ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 17

มหาชนได้ฟังพระราชาตรัสเล่าเรื่องราวของสัตว์นรก และบาปกรรมที่ทำให้ต้องไปตกนรกเช่นนั้น ก็เกิดความหวาดกลัวบาปกรรม ต่างรับปากกับพระเจ้าเนมิราชว่า จะไม่ทำบาปอกุศลอย่างนั้นอีกต่อไป https://dmc.tv/a2016

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ทศชาติชาดก > พระเนมิราช
[ 4 ก.ค. 2550 ] - [ ผู้อ่าน : 18270 ]
 
ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  เนมิราช   ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี  ตอนที่ 17
 
 
        จากตอนที่แล้ว เหล่าทวยเทพในเทวสมาคมซึ่งรอคอยอยู่  เมื่อเห็นเวชยันตรถเริ่มปรากฏที่ซุ้มประตูจิตกูฏ ต่างก็ร่าเริงยินดีส่งเสียงสาธุการ  ถือเครื่องหอมและดอกไม้ทิพย์ ไปยืนรอรับเสด็จพระเจ้าเนมิราช  นำเสด็จเข้าสู่สุธรรมาเทวสภา

        ต่างกล่าวสรรเสริญชื่นชมพระเจ้าเนมิราช ที่ได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรคอยชี้แนะทางสวรรค์  ห้ามขาดจากอกุศลกรรมทุกชนิด  จึงได้มาเสวยทิพยสมบัติอย่างโอฬารถึงปานนี้  แล้วก็อัญเชิญให้เสด็จขึ้นประทับนั่งบนทิพอาสน์ใกล้กับท้าวสักกะเทวราช และกระทำสักการบูชา

        ท้าวสักกะจอมเทพทรงสดับเทพบริษัทของพระองค์กล่าวสรรเสริญพระเจ้าเนมิราช ก็ยิ่งเลื่อมใสในท้าวเธอ ได้ตรัสเชื้อเชิญให้ทรงอยู่เสวยกามคุณอันเป็นทิพย์ในเทวโลก โดยจะทรงแบ่งสมบัติทิพย์ให้

        แต่พระเจ้าเนมิราชก็มิได้ทรงปรารถนา จึงมีพระดำรัสห้ามว่า “สิ่งใดที่ได้มาเพราะผู้อื่นให้  สิ่งนั้นเปรียบเหมือนทรัพย์ที่ยืมเขามา   หม่อมฉันไม่ปรารถนาเลย  บุญที่หม่อมฉันทำเอง  ย่อมเป็นทรัพย์อันประเสริฐที่จะติดตามตนไป  หม่อมฉันจักกลับไปทำกุศลให้มากในหมู่มนุษย์”

        หลังจากทรงแสดงธรรมจบลงแล้ว  พระเจ้าเนมิราชบรมโพธิสัตว์ ก็ได้ตรัสอำลาท้าวสักกเทวราช ท้าวเธอจึงมีเทวโองการสั่งให้มาตลีเทพบุตรจัดเตรียมทิพยาน  แล้วมาตลีเทพสารถีก็ได้นำเทวรถส่งเสด็จพระเจ้าเนมิราชกลับถึงกรุงมิถิลานคร มหาชนเห็นเทวรถมาแต่ไกลก็เกิดโกลาหลอีกครั้ง

        เมื่อเทวรถปรากฏเข้ามาใกล้ ต่างก็แซ่ซ้องสาธุการว่า “ใช่แล้ว พระราชาของเราเสด็จกลับมาแล้ว” มาตลีเทพสารถีได้ขับทิพยานเวียนขวารอบกรุงมิถิลา  ๓  รอบ และส่งเสด็จพระเจ้าเนมิราชที่สีหบัญชรเช่นเดียวกับเมื่อตอนที่มารับเสด็จ 

        เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว มาตลีเทพสารถีก็ทูลลาพระเจ้าเนมิราชกลับไปสู่ดาวดึงส์เทวโลกที่อยู่ของตนดังเดิม 

        ฝ่ายมหาชนนั้นเล่า ต่างมีความเบิกบานภาคภูมิใจในพระเจ้าเนมิราชบรมโพธิสัตว์ ผู้เป็นพระราชาของตนยิ่งนัก มาชุมนุมกันกราบทูลขอให้พระเจ้าเนมิราชาตรัสเล่าถึงการไปเที่ยวชมเทวโลก

        พระเจ้าเนมิราชทรงดำริว่า สมควรที่จะเล่าถึงนรกอันร้ายกาจ เพื่อให้ประชาราษฎร์เกรงกลัวภัยในอบายภูมิเสียก่อน จึงเล่าถึงสมบัติของเหล่าเทวดาในภายหลัง จึงตรัสว่า “ท่านทั้งหลาย จงตั้งใจฟังให้ดี นรก สวรรค์ นั้นมีจริง เราได้ไปเห็นมาด้วยนัยน์ตาของเราแล้ว”

        ตรัสดังนี้แล้ว ก็ทรงเริ่มเล่าเรื่องราวในนรกที่พระองค์ไปประสบมาแต่ต้น เริ่มตั้งแต่ แม่น้ำเวตรณีของอุสสุทนรกขุมที่ ๑ ซึ่งเต็มไปด้วยเถาวัลย์ที่มีหนามเหล็กยื่นยาวเหมือนคมหอก ที่รอต้อนรับสัตว์นรกที่หลุดออกมาจากสัญชีวมหานรก ให้ลงมาแหวกว่ายถูกหนามเหล็กเชือดเฉือน   ได้รับความทุกข์ทรมาน ตายเกิด ตายเกิดอยู่ในมหาทนีอันหฤโหดแห่งนั้นยาวนาน เพราะบาปกรรมครั้งที่เป็นมนุษย์ได้เคยเบียดเบียนทำร้ายผู้ที่ด้อยกำลังกว่า ทั้งทรมานเข่นฆ่าสัตว์ทั้งเล็กและใหญ่ จึงต้องมารับทุกข์โทษอยู่ ณ อุสสุทนรกขุมนี้

        มาจบลงที่อุสสุทนรกขุมมิจฉาทิฐิ ที่เหล่าสัตว์นรกนั้น เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ไม่เชื่อบุญไม่เชื่อบาปไม่เชื่อว่าปรโลกจะมีจริงๆ จึงก่อบาปอกุศลโดยมิได้เกรงกลัว และชักชวนให้ผู้อื่นหลงผิดไปกับตนด้วย จึงได้ไปเกิดอยู่ในอุสสุทนรกนั้น

        มหาชนได้ฟังพระราชาตรัสเล่าเรื่องราวของสัตว์นรก และบาปกรรมที่ทำให้ต้องไปตกนรกเช่นนั้น ก็เกิดความหวาดกลัวบาปกรรม ต่างรับปากกับพระเจ้าเนมิราชว่า จะไม่ทำบาปอกุศลอย่างนั้นอีกต่อไป แล้วก็ทูลถามถึงทิพยสมบัติของพวกเทวดาว่า ที่ทรงเห็นมานั้นเป็นอย่างไรบ้าง

        พระเจ้าเนมิราชก็ตรัสเล่า เริ่มตั้งแต่ได้ทอดพระเนตรวิมานอันประดิษฐานอยู่ในอากาศของเทพธิดาวรุณี ซึ่งมี ๕ ยอด สูง ๑๒ โยชน์  ประดับประดาอย่างโอฬาร  อีกทั้งอุทยาน และสระโบกขรณีก็สะพรั่งด้วยดอกบัวหลายหลากสี มีต้นกัลปพฤกษ์ล้อมรอบสระ

        ส่วนเทพธิดาเจ้าของวิมานนั้น ครั้งเป็นมนุษย์ได้เกิดเป็นลูกของนางทาส อาศัยอยู่ในบ้านของพราหมณ์คนหนึ่ง  นางได้ช่วยจัดข้าวยาคู ของขบเคี้ยว และภัตตาหารถวายแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน ๘ รูป พร้อมทั้งได้ถวายของเล็กๆ น้อยๆ ของตนด้วยความปลื้มใจ

        แล้วได้ตรัสเล่าถึงทิพยสมบัติอันโอฬารของท้าวสักกเทวราช และที่ทรงได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่จากท้าวเธอและเทพบริวาร ว่าทรงได้รับการเชื้อเชิญจากท้าวเธอให้อยู่เสวยกามสมบัติอันเป็นทิพย์ แต่ก็มิได้ปรารถนาจึงได้กลับมาเล่าเรื่องราวให้พวกท่านได้ฟังอยู่ในขณะนี้

        แล้วก็ได้ตรัสสอนชาวประชาทั้งหลายว่า ในอดีตเทวดาเหล่านั้นต่างก็ได้ทำบุญให้ทาน เว้นจากบาปกรรมทั้งหลาย   จึงได้บังเกิดในเทวโลกเสวยทิพยสมบัติมากมาย    ตรัสเตือนให้เหล่าพสกนิกรของพระองค์อย่าได้ประมาท ให้ตั้งใจทำบุญให้เต็มที่   ให้ตั้งตนอยู่ในศีล ๕ อย่าให้ขาดได้

        พสกนิกรของพระเจ้าเนมิราชนั้น ทั้งทราบซึ้งและเลื่อมใสในท้าวเธอ ได้ตั้งอยู่ในพระบรมราโชวาทจนตลอดชีวิต หลังจากละจากโลกมนุษย์แล้ว  ล้วนบังเกิดในเทวโลกเป็นสหายเทวดากันทุกคน 

        ครั้นกาลผ่านไปอีกเนิ่นนาน  วันหนึ่งนายภูษามาลาได้เห็นพระเกศาเส้นหนึ่งบนพระเศียรของพระเจ้าเนมิราชได้หงอกขาวแล้ว จึงกราบทูลพระองค์ให้ทรงทราบ  ท้าวเธอจึงทรงมีรับสั่งให้นายภูษามาลาถอนพระเกศาเส้นนั้น ด้วยพระแหนบทองคำวางไว้ในพระหัตถ์  

        ทรงทอดพระเนตรผมหงอกนั้นแล้วก็ทรงสลดพระหฤทัย ดำริว่า ถึงเวลาที่เราจะต้องบวชแล้ว จึงพระราชทานบ้านส่วยแก่นายภูษามาลา แล้วรับสั่งให้พระราชโอรสเข้าเฝ้า ตรัสมอบราชสมบัติแก่พระราชโอรส  พระโอรสได้ทูลถามว่า  “ เพราะเหตุไร พระองค์ถึงจะเสด็จออกผนวชเสียล่ะ  พระเจ้าข้า” 

        พระเจ้าเนมิราชได้ตรัสบอกเหตุแก่พระโอรสว่า  “ลูกรัก ผมหงอกที่งอกขึ้นบนศีรษะของพ่อนี้    ได้บอกพ่อว่า วัยหนุ่มของพ่อได้ผ่านไปแล้ว  ทูตแห่งมรณะได้ปรากฏแล้ว  เป็นเวลาอันสมควรที่พ่อจะออกบวช”

        ประเพณีอันดีงามเช่นนี้ก็เหมือนกับพระราชาพระองค์ก่อนๆ ที่ได้เคยถือปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน   พระเจ้าเนมิราชนี้ก็เช่นเดียวกัน  เมื่อได้ผนวชแล้วก็ประทับอยู่ ณ พระราชอุทยานอัมพวัน  สวนมะม่วงนั้นนั่นเอง  ทรงเจริญพรหมวิหาร ๔ จนเชี่ยวชาญในอภิญญาสมาบัติ

        ทรงไม่เสื่อมถอยจากฌานนั้น  เมื่อสิ้นพระชนม์แล้ว ก็ได้ไปบังเกิดในพรหมโลกเฉกเช่นพระราชาต้นพระวงศ์องค์ก่อนๆ ที่สืบต่อมาอย่างเคร่งครัด

        ฝ่ายพระโอรสของพระเจ้าเนมิราชซึ่งมีพระนามว่า กาลารัชชกะ  ได้ทรงตัดพระวงศ์อันดีงามนี้เสียคือ เมื่อถึงคราวที่มีพระเกศาหงอกแล้ว  ก็ไม่ได้เสด็จออกผนวชเหมือนกับต้นวงศ์ตระกูลที่ผ่านๆ มา

        พระบรมศาสดาครั้นทรงนำอดีตชาติของพระองค์มาตรัสแล้ว  ทรงสรุปชาดกว่า  “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  ไม่ใช่แต่ในกาลบัดนี้เท่านั้นที่เราออกบวช   ถึงแม้ในกาลก่อนตถาคตก็ออกบวชเช่นเดียวกัน” 

        จากนั้นก็ทรงประชุมชาดกว่า   “ท้าวสักกะเทวราช ในครั้งนั้น มาเกิดเป็นพระอนุรุทธเถระในบัดนี้   มาตลีเทพสารถีได้มาเป็นพระอานนท์  กษัตริย์  ๘๔, ๐๐๐ พระองค์ เป็นพุทธบริษัท   ส่วนพระเจ้าเนมิราช  คือเราตถาคตนี้เอง”

        เรื่องพระเจ้าเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมีนี้ เป็นเรื่องที่ยืนยันว่า นรก สวรรค์มีจริง ซึ่งตรัสเล่าโดยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง ซึ่งต่อมาพระอรหันตเถระทั้งหลายก็ได้ร้อยกรองสรุปย่อไว้ในพระไตรปิฎก พระอรรถกถาจารย์ในชั้นหลังได้นำมาอธิบายขยายความให้กระจ่างขึ้น

        เป็นเรื่องอัศจรรย์ดุจเดียวกับเรื่องทั้งหลายที่เล่าผ่านมา เพราะเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับบุคคลอัศจรรย์คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อนำมาเล่าก็ย่อมเป็นที่น่าอัศจรรย์ พระอรรถกถาจารย์ทั้งหลายจึงได้บันทึกไว้ ให้ผู้มีปัญญาทั้งหลายได้ศึกษา จะได้ทำได้ถูกต้องตามพุทธประสงค์

        เราจะเห็นได้ว่าพระบรมโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญอธิษฐานบารมีอย่างยิ่งยวด โดยทรงทำพระองค์ให้เป็นแบบอย่างก่อน แล้วก็อธิษฐานจิต พร้อมทั้งสั่งเอาไว้ว่า กษัตริย์ทุกๆ พระองค์ที่จะครองราชย์ต่อไป เมื่อเห็นเส้นผมหงอกบนศีรษะแล้วก็จงออกบวชเหมือนกับเรานี้ และด้วยแรงอธิษฐานนั้น จึงทำให้เป็นไปตามนั้นตลอดกาลนาน

        เราทั้งหลายจึงควรเร่งสั่งสมบุญบารมีร่วมกันในชาตินี้ให้เต็มที่เช่นเดียวกับท่าน ด้วยการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา และทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้ครบถ้วนทุกวัน แล้วอธิษฐานจิตให้รอบคอบ ชีวิตของเราก็จะมีแต่ความสุขความเจริญไปทุกภพทุกชาติตราบวันเข้าถึงที่สุดแห่งธรรม
 
 

พระธรรมเทศนาโดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์  (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) 
 

http://goo.gl/ayZib

     
Tag : ให้ทาน  เทศนา  เทวรถ  เทวดา  สาธุ  สวรรค์  มหานรก  ภัตตาหาร  พระราชภาวนาวิสุทธิ์  ปัญญา  ปรโลก  บุญ  บารมี  บริวาร  นรก  ทุกข์  ทำทาน  ท้าวสักกะ  ชาดก  กัลยาณมิตร  dhamma  

พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 2 ต้นเหตุแห่งเภทภัย
      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 1 การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 200
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 199
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 198
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 197
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 196
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 195
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 194
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 193
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 192




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related