ผู้ชนะที่แท้จริงผู้ชนะที่แท้จริงจงอย่าเสียใจ ในยามเสียทีแก่คนพาล และอย่าดีใจหากชนะใครด้วยความชั่ว เพราะนั่นมิใช่ความชนะ หรือความแพ้ที่แท้จริง เป็นความแพ้ที่จะกลับชนะได้ หรือเป็นความชนะที่จะกลับพ่ายแพ้ในที่สุดในสมัยพุทธกาล มีสงครามระหว่างแคว้นมคธและแคว้นโกศล โดยมีเหตุจากพระเจ้าอชาตศัตรู หลงผิดเชื่อคำยุยงของพระเทวทัต จึงยึดอำนาจจากพระเจ้าพิมพิสาร พระราชบิดา แล้วกระทำปิตุฆาต ทำให้พระนางเวเทหิ พระราชมารดาเสียใจมาก หนีกลับไปอยู่บ้านเกิด คือแคว้นโกศล แล้วตรอมใจตายในที่สุดพระเจ้าปเสนทิโกศลพระเจ้าปเสนทิโกศล ผู้เป็นพระเชษฐาพระนางเวเทหิ และเป็นพระสหายกับพระเจ้าพิมพิสาร โกธรแคว้นพระเจ้าอชาตศัตรูผู้เป็นหลาน จึงยึดคืนแคว้นกาสี ซึ่งเป็นของขวัญที่พระเจ้ามหาโกศล พระราชทานให้พระนางเวเทหิ เมื่อคราวอภิเษกสมรสกับพระเจ้าพิมพิสารฝ่ายพระเจ้าแผ่นดินมคธ อชาตศัตรู เวเทหิบุตร จึงยกทัพไปบุกแคว้นกาสี เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงสดับข่าว ก็แต่งทัพออกไปป้องกันเขตแดน เมื่อทำสงครามกัน ปรากฏผลว่า ฝ่ายพระเจ้าปเสนทิโกศลเป็นผู้ปราชัย ก็เสด็จล่าทัพกลับกรุงสาวัตถีราชธานีของพระองค์เวลาเช้า ภิกษุเป็นจำนวนมากเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงสาวัตถีแล้วทราบข่าว ได้กลับมากราบทูลเรื่องราวให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทราบเหตุการณ์พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่าพระผู้มีพระภาคเจ้า“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรูเวเทหิบุตร มีมิตรเลวทราม มีสหายเลวทราม มีพระทัยน้อมไปในคนเลวทราม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายพระเจ้าปเสนทิโกศล มีมิตรดีงาม มีสหายดีงาม มีพระทัยน้อมไปในคนดีงาม วันนี้พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงแพ้มาแล้วอย่างนี้ จักบรรทมเป็นทุกข์ ตลอดราตรีนี้”แล้วได้ตรัสพระคาถาประพันธ์ ว่า“ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์ บุคคลละความชนะและความพ่ายแพ้เสียแล้ว มีใจสงบ นอนเป็นสุข”แต่ในการรบครั้งต่อมา สงครามจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของพระเจ้าอชาตศัตรู ถูกพระเจ้าปเสนทิโกศลจับเป็นเชลยศึกได้ด้วยอุบายการรบ แต่ด้วยความเอ็นดูที่ยังมีต่อหลาน จึงเพียงแต่ยึดพลช้าง พลม้า พลรถ และพลเดินเท้าไว้ แล้วปล่อยตัวกลับไปเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทราบ ได้ตรัสพระคาถากับภิกษุทั้งหลายว่าบุรุษจะแย่งชิงเขาได้สำเร็จ ก็เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่เมื่อใด ถูกคนเหล่าอื่นแย่งชิงกลับ ผู้นั้นย่อมเป็นผู้ถูกแย่งชิง เพราะว่า คนพาลย่อมสำคัญว่าเป็นสุข ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล แต่บาปให้ผลเมื่อใด คนพาลย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้นผู้ฆ่าย่อมได้รับการฆ่าตอบผู้ชนะย่อมได้รับการชนะตอบผู้ด่าย่อมได้รับการด่าตอบและผู้โกธรย่อมได้รับความโกธรตอบฉะนั้น เพราะความหมุนกลับแห่งกรรม ผู้แย่งชิงนั้นย่อมถูกเขาแย่งชิงเรื่องนี้ เป็นอุทาหรณ์ให้เห็นว่า ความแพ้ความชนะที่เกิดจากการสาดใส่กิเลสเข้าหากัน รังแต่นำมาซึ่งความทุกข์ เป็นความพ่ายแพ้ทั้งสองฝ่าย ผู้ชนะย่อมก่อเวร ถูกจองเวร ผู้แพ้ก็เสียใจ นอนเป็นทุกข์ และหาทางแก้แค้นกลับคืนฉะนั้นพึงเป็นผู้ชนะด้วยความดีเถิด เพราะความเป็นผู้ชนะที่แท้จริง ย่อมเกิดได้ด้วยความดีเท่านั้น ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนว่าอกฺโกเธน ชิเน โกธํ
อสาธุํ สาธุนา ชิเน
ชิเน กทริยํ ทาเนน
สจฺเจนาลิกวาทินํ ฯ ๒๒๓ ฯ
พึงเอาชนะความโกรธ ด้วยความไม่โกรธ
พึงเอาชนะความร้าย ด้วยความดี
พึงเอาชนะคนตระหนี่ ด้วยการให้
พึงเอาชนะคนพูดพล่อย ด้วยคำสัตย์
แรงบันดาลใจจากพระไตรปิฎก
โดยพระมหาเถระ รุ่นปี พ.ศ. 2534 หน้า 23 - 26
![](https://www.dmc.tv/qrcode/cache/qr-code-200-11016.png)
http://goo.gl/UATNA