คู่บุญเจ้าชายวิลเลี่ยมและเคทพรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด ก่อนนี้อยู่ไกลแสนไกล พรหมลิขิตดลจิตใจ ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ เออชะรอยจะเป็นเนื้อคู่...”แว่วเสียงเพลงดังมา พาให้นึกถึงธรรมะว่าด้วยเหตุแห่งการเป็น “เนื้อคู่” สำหรับผู้ที่ยังมีความรักยังปรารถนาการครองเรือนร่วมกันในภพชาติต่อๆ ไป พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงมีคำแนะนำหลักปฏิบัติ เพื่อบรรลุความปรารถนานั้น ดังใน สมชีวิสูตร ว่าสมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่เภสกฬามฤคทายวัน เขตกรุงสุงสุมารคีระ แคว้นภัคคะ ในเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงครองอันตรวาสก ถือบาตรและจีวรเสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ของกุลปิตาคหบดี ประทับนั่งบนพุทธอาสน์ที่ปูลาดไว้แล้ว ลำดับนั้น นกุลปิตาคหบดีและนกุลมาตาคหปตานีพากันเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นับแต่เวลาที่ข้าพระองค์นำนกุลมารดา ข้าพระองค์ไม่เคยคิดที่จะประพฤตินอกใจนกุลมารดา ไหนเลยจะประพฤตินอกใจด้วยกายเล่า พวกข้าพระองค์ปรารถนาที่จะพบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า”พิธีแต่งงานของเจ้าชายวิลเลี่ยมส่วนนกุลมารดา ก็ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นับแต่เวลาที่นกุลบิดาเมื่อยังหนุ่มนำหม่อมฉันผู้เป็นสาวมา หม่อมฉันไม่เคยคิดที่จะประพฤตินอกใจนกุลบิดา ไหนเลยจะประพฤตินอกใจด้วยกายเล่า พวกข้าพระองค์ปรารถนาที่จะพบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า”พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “คหบดีและคหปตานี ถ้าสามีและภรรยาทั้งสองฝ่ายหวังจะพบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้าทั้งสองฝ่ายพึงมีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะ (การสละ) เสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน สามีและภรรยาทั้งสองฝ่ายนั้นย่อมได้พบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า”สามีและภรรยาทั้งสองฝ่ายเป็นผู้มีศรัทธา รู้ความประสงค์ของผู้ขอสำรวมระวัง ดำเนินชีวิตโดยธรรมเจรจาคำไพเราะอ่อนหวานต่อกันมีความเจริญรุ่งเรือง มีความผาสุกมีความประพฤติเสมอกันทั้งสองฝ่ายรักใคร่ ไม่คิดร้ายต่อกันทั้งสองฝ่ายประพฤติธรรมในโลกนี้มีศีลและวัตรเสมอกัน เสวยอารมณที่น่าใคร่ย่อมเพลิดเพลินบันเทิงใจในเทวโลกดังนั้น แท้จริง เหตุแห่งการเป็น “เนื้อคู่” มิใช่ “พรหมลิขิต” แต่เป็น “กรรมลิขิต” คือ มีการประพฤติธรรมที่เสมอกันด้วยศรัทธา ด้วยศีล ด้วยจาคะ และด้วยปัญญา จึงนำพาให้ทั้งสองมาพบกันสมบรูณ์ด้วยปัญญาหากทั้งสองเป็นคนพร่องศรัทธา พร่องศีล พร่องจาคะ พร่องปัญญา เสมอกัน มาพบเจอกันก็กลายเป็น “คู่เวรคู่กรรม” แต่หากทั้งคู่สมบรูณ์ด้วยศรัทธา สมบรูณ์ด้วยศีล สมบรูณ์ด้วยจาคะ สมบรูณ์ด้วยปัญญา นำพากันสร้างบุญกุศล เมื่อได้มาพบเจอกันในชาติไหนๆ ก็ได้เป็น “คู่บุญ” ที่จะประคับประคองกันสร้างบุญบารมีไปตลอดชีวิตแรงบันดาลใจจากพระไตรปิฎก
โดยพระมหาเถระ รุ่นปี พ.ศ. 2534 หน้า 193 - 195
![](https://www.dmc.tv/qrcode/cache/qr-code-200-11459.png)
http://goo.gl/Q2rv8