ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติพีซ เรฟโวลูชั่น

ผลการปฏิบัติธรรมเยาวชนนานาชาติ

ในโครงการพีซ เรฟโวลูชั่น

 

หลังจากที่เยาวชนในโครงการพีซ เรฟโวลูชั่นผ่านการหล่อหลอมทางเว็บไซต์ ทีมงานก็ได้ใช้กลยุทธ์ทุกรูปแบบ คัดเลือกหัวกะทิจากทั่วโลก ผู้สนใจสมาธิ(Meditation)และอยากเห็นโลกเกิดสันติภาพจากสันติสุขภายในให้มารวมตัวกัน การมาเมืองไทยครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีในชีวิตของทุกคน ที่จะเรียนรู้วิธีการทำสมาธิให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เราได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากโครงการ The Middle  Way  โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 ณ  สวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย  มีผู้เข้าร่วมทั้งเยาวชนและพีซโค้ชรวมทั้งสิ้น 17 ท่าน โดยทุกคนมีความตั้งใจและมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี จากตัวแทน 9 ท่าน ดังนี้

 

คนแรกชื่อ กัลฯ แอนนิต้า นุส ชาวแอฟริกาใต้ อายุ 26 ปี

 

 

 

เธอเล่าว่า เมื่อเริ่มนั่งสมาธิ ทำใจผ่อนคลายได้ไม่นาน ดิฉันก็รู้สึกเหมือนมือหายไป ต่อมาแขนหาย และสุดท้ายตัวของดิฉันก็ละลายหายไปด้วย ใจของดิฉันเข้ากลางได้มากขึ้นรู้สึกเหมือนศูนย์กลางกายไม่มีจุดสิ้นสุด  ศูนย์กลางกายของดิฉันสว่างมากกว่าพระอาทิตย์ แต่ขนาดเล็กเหมือนดวงดาว วันต่อมาดวงดาวนั้นขยายขนาดขึ้นเท่าลูกเทนนิส และตรงกลางนั้นก็มีจุดขนาดเท่าดวงดาวที่สว่างมากกว่าลูกเทนนิสปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ  หลังจากนั่งสมาธิ เมื่อดิฉันลืมตาขึ้นมา ก็ปรากฏว่าแสงสว่างยังอยู่ที่ตัวดิฉันและยังรู้สึกโล่งโปร่งสบายค่ะ ดิฉันคิดว่าการทำสมาธิเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและสำคัญที่สุดที่ต้องทำในชีวิต ดิฉันอยากเชิญชวนเยาวชนทุกคนได้มาเข้าร่วมโครงการนี้ แล้วจะทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ  

 

คนที่ 2 ชื่อ กัลฯ จูเลียส มากาล่า ชาวอูกันดา อายุ 24 ปี

 

 

 

กล่าวว่า ครอบครัวของผมเป็นซิกส์ แต่ตัวผมเป็นชาวคริสต์ครับ ประสบการณ์ที่ดีที่สุดของผม อยู่ในวันที่ 3 ของโครงการ ขณะที่นั่งสมาธิ ผมรู้สึกเหมือนตัวหาย และเข้าไปอยู่ในที่โล่งกว้าง มีแสงสว่างส่องมาที่ดวงตา ผมรู้สึกดีมากๆ และเก็บความสุขนี้ไว้ตลอดทั้งวัน ในทุกๆวัน เมื่อตื่นนอน ผมจะใช้เวลา 1 นาที ระลึกว่าตัวเองโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่และส่งความรักให้แก่ผู้อื่นครับ เพียง 1 นาทีหลังตื่นนอน ก็เติมความสุขอย่างแท้จริงให้ชีวิตผมได้  ผมจึงอยากบอกเยาวชนทั้งโลกว่า หากจะมองหาความสุขที่แท้จริงอย่างไม่มีวันหมดสิ้น ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล เราหาความสุขได้จากการทำสมาธิอย่างง่ายๆและผมมีความตั้งใจอยากนำการสอบตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้าไปจัดสอบให้กับเยาวชนในประเทศของผมด้วยครับ

 

คนที่ 3 ชื่อ กัลฯ ซันนี่ ฟอร์ไซท์ ชาวออสเตรเลีย อายุ 28 ปี

 

 

กล่าวว่า  เมื่อผมวางใจไว้ที่กลางกาย ใจผมก็รวม มีรอยยิ้มที่สว่างไสวเกิดขึ้นที่ตรงกลาง แล้วก็พบไข่มุกอยู่ที่กลางนั้น  ผมมีความสุขและสงบมาก มีการบ้านอยู่ข้อหนึ่งสอนให้ผมมองข้อดีของตนเองและผู้อื่น ผมไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย เพราะมัวแต่มองข้อเสียของตนและผู้อื่นจนเป็นนิสัยที่ฝังรากลึก ผมจึงต้องใช้เวลามองหาข้อดีของตนมากหน่อย และผมก็สามารถหาข้อดีของตนได้ซึ่งเป็นประโยชน์กับตัวผมมาก ทำให้ผมผ่อนคลายจิตใจ นั่งสมาธิได้ดีขึ้น และสามารถเอาใจที่มีคุณภาพออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมครับ

 

คนที่ 4 ชื่อ กัลฯ ไอช่า อับดุลลาซิส ชาวเคนย่า อายุ 22 ปี

 

 

กล่าวว่า  วันหนึ่งขณะที่นั่งสมาธิ อยู่ๆใจของดิฉันก็จรดอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ผ่านไปสักพักก็รู้สึกเบา สว่าง และมีความสุข  ทุกวันเมื่อตื่นนอน ดิฉันจะคิดว่าเราโชคดีที่มีชีวิตรอดมาอีกหนึ่งวันและแผ่ความรักให้ทุกคนค่ะ โครงการนี้ช่วยให้ดิฉันค้นหาตัวตนและความสุขภายใน และคิดว่าเราทุกคนก็ควรมาค้นพบและแบ่งปันความสุขนี้ให้ผู้อื่นเช่นกันค่ะ

 

คนที่ 5 ชื่อ กัลฯ เฟรด แอมมานูเอล

หรือ เฟรมม่าชาวอูกันด้า อายุ 26 ปี

 

 

 

กล่าวว่า ตอนที่นั่งสมาธิ ผมเห็นแสงสว่างในหัวครับ เหมือนกำลังอยู่ในสถานที่ที่มีแต่แสงสว่าง จนไม่อยากลืมตา อยากจะแช่อยู่ในนั้นตลอดไป จากนั้นแสงสว่างค่อยๆเปลี่ยนสี และรู้สึกเหมือนตัวเองค่อยๆลอยขึ้น ตัวเบาสบาย จิตใจเป็นอิสระและสงบมากครับ ผมคิดว่าตอนนี้ผมเจอแล้วว่าความสุขอยู่ที่ไหน สมาธิเป็นเหมือนยาวิเศษที่เมื่อได้ลองรับประทานเข้าไปจะทำเราให้มีความสุข แล้วเป็นความสุขที่ไม่สามารถไปหาได้จากที่ไหน ได้มาแบบฟรีๆด้วยไม่ต้องเสียเงินสักนิดเดียว ผมอยากให้คนทั้งโลกได้รับประทานยานี้ครับ ผมตั้งใจว่า กลับไปคราวนี้จะไปแนะนำ Inner Peace ให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวคองโก้ตามที่ตั้งใจไว้   ผมจะไปบอกพวกเขาว่า ความสุขที่แท้จริง ไม่ใช่ฟุตบอลหรือชัยชนะต่างๆ แต่หากเราได้มานั่งหลับตาจะพบคำตอบของความสงบสุข ความเคารพ รู้จักแบ่งปันและความรักที่แท้จริงครับ แล้วผมจะกลับมาเมืองไทยอีกครั้งถ้าผมมีเงินพอสำหรับค่าตั๋วเครื่องบิน เพราะผมอยากบวชเป็นพระสักเดือน สองเดือนครับ เพื่อศึกษาสมาธิให้ลึกซึ้งมากยิ่งๆขึ้นไป

 

 

คนที่ 6 ชื่อ กัลฯ เจา มาเซโล่ เอเมเดียโต้ ชาวบราซิล อายุ 21 ปี

 

 

 

 

กล่าวว่า ผมรู้จักโครงการ Peace revolution ตอนเป็นนักเรียนทุน อยู่ที่สหรัฐอเมริกา พอเข้าไปในเว็บไซต์ก็ตัดสินใจลองนั่งสมาธิ ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน ทำให้ 2 เดือนที่ผ่านมา เป็นเวลาที่วิเศษมากสำหรับผม  ผมได้ใกล้ชิดพระอาจารย์และทุกคนจากทั่วโลก เมื่อนั่งสมาธิ ผมก็รู้สึกสบาย เป็นความรู้สึกแสนวิเศษเหมือนเกิดสมดุลอยู่ภายในครับ

 

คนที่ 7 ชื่อ กัลฯลูซ มาเรีย แอมพูเอโร่ ชาวเปรู อายุ 27 ปี

 

 

 

 

กล่าวว่า  การมาเมืองไทยในครั้งนี้ถือว่าวิเศษมากๆ ดิฉันได้มาปฏิบัติธรรมเพื่อค้นพบประสบการณ์ภายใน ไปแบ่งปันให้บุคคลรอบข้างและค้นพบสันติสุขที่ทุกคนต้องการ สิ่งที่ดิฉันได้รับเมื่ออยู่ที่นี่ คือความรักที่บริสุทธิ์ ไม่ว่าเราจะมีเชื้อชาติใด ศาสนาใดก็ตาม ดิฉันคิดว่า คนที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป แต่ในที่สุด จะรู้สึกได้เหมือนกันถึงความรักที่สะอาดบริสุทธิ์และสันติภาพ ซึ่งทุกคนเข้าถึงได้ค่ะ

 

คนที่ 8 ชื่อ กัลฯ เออซูล่า เลย์ว่า ชาวเปรู อายุ 27 ปี

 

 

 

 

กล่าวว่าประสบการณ์จากนั่งสมาธิที่ดีที่สุดของดิฉันคือ ความรู้สึกที่ตัวเองหายไปกับบรรยากาศ เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลและเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง ดิฉันจะเอาใจจรดอยู่ที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลาทุกอิริยาบถ หากทำแบบนี้แล้วยามใดที่มีปัญหาจะทำให้รู้สึกดีขึ้นค่ะ ดิฉันอยากบอกเยาวชนที่สนใจว่า หากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง เราจะได้ประสบการณ์ที่ดีอย่างแน่นอน โลกใบนี้กำลังต้องการเรา เราสามารถเป็นผู้นำสันติภาพโลกได้ แค่ทำอย่างที่ใจสั่งมาค่ะ

 

คนที่ 9 ชื่อ กัลฯ จูดิส บีดาด ชาวแคนาดา อายุ 28 ปี

 

 

 

 

กล่าวว่า ดิฉันเริ่มนั่งสมาธิโดยไม่คาดหวังอะไร และรวมใจไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ซึ่งต่อมาไม่นานเลย ดิฉันก็รู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง ตัวเบาคล้ายกับไม่มีร่ายกายอยู่ และไม่ปวดเมื่อยด้วย ในศูนย์กลางกายของดิฉัน ก็พบบางสิ่งคล้ายลูกบอลกลมๆอยู่ค่ะ สมาธิทำให้ดิฉันได้อยู่กับตัวเองและอยู่กับแหล่งของความสุขภายใน ซึ่งเกิดขึ้นได้ยากในชีวิตประจำวันค่ะ  และดิฉันสนใจกิจวัตรประจำวัน 10 ข้อของเด็กดีวีสตาร์ว่าต้องทำอะไรบ้าง เพราะดิฉันอยากจะทำอย่างนั้นบ้างค่ะ

 

เมื่อเยาวชนพีซเรฟโวลูกชั่นนั่งสมาธิมีผลปฏิบัติธรรมที่ดีแล้ว ก็พร้อมไปทำหน้าที่ให้แสงสว่างในประเทศของตนเอง โดยได้นำเสนอไอเดียผ่านการสัมมนาสันติภาพโลก เมื่อวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2552 อาทิเช่น อยากจะนิมนต์พระภิกษุไปแนะนำสมาธิในประเทศของตนเอง , อยากให้มีการนั่งสมาธิพร้อมกันทั่วโลกในวัน full moon ,อยากให้มีโค้ชที่คอยให้คำแนะนำ การจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น การจัดลอยโคมต้องทำอย่างไร การจัดตั้งกลุ่มชมรม meditation ต้องทำอย่างไร รวมทั้งอยากให้มีการนำสมาธิเข้าไปในหลักสูตรของการสร้างสันติภาพโลกด้วย

 

นับเป็นผลงานเล็กๆที่ยิ่งใหญ่  ซึ่งทีมงาน Peace Revolution ขอให้สัญญาใจว่าจะเปิดตัวโครงการจริงในเร็ววัน เพื่อคอยขับเคลื่อน งานสร้างสันติภาพแก่พี่น้องชาวโลกในยุคอนาคต

 

http://goo.gl/4NEUf