ทศชาติชาดก เรื่องสุวรรณสาม ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี ตอนที่ 11

มาถึงตรงนี้ มีปัญหาอยู่ประการหนึ่ง ดังที่เคยสดับมาว่าผู้ที่เจริญเมตตาจิตอยู่เป็นประจำนั้น ย่อมได้รับอานิสงส์ถึง 11 ประการ หนึ่งใน 11 ประการนั้นก็กล่าวไว้ชัดเจนว่า ไฟ ศัสตรา และยาพิษไม่อาจกล้ำกราย ก็แล้วพระโพธิสัตว์ผู้เจริญเมตตาจิตอยู่เป็นประจำ ทำไมจึงถูกยิงได้เล่า https://dmc.tv/a1373

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ทศชาติชาดก > สุวรรณสาม
[ 10 มี.ค. 2550 ] - [ ผู้อ่าน : 18272 ]
 
ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  สุวรรณสาม   ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี  ตอนที่ 11
 

        จากตอนที่แล้ว  สุวรรณสามพระโพธิสัตว์เฝ้าปรนนิบัติบำรุงบิดามารดาด้วยความร่าเริงเบิกบาน จะคอยถนอมน้ำใจมิให้บิดามารดาต้องกระทบกระเทือนใจเลย  ทั้งน้ำฉันน้ำใช้ มูลผลาผลนานาชนิด พระโพธิสัตว์จะจัดเตรียมไว้ให้บุพการีทั้งสองไม่เคยบกพร่อง     คราวใดที่จะละจากอาศรม แม้เพียงเพื่อจะไปตักน้ำยังแม่น้ำมิคสัมมตา พระโพธิสัตว์จะเข้าไปกราบเท้าบิดามารดาทั้งสองเสียก่อน เพื่อให้ท่านสบายใจไม่เป็นห่วง

        ในแต่ละวัน เมื่อมีเวลาว่างก็จะเจริญภาวนาแผ่เมตตา ด้วยอานุภาพแห่งเมตตาธรรม ที่พระโพธิสัตว์เจริญอยู่เนืองนิตย์ ทำให้สัตว์ป่านานาชนิดทั้งเก้ง กวาง เลียงผา กระจง กระจ้อนเกิดความคุ้นเชื่อง ได้พากันมาแวดล้อมพระโพธิสัตว์

        กล่าวถึงกรุงพาราณสี ในกาลนั้นได้มีมหากษัตริย์พระนามว่า ปิลยักขราช พระองค์ทรงโปรดเสวยเนื้อสัตว์ป่ามากเป็นพิเศษ ทั้งทรงโปรดปรานการล่าสัตว์ ครั้งหนึ่ง ได้ทรงมอบราชสมบัติให้พระชนนีทรงปกครองแว่นแคว้นแทน ส่วนพระองค์เสด็จมุ่งเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์

        พระเจ้าปิลยักขราช เที่ยวไล่ล่าสัตว์เข้าป่าลึกไปเรื่อยๆ จนมาถึงแม่น้ำมิคสัมมตา ทรงหยุดพักตรงท่าน้ำที่พระโพธิสัตว์จะต้องลงมาตักน้ำ  ได้ทอดพระเนตรเห็นรอยเท้าของสัตว์ป่าที่ลงมาดื่มน้ำที่ท่านี้จำนวนมาก จึงทรงทำซุ้มกิ่งไม้พรางตัวนั่งรอเวลาให้สัตว์ได้เดินเข้ามาให้พระองค์ได้สังหาร

        ส่วนสุวรรณสามพระโพธิสัตว์ ครั้นกลับจากไปหาผลาผลแล้ว ในยามเย็นก็นำผลไม้ไปเก็บในอาศรม จากนั้นจึงเข้าไปหาบิดามารดา ไหว้ท่านทั้งสอง แล้วก็ลาท่านเพื่อไปตักน้ำที่แม่น้ำ โดยมีฝูงมฤคหมู่ใหญ่คอยแวดล้อมพระโพธิสัตว์เดินไปสู่ท่าน้ำเช่นเคย

        พระโพธิสัตว์ให้มฤค 2 ตัวเดินเคียงคู่ แล้ววางหม้อไว้บนหลังของมฤคทั้งสอง ใช้สองมือค่อยๆประคองไปสู่ท่าน้ำ  จนกระทั่งมาถึงแม่น้ำมิคสัมมตา บริเวณท่าน้ำที่พระราชากำลังดักซุ่มอยู่  
 
        ส่วนพระราชาปิลยักขราช เมื่อทอดพระเนตรเห็นพระโพธิสัตว์ มีเหล่ามฤครายล้อมอยู่รอบตัวเช่นนั้น ก็ให้อัศจรรย์ยิ่งนัก ทั้งตกตะลึงในรูปกายอันงดงามของพระโพธิสัตว์  ทรงมีดำริด้วยความสงสัยว่า “เราท่องเที่ยวไปในหิมวันตประเทศเป็นเวลานานจนมาถึงวันนี้ ยังไม่เคยได้เห็นมนุษย์ด้วยกันเลย ผู้นี้เป็นใครกันหนอ เหตุใดจึงรูปงาม มีผิวพรรณงดงามผ่องใส ทั้งยังมีสัตว์ป่าคอยแวดล้อมเช่นนี้  เขาจะเป็นเทวดา หรือนาคกันแน่ หากเราปรากฏตัว แล้วเข้าไปไต่ถามเขา ถ้าเป็นเทวดาก็คงเหาะขึ้นสู่อากาศ แต่หากเป็นนาคก็จักดำดินหายไป”

        พระราชายิ่งทอดพระเนตรดูพระโพธิสัตว์ก็ยิ่งทรงอัศจรรย์มากขึ้น ปรารถนาที่จะให้เหล่าบริวารชนของพระองค์ได้มาเห็นภาพอันน่าอัศจรรย์นี้ด้วย

        ครั้นแล้วจึงทรงดำริว่า “หากเรากลับไปสู่พาราณสีแล้ว เหล่าอำมาตย์คงต้องถามเราว่า เราท่องเที่ยวไปในป่า ได้เคยเห็นสิ่งอัศจรรย์อะไรบ้าง เมื่อเราเล่าเรื่องนี้ให้พวกเขาฟัง พวกเขาจะถามต่อว่า แล้วสัตว์นั้นชื่อว่าอะไร  หากเราตอบเขาไม่ได้ พวกนั้นย่อมจะติเตียนเราเป็นแน่”

        เมื่อดำริแล้ว ก็ทรงเกิดความหวั่นไหว เกรงว่าพระองค์จะต้องอับอายเหล่าข้าราชบริพาร  จึงทรงต้องการรู้จักพูดคุยกับบุรุษรูปงามผู้มีผิวดุจทองคำนั้น แต่ก็ทรงเกรงว่าหากพระองค์ปรากฏตัวขึ้น เขาผู้นั้นคงจะอันตรธานไป

        ด้วยวิสัยที่คุ้นเคยอยู่กับการฆ่าและความรุนแรง ในที่สุดพระราชาจึงทรงดำริที่จะยับยั้งบุรุษผู้นั้นไว้     ด้วยการยิงลูกศรเพื่อให้บุรุษนั้นบาดเจ็บ ไม่อาจเขยื้อนกายได้ แล้วพระองค์จะได้เข้าไปถามไถ่ได้อย่างสะดวก  ดำริแล้วจึงเตรียมโก่งคันศร รอคอยเวลาที่จะยิงธนู

        ในขณะเดียวกันนั้น สุวรรณสามโพธิสัตว์ ยืนรอให้ฝูงมฤคลงดื่มน้ำจนเพียงพอและขึ้นสู่ฝั่งเรียบร้อยแล้ว เมื่อน้ำขุ่นไหลผ่านไปแล้ว จึงค่อยๆก้าวลงสู่แม่น้ำด้วยกิริยาอาการที่สงบสำรวม

        พระโพธิสัตว์ได้อาบน้ำชำระร่างกาย ระงับความกระวนกระวายแล้ว จึงขึ้นสู่ฝั่ง นุ่งห่มเรียบร้อยแล้ว  จากนั้นจึงยกหม้อน้ำขึ้นเช็ดให้แห้ง แล้ววางบนบ่าซ้ายโดยมิทันระวังตัวว่ากำลังมีคนแอบซุ่มจะทำร้ายตน

        ฝ่ายพระเจ้าปิลยักขราชทรงรอคอยโอกาสอยู่ ครั้นสบโอกาส จึงยกลูกศรอาบยาพิษขึ้นยิงในทันที

        ด้วยพละกำลังมหาศาลของพระราชา ลูกศรนั้นวิ่งเร็วแรงตัดอากาศไป ถูกลำตัวข้างขวา..ทะลุออกด้านซ้ายของพระโพธิสัตว์

        ฝูงสัตว์ที่พากันแวดล้อมพระโพธิสัตว์อยู่ เมื่อรู้ว่าบัดนี้เจ้านายของตนถูกทำร้าย ต่างก็ตกใจกลัว จึงแตกตื่นวิ่งหนีหายเข้าไปในป่า ทิ้งพระโพธิสัตว์ไว้กับศัตรูเพียงลำพัง

        มาถึงตรงนี้ มีปัญหาอยู่ประการหนึ่ง ดังที่เคยสดับมาว่าผู้ที่เจริญเมตตาจิตอยู่เป็นประจำนั้น ย่อมได้รับอานิสงส์ถึง  11 ประการ หนึ่งใน 11 ประการนั้นก็กล่าวไว้ชัดเจนว่า ไฟ ศัสตรา และยาพิษไม่อาจกล้ำกราย ก็แล้วพระโพธิสัตว์ผู้เจริญเมตตาจิตอยู่เป็นประจำ ทำไมจึงถูกยิงได้เล่า

        เป็นความจริงเช่นนั้น ที่อานุภาพแห่งเมตตาจิตย่อมจะคุ้มครองผู้เจริญเมตตาอยู่ทุกเมื่อ แต่เพราะเหตุที่พระโพธิสัตว์กำลังตักน้ำอยู่ การเจริญเมตตาจิตจึงหย่อนลงมิได้แรงกล้า กระแสแห่งเมตตาอันอ่อนนั้นจึงมิอาจต้านกำลังแห่งลูกศรของพระราชาได้

        ซึ่งเมื่อพระโพธิสัตว์ถูกยิงด้วยลูกศรอาบยาพิษแล้ว ความเจ็บปวดได้แผ่สร้านท่วมทับสรีระทั้งสิ้น ประหนึ่งสายฟ้าที่ฟาดกระหน่ำลงบนเศียรเกล้า

        แม้กระนั้นพระโพธิสัตว์ ก็มิได้คิดเคืองแค้นผู้ปองร้าย หรือแสดงอาการเจ็บปวดออกมาให้เห็นแต่อย่างใด  ดำริแต่เพียงว่า “เพราะเรามัวประมาท มิได้กำหนดจิตในขณะที่ลงไปตักน้ำ เราจึงถูกยิงเช่นนี้”  

        พิษแห่งบาดแผลสร้างความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นทุกขณะ แต่พระโพธิสัตว์ยังคงประคองหม้อน้ำไว้เป็นปกติ แล้วค่อยๆตั้งสติ เกลี่ยทรายทำเป็นที่ตั้งหม้อน้ำ แล้ววางหม้อลง

        กำหนดทิศ หันศีรษะไปยังทิศอันเป็นที่อยู่ของบิดามารดา จากนั้นจึงค่อยๆนอนราบไปกับพื้นทรายที่ขาวละเอียดดังแผ่นเงิน

        ด้วยอานุภาพแห่งเมตตาจิต ที่พระโพธิสัตว์เจริญอยู่เนืองนิตย์ แม้จะถูกลอบทำร้ายถึงปานนี้ แต่ภายในใจของพระโพธิสัตว์ มิได้มีความแค้นเคืองผู้ทำร้ายแต่อย่างใด ยังคงมีจิตเมตตาที่สม่ำเสมอ
 
        พระโพธิสัตว์นอนนิ่งประหนึ่งรูปปฏิมาที่หล่อด้วยทองคำ แล้วจึงกล่าวขึ้นว่า“ในหิมวันตประเทศนี้ ขึ้นชื่อว่าบุคคลผู้เคยมีเวรต่อเรา ย่อมไม่มี  แม้บุคคลผู้มีเวรต่อบิดามารดาของเราก็ไม่มี”   
 
        พระโพธิสัตว์ถูกยิงด้วยลูกศรจนทะลุ นอนถามถึงผู้ประทุษร้ายด้วยความสงสัยว่า เราไม่เคยมีเวรกับใคร ไฉนต้องมายิงเรา ด้วยความอยากจะรู้ว่าเขายิงเราด้วยประสงค์สิ่งใด ส่วนพระราชาได้สดับแล้วจะตรัสตอบอย่างไรนั้น โปรดติดตามตอนต่อไป
 
โดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์  (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

http://goo.gl/6TXYN


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 2 ต้นเหตุแห่งเภทภัย
      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 1 การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 200
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 199
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 198
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 197
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 196
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 195
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 194
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 193
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 192




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related