เอาเต่าเป็นครูเอาเต่าเป็นครูสังคมปัจจุบันนี้มีภัยอยู่รอบตัว โดยเฉพาะภัยทางอารมณ์ที่คอยรุมเร้าจิตใจของเราให้เศร้าหมอง เร่าร้อนกระวนกระวาย ทำให้เกิดความทุกข์ใจอยู่เสมอ แต่ถ้าเรารู้จักระวังป้องกันภัยเหล่านั้นอย่างถูกวิธี ใจของเราก็จะรอดพ้นจากอันตรายนั้นได้การรู้จักระวังป้องกันภัยที่จะมาทำร้ายใจ ในทางธรรมะ เรียกว่า “อินทรีย์สังวร” หมายถึงการสำรวมอินทรีย์ทั้ง ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เพื่อปิดกั้นไม่ให้บาปอกุศลหรือสิ่งที่จะทำให้ใจเศร้าหมองเข้าสู่ภายในได้ ถ้าเรารู้จักสำรวมอินทรีย์ มีสติรู้เท่าทันอารมณ์ต่างๆ ภายนอก เราก็จะสามารถรักษาใจให้สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอเรื่องนี้พระพุทธองค์ตรัสไว้ใน กุมมสูตร โดยอุปมาไว้ว่า“มีเต่าตัวหนึ่งเที่ยวหากินอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเล็กๆ สายหนึ่ง วันหนึ่งในเวลาเย็นได้มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งเดินผ่านมาพบเข้า เต่าเห็นสุนัขจิ้งจอกเดินมาแต่ไกล ก็รีบหดอวัยวะทุกส่วนของร่างกายเข้าไปอยู่ในกระดองและนิ่งอยู่ฝ่ายสุนัขจิ้งจอกเมื่อเห็นเต่าก็อยากกินเนื้อเต่าฝ่ายสุนัขจิ้งจอกเมื่อเห็นเต่า ก็อยากกินเนื้อเต่า ดังนั้นจึงหยุดนิ่ง และคอยจ้องดูว่า เมื่อใดเต่าจะเหยียดคอหรือขาข้างใดข้างหนึ่งออกมานอกกระดอง เราจะงับและฟาดมันให้กระดองแตกแล้วกินเนื้อมันทันทีส่วนเจ้าเต่าดูเหมือนว่า จะรู้ความคิดของสุนัขจิ้งจอกจึงไม่ยอมยื่นขาหรือคอออกนอกกระดองเลย ทนนิ่งอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน ในที่สุด สุนัขจิ้งจอกก็ทนรอไม่ไหว จึงเดินหนีไปด้วยความผิดหวังภิกษุทั้งหลาย ตราบใดที่เธอทั้งหลาย คุ้มครองอินทรีย์(คือรักษาใจเมื่อรับอารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ) เมื่อเห็นรูป (คือ...มองเห็นสิ่งต่างๆ) ทั้งเมื่อมองโดยรวม และมองแยกส่วน ส่วนใจก็ไม่ยินดียินร้าย ระมัดระวังการรับอารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ“มาร” คือ อภชฌา ความโลภจ้องอยากได้ของคนอื่นและโทมนัส ความเสียใจทุกข์ใจ จะไม่มีโอกาสทำให้พวกเธอตกเป็นเหยื่อได้”นั่งสมาธิปฏิบัติธรรมเป็นประจำแม้ว่าภัยอันตรายที่จะมาทำร้ายใจ จะมีมากมายเพียงใด แต่ถ้าเราหมั่นรักษาใจด้วย “อินทรีย์สังวร” มีสติรู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ ปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่น ตั้งใจนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมเป็นประจำ ชีวิตของเราก็จะพบความสงบสุขและปลอดภัยปราศจากอันตรายใดๆ ในชีวิตอย่างแน่นอนแรงบันดาลใจจากพระไตรปิฎก
โดยพระมหาเถระ รุ่นปี พ.ศ. 2534 หน้า 228 - 229
http://goo.gl/646vz