แรงบันดาลใจจากพระไตรปิฎกณ ป่าประดู่ลาย
ยอดกุศลธรรมดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รอยเท้าของสัตว์ทั้งหลายที่เที่ยวไปบนแผ่นดินเหล่าใดเหล่าหนึ่งรอยเท้าเหล่านั้นทั้งหมด ย่อมถึงความรวมลงในรองเท้าเหล่านั้นทั้งหมด ย่อมถึงความรวมลงในรอยเท้าช้าง รองเท้าช้าง โลกกล่าวว่า เป็นยอดของรองเท้าเหล่านั้นเพระาความเป็นของใหญ่ แม้ฉันใด
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ก็ฉันนั้นเหมือนกันแล กุศลธรรมเหล่านั้นทั้งหมด มีความไม่ประมาทเป็นมูลประชุมลงในความไม่ประมาท ความไม่ประมาท บัณฑิตกล่าวว่า เป็นยอดของกุศลธรรมเหล่านั้น
อัปปมาทสูตร เล่ม 38 หน้า 35
กุศลธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราไม่สรรเสริญแม้ซึ่งความตั้งอยู่ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไฉนจะสรรเสริญความเสื่อมรอบในกุศลธรรมทั้งหลายเล่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แต่เราสรรเสริญความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลาย มิใช้ความตั้งอยู่ มิใช้ความเสื่อมในกุศลธรรม
ฐิติสูตร เล่ม 38 หน้า 173
อาหารของอวิชชา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เงื่อนต้นแห่งอวิชชาย่อมไม่ปรากฎในกาลก่อน แต่นี้ อวิชชาไม่มี แต่ภายหลังจึงมี เพราะเหตุนั้น เราจึงกล่าวคำนี้อย่างนี้ว่า ก็เมื่อเป็นเช่นนั้น อวิชชามีข้อนี้เป็นปัจจัยจึงปรากฎ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมกล่าวอวิชชาว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
อะไรเป็นอาหารของอวิชชา ควรจะหล่าวว่า นิวรณ์ 5
อะไรเป็นอาหารของนิวรณ์ 5 ควรกล่าวว่า ทุจริต
อะไรเป็นอาหารของทุจริต 3 ควรกล่าวว่า การไม่สำรวมอินทรีย์
อะไรเป็นอาหารแห่งการไม่สำรวมอินทรีย์ ควรกล่าวว่า ความไม่มีสติสัมปชัญญะ
อะไรเป็นอาหารของความไม่มีสติสัมปชัญญะควรกล่าวว่า การกระทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาบ
อะไรเป็นอาหารของการทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย ควรกล่าวว่า ความไม่มีศรัทธา
อะไรเป็นอาหารของความไม่มีศรัทธาควรกล่าวว่า การไม่ฟังสัทธรรม
อะไรเป็นอาหารของการไม่ฟังสัทธรรมควรกล่าวว่า การไม่คบสัปบุรุษ
อวิชชาสูตร เล่ม 38 หน้า 197
เทวทูต
เหล่านายนิรยบาลจะจับสัตว์นั้นที่ส่วนต่างๆ ของแขนไปแสดงแก่พระยายมว่า ข้าแต่พระองค์ บุรุษนี้ไม่ปฏิบัติชอบในมารดา ไม่ปฏิบัติชอบในสมณะ ไม่ปฏิบัติชอบในพราหมณ์ ไม่อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในสกุลของพระองค์จงลงอาชญาแก่บุรุษนี้เถิด
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พระยายมจะปลอบโยน เอาอกเอาใจ ไต่ถามถึงเทวทูตที่ 1 กะสัตว์นั้นว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 1 ปรากฏในหมู่มนุษย์หรือ สัตว์นั้นทูลอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่เห็นเลยเจ้าข้า
พระยายมถามอย่างนี้ว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นเด็กแดงๆ ยังอ่อนนอนแปดเปื้อนมูตรคูถของตนอยู่ในหมู่มนุษย์หรือสัตว์นั้นทูลอย่างนี้ว่า เห็นเจ้าข้า
พระยายมถามอย่างนี้ว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเริญท่านนั้นรู้ความ มีสติ เป็นผู้ใหญ่แล้ว ได้มีความดำริดังนี้บ้างไหมว่าแม้ตัวเราแล ก็มีความเกิดเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเกิดไปได้ ควรที่เราจะทำความดีทางกาย ทางวาจา และทางใจ สัตว์นั้นทูลอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่อาจ เจ้าข้า มัวประมาทเสียเจ้าข้า พระยายมกล่าวอย่างนี้ว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้ทำความดีทางกาย ทางวาจา และทาางใจไว้เพราะมัวประมาทเสีย ดังนั้น
เหล่านายนิรยบาลจักลงทษโดยอาการที่ท่านประมาทแล้วก็บาปกรรมนั้นแล ไม่ใช้มารดาทำให้ท่าน ไม่ใช้บิดาทำให้ท่าน ไม่ใช้พี่น้องชายทำให้ท่าน ไม่ใช้พี่น้องหญิงทำให้ท่านไม่ใช้มิตรอำมาตย์ทำให้ท่าน ไม่ใช้ญาติสาโลหิตทำให้ท่าน ไม่ใช้สมาณะและพราหมณ์ทำให้ท่าน ไม่ใช้เทวดาทำให้ท่าน ตัวท่านเองทำเข้าไว้ ท่านเท่านั้นจักเสวยวิบากของบาปกรรมนี้
...ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 2 ปรากฏในหมู่มนุษย์หรือ (เห็นหญิงหรือชายมีอายุ 80 ปี 90 ปี 100 ปี นับแต่เกิดมาผู้แก่ ซี่ดครงคด หลังงอ ถึงไม้เท้า งกเงิ่น เดินไป กระสับ กระส่าย ล่วงวัยหนุ่มสาว ฟันหัก ผมหงอก หนังย่น ศีรษะล้าน เหี่ยว ตัวตกกระ ในหมู่มนุษย์)...ฯลฯ
...ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 3 ปรากฏในหมู่มนุษย์หรือ (หญิงหรือชาย ผู้ป่วย ทนทุกข์เป็นไข้หนัก นอนเปื้อนมูตรคูถของตนมีคนอื่นคอยพยุงเดิน ในหมู่มนุษย์) ... ฯลฯ
...ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 4 ปรากฏในหมู่มนุษย์หรือ (เห็นพระราชาทั้งหลาย ในหมู่มนุษย์จับโจรผู้ประพฤติผิดมาแล้วสั่งลงกรรมกรณ์ต่างชนิด)...ฯลฯ
...ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 5 ปรากฏในหมู่มนุษย์หรือ (หญิงหรือชายที่ตายแล้ววันหนึ่ง หรือสองวัน หรือสามวันขึ้นพอง เขียวช้ำ มีน้ำเหลืองเยิ้มในหมู่มนุษย์)...
เทวทูตสูตร เล่ม 23 หน้า 190
http://goo.gl/3NuJx