ชาตินี้ ชาติหน้า

ทำไมสมัยก่อนผู้คนจึงไม่สงสัยเรื่องชาติหน้า แต่ปัจจุบันสงสัยและคิดว่าเป็นเรื่องงมงาย ? เรื่องของภพชาติมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ? https://dmc.tv/a22716

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ข้อคิดรอบตัว
[ 12 ก.ย. 2560 ] - [ ผู้อ่าน : 18265 ]
ชาตินี้ ชาติหน้า

ข้อคิดรอบตัว
เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)
จากรายการข้อคิดรอบตัว ออกอากาศทางช่อง DMC
 

ทำไมสมัยก่อนผู้คนจึงไม่สงสัยเรื่องชาติหน้า แต่ปัจจุบันสงสัยและคิดว่าเป็นเรื่องงมงาย ?


      ความจริงเรื่องนี้มีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น ในสมัยปลายพุทธกาล มีพระราชาเมืองหนึ่งชื่อพระเจ้าปายาสิ ท่านไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ เรื่องโลกนี้โลกหน้า มีอยู่คราวหนึ่งพระกุมารกัสสปะซึ่งเป็นพระอรหันต์พร้อมคณะสงฆ์หมู่ใหญ่จาริกไปถึงนครแห่งนี้ พระราชาประกาศเลยว่าข้าพเจ้าไม่เชื่อว่านรกสวรรค์มีจริง โลกนี้โลกหน้ามีจริงและพิสูจน์มาเรียบร้อยแล้ว พอเจอพระอรหันต์ก็ถามว่า นรกสวรรค์อยู่ตรงไหนช่วยบอกที

       พระกุมารกัสสปะถามว่า พระอาทิตย์พระจันทร์อยู่ในโลกนี้ไหม พระราชาบอกว่าไม่ได้อยู่ แล้วพระจันทร์มีไหม มี เพราะฉะนั้นสิ่งใดไม่มีในโลกไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นไม่มี พระราชาเงียบแล้วเปลี่ยนประเด็นใหม่บอกว่า ถ้าหากนรกสวรรค์มีจริง ทำไมข้าพเจ้าเคยบอกญาติ ๆ ที่เป็นคนเลวว่า ถ้าตายแล้วตกนรกช่วยมาบอกด้วย แต่ก็หายเงียบทุกรายไม่มีใครกลับมาบอกเลย แสดงว่านรกต้องไม่มีพระกุมารกัสสปะถามว่า ถ้าพระองค์จับโจรมาขังคุกเอาไว้ แล้วโจรขอไปเยี่ยมญาติที่บ้าน จะให้ไปไหม พระราชาบอกว่าไม่ พระกุมารกัสสปะบอกว่า คนที่ตายแล้วตกนรก ถึงแม้อยากจะมาบอกพระองค์ว่านรกมีจริงก็มาไม่ได้

       พระราชาถามอีกว่า ญาติที่เป็นคนดีก็มีถ้าสวรรค์มีจริงต้องไปสวรรค์แน่นอน ไม่มีใครขังแล้วคราวนี้ แต่เห็นหายเงียบทุกรายเหมือนกัน พระกุมารกัสสปะตอบว่า ถ้าหากพระองค์เดินตกลงไปในหลุมอุจจาระ พอออกมาจากหลุมได้ ไปล้างเนื้อล้างตัวจนสะอาดแล้วอยากโดดลงไปในหลุมอีกไหม พระราชาบอกว่าไม่ลงแน่นอน พระกุมารกัสสปะบอกว่า เทวดานางฟ้าเหม็นมนุษย์เหมือนกลิ่นศพเน่า ยกเว้นคนมีศีล กลิ่นศีลจะหอมหวนทวนลม แบบนี้เทวดาลงรักษาเลย เพราะมาแล้วเขาได้บุญด้วยพระองค์เองสวรรค์นรกยังไม่เชื่อ ศีลไม่ได้รักษาแล้วทำไมเทวดาจะมาหาจริงไหม พระราชาก็เงียบไปอีก แต่ยังไม่ยอมแพ้ ถามว่า ถ้าหากพระทั้งหลายยืนยันว่าสวรรค์มีจริง ท่านบวชสร้างบุญเยอะแยะได้ไปสวรรค์แน่นอน สวรรค์ดี โลกนี้ลำบาก ทำไมไม่รีบตาย จะได้ไปอยู่บนสวรรค์ พระกุมารกัสสปะตอบว่า ถ้าหากหญิงมีบุตรอยู่ในครรภ์ สามีดีใจมาก บอกว่าลูกคลอดออกมาแล้วจะยกสมบัติให้หมดเลยให้เป็นเศรษฐีใหญ่ของเมือง สบายกว่าอึดอัดอยู่ในท้องตั้งเยอะ แม่ควรจะผ่าท้องควักลูกออกมาเลยไหม เพราะอยู่ข้างนอกสุขสบายทุกอย่างพระราชาก็ตอบว่าไม่ควร ต้องรอถึงจังหวะก่อนพระกุมารกัสสปะกล่าวว่า พระอยู่บนโลกก็สร้างบุญสร้างกุศลให้เต็มที่ก่อน หมดอายุขัยจะได้สุขสบายในสวรรค์ ไม่ใช่ว่าไปฆ่าตัวตายเพื่อจะขึ้นไปบนสวรรค์ ก็ทำนองเดียวกันกับผ่าท้องมาครอบครองสมบัตินั่นแหละ

     พระราชายังไม่ยอมแพ้ บอกว่าข้าพเจ้าเคยทดลองเอาโจรโทษประหารมาฆ่าแบบช้า ๆ พร้อมกับให้อำมาตย์ราชบัณฑิตทั้งหลายสังเกตดูว่าเวลาสิ้นลมจะมีวิญญาณออกจากร่างไหมดูกันเป็นสิบเป็นร้อยคนไม่เห็นมีอะไรออกมาแสดงว่าวิญญาณไม่มี

      พระกุมารกัสสปะบอกว่า จะมานั่งดูวิญญาณด้วยตาเปล่าจะไปเห็นได้อย่างไรต้องปฏิบัติธรรมจึงจะเห็นได้ด้วยญาณทัสนะสมมุติว่า ถ้ามีชาวบ้านโง่เขลากลุ่มหนึ่งเห็นบัณฑิตหยิบสังข์ออกมา แล้วบอกว่านี้คือสังข์เป็นสิ่งที่เป่าให้เกิดเสียงได้ วางสังข์ไว้แล้วบัณฑิตก็จากไป ชาวบ้านทั้งกลุ่มก็มาพลิกซ้ายขวาหน้าหลัง หาเท่าไรก็ไม่เจอเสียง แล้วสรุปว่าบัณฑิตโกหก ท่านคิดว่าชาวบ้านกลุ่มนี้สรุปถูกไหม ไม่ถูก เพราะเขาหาผิดวิธี

       โต้กันยาว จนสุดท้ายพระราชายอมรับว่านรกสวรรค์มีจริง บุญบาปมีจริง แล้วกลับตัวกลับใจมาเป็นสัมมาทิฐิ ตั้งใจปฏิบัติธรรมทำความดี เพราะได้ยอดกัลยาณมิตร คือ พระกุมารกัสสปะ

        ในยุคปัจจุบันคนมีการศึกษาเพิ่มขึ้นหลาย ๆ คนรู้สึกว่า ถ้าวิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ ไม่เชื่อ ตรงนี้อยากจะย้อนถามสักนิดว่าวิทยาศาสตร์รู้ทุกอย่างในโลกในจักรวาลแล้วหรือยัง ยังเลย ทฤษฎีที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบันทางฟิสิกส์ก็คือ ทฤษฎีกลศาสตร์ควอนตัมกับทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ ทฤษฎีสัมพัทธภาพใช้อธิบายของใหญ่ ๆ ได้ดี เช่น จักรวาล กาแล็กซี หรือเอกภพ แต่พอมาเจอของเล็ก ๆ อย่างอะตอม ส่วนย่อยของอะตอมปรากฏว่าอธิบายยาก ต้องอธิบายด้วยทฤษฎีกลศาสตร์ควอนตัม แต่ ๒ ทฤษฎีนี้มีหลาย ๆ อย่างขัดกัน นักฟิสิกส์ยังปวดหัวอยู่เลยว่าแบบไหนถูก ไอน์สไตน์ก็พยายามจะคิดทฤษฎีสนามรวมที่สามารถอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างจากเล็กสุดจนถึงใหญ่สุดให้ได้ ปรากฏว่าไม่สำเร็จ ยังมีอีกเยอะที่วิทยาศาสตร์ยังไม่รู้เพราะฉะนั้นสิ่งที่วิทยาศาสตร์ยังอธิบายไม่ได้มิใช่สิ่งนั้นไม่จริง
 

เรื่องของภพชาติมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ?

         มีศาสตราจารย์นายแพทย์ชาวแคนาดาท่านหนึ่งชื่อเอียน สตีเวนสัน เกิดมาในครอบครัวชาวคริสต์ที่สอนว่าไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด ตายแล้วก็เอาไปฝังรอวันพิพากษาอย่างเดียว แต่เขาแปลกใจว่า ทำไมถึงมีข่าวคนหลาย ๆ คนระลึกชาติได้ จึงตัดสินใจทำวิจัยเรื่องนี้ โดยได้ทุนจากเจ้าของบริษัทเครื่องถ่ายเอกสารซีรอกซ์ ได้มา ๑ ล้านเหรียญ เมื่อประมาณ ๕๐-๖๐ ปีมาแล้ว ถ้าหากเทียบกับเงินปัจจุบันก็หลายร้อยล้านบาท

      พอมีข่าวใครที่ไหนในโลกระลึกชาติได้คุณหมอจะจัดทีมไปตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ไม่ใช่ไปถามธรรมดา แต่มีการพิสูจน์หลาย ๆ รอบให้ชัดเจน พอตรวจสอบจนแน่ชัดว่าจริงก็เอาเรื่องราวเหล่านั้นมาลงในวารสารทางวิชาการ

        คุณหมอทำวิจัยอยู่ ๔๗ ปี เจอคนที่ระลึกชาติได้และพิสูจน์แล้ว ๓,๐๐๐ กว่าราย กรณีที่เจอคนระลึกชาติได้เยอะก็คือ ช่วงวัยเด็กซึ่งความจำเก่ายังตามมา พออายุ ๓๐-๔๐ ปี ก็รางเลือนไปบ้าง แต่เด็กอายุ ๔ ขวบ ๕ ขวบ ๑๐ ขวบ จำแม่น บอกว่าตัวเองเคยเกิดที่นั้น ๆ แล้วก็รบเร้าพ่อแม่ให้พาไป ไปถึงก็ทักถูกหมดคนนั้นชื่ออะไร คนนี้ชื่ออะไร ข้าวของเป็นอย่างไร บ้านมีการเปลี่ยนแปลงก็บอกถูก

      คุณหมอเอียนไม่ได้วิจัยเฉพาะในอเมริกาแต่ไปหมดทุกทวีป เรื่องที่เจอพอตรวจสอบเสร็จก็เอามาลงวารสารทางวิชาการ คนอ่านส่วนใหญ่เป็นนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งไม่เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด เพราะนักวิทยาศาสตร์มีแนวโน้มที่จะไม่เชื่ออะไรที่พิสูจน์ไม่ได้ พวกนี้อ่านแบบจับผิด ถ้ากระบวนการตรวจสอบของคุณหมอเอียน สตีเวนสัน ไม่แม่น ไม่รัดกุมจะโดนท้วงทันที แต่ไม่มีใครท้วงได้เลย แล้วเกิดปรากฏการณ์พิเศษคือ ปกติวารสารวิชาการมีคนอ่านน้อย แต่พอลงเรื่องของคุณหมอก็ขายดิบขายดี ต้องพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกระทั่งตอนนี้ในประเทศอเมริกาซึ่งเป็นสังคมที่มีการศึกษาสูง คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ซึ่งสอนว่าไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด แต่ปรากฏว่าชาวอเมริกันเกินครึ่งประเทศเชื่อว่า คนเรามีการเวียนว่ายตายเกิด เชื่อโดยแย้งกับคำสอนในศาสนาของตัวเอง เพราะหลักฐานมันชัดมากในเมืองไทยเราซึ่งนับถือพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าสอนอย่างละเอียดอยู่แล้วว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง พระเถรานุเถระตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็สอนแล้วสอนอีกว่ามีจริงใครยังไม่เชื่อโดยยังไม่ได้ศึกษาแล้วก็หลงว่าตัวเองเป็นคนสมัยใหม่ มีการศึกษา ไม่เชื่อนรก สวรรค์ ไม่เชื่อบุญบาป ต้องบอกว่าเชยสุด ๆ รีบเปลี่ยนใจเสียใหม่ ก่อนจะปฏิเสธลองไปค้นหาใน google ดูก็ได้ พิมพ์ชื่อนายแพทย์เอียน สตีเวนสัน จะออกมาเป็นชุดเลย ถ้าหากจะไม่ยอมรับ ช่วยหาเหตุผลไปแย้งหน่อยเพราะว่านักวิทยาศาสตร์จำนวนมากเขายอมรับไปแล้ว ว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริงตายแล้วไม่สูญ เขาเรียก Reincarnation หรือ Rebirth การกลับมาเกิดใหม่ ซึ่งมีหลักฐานออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ

        มีตัวอย่างหนึ่งเป็นเด็กอินเดีย อายุ ๑๒ ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.๖ มีอยู่วันหนึ่งระลึกชาติได้ว่า ชาติที่แล้วตัวเองเป็นชาวอเมริกัน เป็นศาสตราจารย์สอนคณิตศาสตร์ สอนฟิสิกส์ในมหาวิทยาลัย พอความทรงจำเก่ากลับมาก็พูดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันเลย ถ้าเราเป็นคนที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกับเด็กคนนี้ปกติพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ อยู่ ๆ วันหนึ่งพูดปร๋อเลย เราจะเชื่อไหม ก็ต้องยอมรับ แต่คนอื่นที่อยู่ไกล ๆ เขาหาว่าไปเอาเด็กอินเดียที่เกิดในอเมริกากลับมาสร้างเรื่องหลอกกันหรือเปล่า แต่มันไม่ได้จบแค่นั้น เด็กคนนี้อยู่ ป.๖พอความรู้เก่ากลับมา สามารถไปเลกเชอร์วิชาแคลคูลัสชั้นสูงให้นักศึกษาปริญญาเอกฟังได้ แบบนี้สร้างเรื่องหลอกได้ไหม

        ตอนคุณหมอเอียน สตีเวนสัน เสียชีวิตหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ซึ่งมีชื่อเสียงมากในอเมริกาลงข่าวสดุดีว่า ท่านเป็นผู้ที่ศึกษาเรื่องการกลับชาติมาเกิดอย่างมีหลักการ ยากที่จะปฏิเสธได้ คือใครจะไม่เชื่อก็ไม่รู้จะเถียงอย่างไร ต้องยอมรับ เพราะเขาไม่ได้นำเสนอแบบความเชื่อ แต่เขาใช้การพิสูจน์ เท่าที่ศึกษามา ๔๐ กว่าปีแล้ว ก็ยังไม่มีเหตุผลหลักฐานที่จะไปคัดค้านได้ว่าการเวียนว่ายตายเกิดไม่จริงมีแต่เหตุผลสนับสนุนทั้งนั้น จะเชื่อหรือไม่เชื่อคุณลองไปศึกษาดูก็แล้วกัน นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ ต้องถือว่าในโลกเขาสรุปจบไปแล้วว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริงหรือเปล่า

        แล้วเราจะทำอย่างไรในเมื่อการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง นรกสวรรค์มีจริง บุญบาปมีจริงเราควรจะเตรียมตัวอย่างไร นี้คือสิ่งที่ควรจะศึกษา
 

ในเมื่อภพชาติมีจริง ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงระลึกชาติไม่ได้ ?

        ตอนที่จะมาเกิด โดยภาพรวมอยู่ในครรภ์มารดาจะมีลมกรรมชวาตทำให้ลืมความทรงจำในอดีต ส่วนบางคนที่ยังจำได้เป็นข้อยกเว้นเพราะว่าสิ่งต่าง ๆ ในโลกไม่มีอะไร ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ทุกกฎมีข้อยกเว้น แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตก็ยังมีมิวเตชัน (Mutation) คือการผ่าเหล่า

       ดังนั้น คนที่ระลึกชาติได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อยกเว้น ถ้าจะเปรียบให้คนปัจจุบันเข้าใจง่ายขึ้น ขอยกตัวอย่างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมไหนก็มีบั๊ก พวกเราใช้คอมพิวเตอร์เคยเครื่องแฮงก์ไหม เคย ถ้าคอมพิวเตอร์ไม่มีบั๊ก มันจะแฮงก์ได้อย่างไร ที่มันแฮงก์คืออาการที่มันเกิดบั๊ก เกิดอาการสะดุดบางอย่างขึ้นมา แม้จะใช้โปรแกรมเมอร์เป็นพัน ๆ คน ก็ยังมีจุดอ่อนเป็นช่องโหว่เหมือนกฎทุกกฎที่มีข้อยกเว้น เด็กที่เกิดมาแล้วระลึกชาติได้ก็ทำนองนี้

       อีกประเภทหนึ่งที่ระลึกชาติได้ก็คือ ผู้มีบุญเยอะ ๆ อย่างพระเตมีย์ ตอนเป็นพระราชกุมารเห็นพ่อสั่งฆ่าโจรก็ระลึกชาติได้ว่า ชาติที่แล้วตัวเองก็เคยเป็นพระราชา เคยฆ่าโจรเหมือนกัน ตายแล้วตกนรก เลยกลัวไม่อยากเป็นพระราชาอีก แกล้งเป็นใบ้ แกล้งง่อยเปลี้ยเสียขา ไม่ขยับเขยื้อน จะได้ไม่ต้องเป็นพระราชา

การเรียนรู้เรื่องภพชาติให้ประโยชน์อย่างไรบ้าง ?


      จริง ๆ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ลองนึกดูอย่างนี้ ถ้าเราเจอคนคนหนึ่งบนถนน แล้วเราเข้าไปถามเขาว่า “คุณมาจากไหน” เขาบอกว่า “ไม่รู้เหมือนกัน” “แล้วคุณจะไปไหน” เขาก็บอก “ไม่รู้เหมือนกัน” “แล้วคุณทำอะไรอยู่” “เห็นคนอื่นเขาเดินอยู่ก็เดินตามเขาไป เขาทำอะไรก็ทำไปกับเขาด้วย” เรารู้สึกว่าคนนี้เป็นอย่างไร แปลกไหม ทั้งแปลกทั้งน่าสงสารและน่าเป็นห่วง มาจากไหนก็ไม่รู้ กำลังจะไปไหนก็ไม่รู้ ไร้ทิศทาง เห็นคนอื่นเขาทำอย่างไรก็ทำตามเขาไปเรื่อย ๆ ซึ่งคนในโลกไม่น้อยเลยเป็นอย่างนี้ ไม่รู้ว่าเกิดมาจากไหน ตายแล้วไปไหนก็ไม่รู้ แล้วทำอะไรอยู่ ก็คนอื่นเขาเรียนหนังสือก็เรียนกับเขา จบแล้วก็หางานทำ มีครอบครัวเลี้ยงลูก แล้วก็ตาย ตายแล้วจะไปไหนไม่รู้อีกเหมือนกัน อย่างนี้อันตราย เราควรจะต้องรู้แผนที่ทางเดินชีวิต ถึงจะสามารถเดินได้ด้วยตัวเองอย่างถูกต้องตรงทาง ไม่พลาดไปตกเหวใครไม่รู้เรื่องนรกสวรรค์ ตายไปตกนรกแย่เลยถ้าเรารู้ก่อนเราก็มีโอกาสเตรียมตัว ไม่ทำบาปทำบุญเยอะ ๆ ตายแล้วก็จะไปสวรรค์ หลวงพ่อท่านถึงได้บอกว่า “จะเชื่อตอนเป็นหรือจะไปเห็นตอนตาย” ถ้าเชื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ยังมีโอกาสเตรียมตัว แต่ถ้าไม่เชื่อแล้วไปทำบาปเข้าไปเห็นตอนตายเป็นอย่างไร ตกนรก ตายแล้วเกิดในนรกเป็นล้านหน

     เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องศึกษา ยิ่งปัจจุบันเทคโนโลยีการศึกษาไปกว้าง แล้วมีคนอุตส่าห์ไปศึกษา ไปพิสูจน์จนกระทั่งสรุปได้แล้วว่าภพชาติมีจริง ๆ ก็ถือว่าเรามีโอกาสดีมาก ๆ จึงควรจะศึกษาและยอมรับเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เรื่องบุญเรื่องบาป แล้วตั้งใจทำความดีกันให้เต็มที่แล้วเราก็จะอยู่รอดปลอดภัย






พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทำไมจีวรพระต้องเป็นสีเหลือง
      ขอไม่นับถือพระสงฆ์
      ข้อคิดธรรมะของพระสุธรรมญาณวิเทศ (สุธรรม สุธมฺโม) จากหนังสือ "หน้าสุดท้าย"
      I can’t respect monks, can I?
      กราบไหว้ทำไม งมงาย !
      Why do people have to pay homage? Ignorant!
      โซเดียม อันตรายใกล้ตัว
      บวชให้สุก
      พลังหญิง
      ตักบาตรใส่บุญ(ตอนที่2)
      ตักบาตรใส่บุญ (ตอนที่1)
      ปัญหามรดก
      ยิ่งใหญ่ในรายละเอียด




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related