาร่วมพิธีบูชาข้าวพระที่วัด ผมมานั่งปฏิบัติธรรมอยู่แถวหน้าๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอนให้วางใจที่กลางกาย กำหนดศูนย์กลางกาย โดยนึกเอาเส้นด้าย 2เส้น ลากตัดกันที่กลางตัว เหนือสะดือ 2นิ้วมือ จากซ้ายไปขวา จากหน้าไปหลัง ผมทำตามอย่างง่ายๆ แป๊บเดียวผมก็วางใจได้นิ่งมาก จนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย กระทั่งถึงเวลาถวายสังฆทานพออาทิตย์ต้นเดือนธันวาคม ผมลางานมาวัดอีก ผมรู้วิธีหาศูนย์กลางกายแล้ว จึงนั่งได้นิ่งเร็วกว่าเดิม รู้สึกโล่งเบาสบาย พอพระเดชพระคุณหลวงพ่อนำนั่งไป 3-4นาที พลันผมได้เห็นคนที่หน้าตาเหมือนผม แต่ใสมากจนมองทะลุได้ หันหน้ามามองผม ผมอยากทราบเหลือเกินครับว่า ทำไมผมเห็นเช่นนั้น และที่ผมเห็นคืออะไร ซึ่งด้วยประสบการณ์ภายในที่พิสดารนี้เอง ทำให้ผมเริ่มอยากศึกษาวิชชานี้อย่างจริงจังผมตัดสินใจขี้นพนาวัฒน์ในเดือนเดียวกันนั้นเอง ประกอบกับคุณแม่ผมมีปัญหาปวดตามาก คุณหมอบอกท่านเป็นต้อหินทั้งสองข้าง อาการหนักมาก ต้องยิงเลเซอร์โดยด่วนที่สุด เพราะจะมืดสนิทลงเมื่อไรก็ได้ แต่คุณแม่ไม่อยากผ่าตัด และไม่สะดวกที่จะเดินทางไกล ผมจึงตัดสินใจที่จะขึ้นไปปฏิบัติธรรมเอาบุญให้คุณแม่แทน ด้วยคิดว่า แม่กับลูกย่อมมีสายใยผูกพัน เมื่อผมสร้างบุญ คุณแม่ย่อมจะต้องได้รับบุญเช่นกัน ผมมั่นใจเช่นนั้นสองวันแรกที่พนาวัฒน์ พระอาจารย์สอนให้ไล่ตามฐานตั้งแต่ฐานที่หนึ่ง ถึงฐานที่เจ็ด ผมไปฟังประสบการณ์ของคนอื่นว่า เขาเห็นดวง ผมก็อยากเห็นมาก เลยลองนั่งแบบเคลื่อนใจไล่ไปตามฐานกับเขาบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเจ้าความอยากนี่เอง ทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยาก ในการค้นหาความลับฐานที่เจ็ด (Secret-Seven) จนวันที่สาม พระอาจารย์อารักษ์ฯมาสอน ท่านให้นั่งในท่าที่สบายที่สุด ไม่เกร็ง ทำใจให้สบาย ทำอิริยาบถให้สดใส ผมเลยบิดตัว บิดคอจนหายเมื่อยแล้วท่านก็สอนให้นึกลากเส้นด้าย หาศูนย์กลางกาย วางใจเบาๆ ที่ตรงนั้น นั่นคือ วิธีการเดียวกับที่ผมเคยฟังพระเดชพระคุณหลวงพ่อสอนตอนมาวัดแรกๆ ผมวางใจตามทันที ได้ผลเช่นเคย ใจของผมเปลี่ยนจากทะยานอยากมาเป็นทะยานหยุด ลงไปนิ่งอยู่กลางท้องอย่างง่ายๆ โดยที่ไม่ได้คิดอะไรเลย แล้วผมก็เห็นจุดสีฟ้าเล็กๆ ผุดที่กลางท้องอย่างต่อเนื่อง แล้วขยายใหญ่เป็นดวงกลมๆ ขยายจนหายไป จุดใหม่ก็เกิดขึ้น ขยายไปทำนองเดียวกัน เห็นเองโดยไม่ต้องอยากเห็นเลยครับเพียงผมทำใจนิ่งเฉยๆ เห็นอยู่อย่างนี้ จนพระอาจารย์กล่าว “สัพเพฯ...” ผมไม่อยากออกจากสมาธิเลย มีปีติจนร้องไห้ออกมาเอง ผมได้พบในสิ่งที่ค้นหามานาน ได้พบความสุขสดใส สุขสันต์สุดๆในวันที่ห้า ผมวางใจนิ่งไว้ตรงตำแหน่งที่ผมรู้จักแล้ว ขณะนิ่งไปสัก 3-4นาที ผมเห็นองค์พระแก้วใส สูงหนึ่งคืบที่กลางท้อง สว่างเป็นรัศมีแผ่ออกมาโดยรอบองค์ ผมเอิบอิ่มใจ จนอยากถ่ายทอดให้ทุกคนทราบ เป็นสมการใจที่ว่า ใจหยุดใจนิ่ง + ทำใจเฉยๆสบายๆ = เข้าถึงพระธรรมกาย คือ สมการใจของคนรุ่นใหม่ตลอดเจ็ดวันนั้น ผมหมั่นอธิษฐานให้คุณแม่ และโทรศัพท์ไปให้ท่านอนุโมทนาบุญกับผมทุกวัน เมื่อผมพาคุณแม่ไปตรวจตาตามนัด คุณหมอเป็นงง ถามว่า ไปทำอะไรมา เพราะตาใสขึ้น ความดันตาทั้งสองข้างที่เคยสูงมากๆลดลง ไม่จำเป็นต้องยิงเลเซอร์แล้ว ให้ยามาหยอด 2อาทิตย์ น้ำตาที่ไหลตลอดเวลาก็หายไป ออกกลางแดดก็สู้แสงได้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนแสงทีวีก็ยังไม่กล้าสู้ ผมมั่นใจว่า นี่คือผลบุญจากการนั่งสมาธิบนพนาวัฒน์จากลูกถึงแม่ และความมุ่งมั่นที่ลูกชายเช่นผม อธิษฐานให้แม่นั่นเองเมื่อช่วยคุณแม่ได้ ผมก็เริ่มใช้วิชชาสมาธิ ช่วยเหลือผู้อื่นตามที่โอกาสจะอำนวย เพราะด้วยอาชีพของผม ผมต้องเจอคนไข้โรคมะเร็ง และเสียชีวิตอยู่บ่อยครั้ง มีรายหนึ่งเป็นหญิงชราอายุ 80ปี เป็นมะเร็งเต้านมขั้นสุดท้าย อยู่ได้ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ เพราะมีน้ำเหลืองไหลออกมาแล้ว ผมบอกคนไข้ และญาติคนไข้ว่า “ให้นำธรรมะมาช่วย ให้คนไข้นึกถึงองค์พระ ทำสมาธิ” ปรากฏว่าเธออยู่ได้เป็นเดือน และจากไปอย่างสงบไม่ทุรนทุรายเหมือนรายอื่นๆ ที่จะเจ็บปวดทรมานทุรนทุรายมากก่อนเสียชีวิตผมกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่เมตตาชี้นำทางสว่างไสวให้แก่ผมและชาวโลก โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยครับกราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงลูก ทศพล ยูนศรีแดง
http://goo.gl/nmsDx