จดหมายจาก ดร.นีน่า มีเยอร์ฮอฟ(สหรัฐอเมริกา)วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2551กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ที่เคารพอย่างสูงค่ะดิฉัน ดร.นีน่า มีเยอร์ฮอฟ ประธานองค์กรยุวชนโลก เมื่อวานดิฉันได้ดู DMC ที่ออกอากาศเรื่องราวของดิฉัน ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งมากๆค่ะ กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากๆ ในความเมตตาที่มีให้ต่อดิฉัน, เป็นเกียรติอย่างสูงสุด จนไม่ทราบว่าจะตอบแทนได้อย่างไรเลย เหมือนพระเดชพระคุณหลวงพ่อ กำลังโอบอุ้มประคับประคองดิฉันไว้ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อชื่นชมดิฉันนั้น ดิฉันต้องขอบคุณมากๆจริง มันช่างมีคุณค่าและมีความหมายมากมาย มากกว่าที่ดิฉันเขียนจดหมายมาขอบคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อซะอีกวันนี้ดิฉันได้นั่งดู DMC กับ ดร.เคนเน็ท ฮูด (Dr. Kenneth Hood)ศาสตราจารย์เกียรติคุณ มหาวิทยาลัยเวอร์มอนท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เราสองคนยังคุยกันเลยว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อช่างมีความสามารถจริงๆ ในการขับเคลื่อนงานด้านศีลธรรมเยาวชน (หรืองานด้านสันติภาพที่ทำโดยเยาวชน) คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ สามารถทำให้พวกเขา (WSYC) รู้สึกมีความสำคัญ สามารถเคลื่อนงานใหญ่ได้ และยังทำให้เขารู้สึกผูกพันกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วย
การที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ สอนด้วยเพลงและภาพนั้น มันดีมาก มันทำให้เกิดอารมณ์ร่วมไปกับสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูด มันช่วยให้คำพูดที่พระเดชพระคุณหลวงพ่ออธิบายนั้น มีน้ำหนักมากขึ้นด้วย และที่น่าประทับใจอีกประการหนึ่งก็คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้แสดงให้เห็นว่า ผู้ใหญ่ควรสนับสนุนกิจกรรมดีๆเหล่านี้ของเยาวชน โดยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนทำให้พวกเขา (WSYC) รู้สึกว่า ตัวเองมีความสำคัญ ซึ่งมันเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ ด้วยการนำเรื่องราวของพวกเขาออกสู่สื่อสาธารณะ คือ DMC ทำให้คนรู้จักพวกเขามากขึ้น โดยเฉพาะในระดับสากลดิฉันสัมผัสได้ว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีความบริสุทธิ์มาก ดิฉันสังเกตจากเวลาพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูด, ยิ้ม พระเดชพระคุณหลวงพ่อทำให้คนฟังปลื้ม มีความสุข น่ามหัศจรรย์ใจจริงๆค่ะ และดิฉันก็สังเกตว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีวิธีการสอนที่เยี่ยมยอดมาก เวลาพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พูด, เล่าเรื่อง มันน่าฟัง และน่าทำตามจริงๆ เป็นการสอนอย่างแท้จริง เพราะสามารถทำให้คนฟัง อยากทำให้ได้อย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูด อยากปรับปรุงแก้ไขตัวเอง และนั่นไม่ใช่สิ่งง่ายเลย สำหรับผู้ที่ทำหน้าที่ครู ที่จะสอนคนทั้งโลกดิฉันเข้าใจเรื่องการแก้ไขตัวเองได้ ก็เพราะสมาธิจริงๆ ยิ่งดิฉันทำตัวเองให้ดีขึ้นได้มากเท่าไหร่ ดิฉันก็จะสามารถชวนคนอื่นให้มาเป็นเหมือนดิฉันได้มากขึ้นเท่านั้น และมันก็จะมีผลต่องานที่ดิฉันกำลังผลักดันมากเท่านั้นเช่นกันตั้งแต่กลับมา ดิฉันก็นั่งสมาธิเป็นประจำ ดิฉันเห็นเลยว่า สมาธิมีประโยชน์อย่างมากในการค้นหาความสุขภายใน ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น มี Ego (อีโก้) น้อยลง มีความเข้าใจคนอื่นและโลกมากขึ้นดิฉันตระหนักถึงความสำคัญของใจมากขึ้นมาก เข้าใจการทำงานว่าถ้าใจดี (จากสมาธิ) ก็จะมีผลกระทบถึงความคิด คำพูดและการกระทำ ขณะนี้ดิฉันก็กำลังช่วยในการจัดประชุมที่แอฟริกาใต้อยู่ ดิฉันรู้สึกว่า พวกเราเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ จากการทำสมาธิมันน่าตื่นเต้นมากที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ อยากให้มีการเชิญเยาวชนมาจากทุกประเทศ เพื่อมาสัมผัสประสบการณ์จากสมาธิ ซึ่งก็จะทำให้เด็กแอฟริกันเหล่านั้น รวมกันเป็นหนึ่งเช่นเดียวกับพวกเรา ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ให้การสนับสนุนพวกเราให้เรื่องนี้ มันเยี่ยมมาก สุดยอดเลยที่ให้นโยบายเรื่องนี้กับพวกเราไปทำงานต่อกราบขอบพระคุณจริงๆค่ะดร.นีน่า มีเยอร์ฮอฟ
![](https://www.dmc.tv/qrcode/cache/qr-code-200-3144.png)
http://goo.gl/buZu2