ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 7

ทรงสอนพระองค์เองว่า “เตมิยกุมารเอย ชาติก่อนๆโน้นเจ้าก็เคยอดอาหารมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วมาบัดนี้ เจ้าจะหวั่นใจไปทำไม“ไฟนี้แม้จะร้อนเพียงใด แต่ก็เทียบไม่ได้กับไฟในนรก แม้เราจะตายในกองไฟนี้ก็ยังประเสริฐกว่า” https://dmc.tv/a173

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ทศชาติชาดก > พระเตมีย์
[ 11 ส.ค. 2549 ] - [ ผู้อ่าน : 18273 ]
 
 
ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  พระเตมีย์   ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี  ตอนที่ 7
 
            จากตอนที่แล้ว พระพี่เลี้ยงนางนมทั้งหลาย เห็นอาการผิดปกติของพระราชกุมารจึงได้ไปกราบทูลพระนางเจ้าจันทาเทวีให้ทรงทราบ พระนางจึงได้เข้าไปกราบทูลพระราชสวามีให้ทรงทราบส่วนพระเจ้ากาสิกราช เมื่อได้รับคำกราบทูลถวายรายงานแล้วก็ทรงรีบให้แพทย์หลวงมาตรวจรักษา
 
        แพทย์หลวงผู้เชี่ยวชาญที่สุดได้ตรวจดูพระอาการโดยละเอียดแล้วก็ไม่เห็นมีโรคทางกายแต่อย่างใดจึงแนะนำให้พระเจ้ากาสิกราชเชิญพราหมณ์ผู้ชำนาญในการดูลักษณะมาตรวจดูแม้พวกพราหมณ์ผู้ชำนาญในลักษณะก็ไม่เห็นมีสิ่งผิดปกติ จึงกราบทูลแนะนำให้ทดลองพระราชกุมารโดยให้นางนมถวายนมเลยเวลาไปสักหน่อย เมื่อพระราชกุมารทรงหิวมากๆก็จะทรงกรรแสงเพื่อทรงขอเสวยนมเอง

        พระเจ้ากาสิกราชจึงทรงรับสั่งให้พวกนางนมทำตามนั้นแต่พระราชกุมารก็กลับทรงนิ่งเฉยมิได้ทรงกรรแสงสักนิดเดียว พระนางเจ้าจันทาเทวีทอดพระเนตรเห็นพระราชกุมารไม่ทรงกรรแสง เมื่อเวลาล่วงเลยไปนานเข้าก็ไม่อาจจะทนดูอยู่ได้ จึงรีบอุ้มพระราชกุมารขึ้นมาให้ทรงดื่มน้ำนมจากพระถันของพระนางเอง

        ต่อมา พวกอำมาตย์กราบทูลพระราชาว่า ธรรมดาเด็กอายุหนึ่งขวบชอบกินขนมขอพระองค์ทรงโปรดให้ทดลองด้วยขนมเถิดพระเจ้าข้า พระราชาก็ทรงให้ทดลองตามนั้น โดยให้นำขนมสีสันสวยงาม รสชาติหอมหวาน จัดใส่ภาชนะนำไปวางไว้ใกล้พระราชกุมาร พระองค์ก็ยังคงนิ่งเฉยไม่สนใจใยดี ทดลองด้วยขนมอย่างนี้  จนพระเตมิยกุมารพระชนมายุได้ 2 ปี ก็ยังมิได้แสดงอาการใดๆ ให้ปรากฏ

        อำมาตย์เหล่านั้น จึงกราบทูลว่า “ธรรมดาเด็กอายุสองขวบชอบผลไม้ ขอพระองค์ทรงโปรดให้ทดลองด้วยผลไม้เถิด”  พระเจ้ากาสิกราชก็ทรงให้กระทำตามนั้น โดยให้นำเอาผลไม้ใส่ถาด แล้วนำเข้าไปวางไว้โดยวิธีเดิมแต่พระราชกุมารยังตั้งมั่นอยู่ในปณิธานได้เตือนตนเองอย่างหนักแน่นว่าเตมิยกุมาร ถ้าเจ้าอยากจะตกนรกแล้วละก็เจ้าก็จงหยิบผลไม้เหล่านั้นกินตามความพอใจเถิดแม้จะทดลองด้วยวิธีนี้อยู่หนึ่งปี แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย
จึงได้กราบทูลต่อไปว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้สมมุติเทพ ธรรมดาเด็กอายุ        สามขวบมักโปรดปรานของเล่น เช่นตุ๊กตาช้าง ตุ๊กตาม้า รถหรือเรือคันเล็กๆ เป็นต้น ขอพระองค์ทรงโปรดให้ทดลองด้วยของเล่นเหล่านั้นเถิด พระเจ้าข้า”  กราบทูลดังนี้แล้วก็ให้ทำของเล่น เช่นตุ๊กตาช้าง ตุ๊กตาม้า รถ และเรือเล็กๆ เป็นต้นด้วยทองคำ นำไปวางไว้ใกล้ ๆ พระราชกุมาร กุมารทั้ง 500 คนต่างพายื้อแย่งกัน ส่วนพระราชกุมารนอกจากจะไม่ทรงหยิบจับของเล่นชิ้นใดแล้ว พระองค์ยังไม่ทรงทอดพระเนตรดูเลยแม้แต่น้อย

         แม้จะทดลองด้วยของเล่นที่ทำด้วยทองคำอย่างนี้เป็นเวลานานนับปี พระราชกุมารก็มิได้แสดงอาการสนพระทัยแต่อย่างใด ยังมั่นคงอยู่ในปณิธานเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่การที่พระองค์ทรงเจริญเติบโตมาได้ตามปกติก็เพราะทรงมีกำลังใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว บวกกับคณะแพทย์หลวงได้ทำการนวดเฟ้นร่างกาย ให้เลือดได้ไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงทุกส่วนของร่างกายอยู่อย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้พระราชกุมารทรงเจริญเติบโต และมีพระพลานามัยสมบูรณ์ทุกอย่าง
   
        หากมิใช่เพราะพระกุมารเป็นผู้มีบุญญาธิการแล้วละก็ บททดสอบเพียงเท่านี้ ก็คงพอที่จะทำให้พระองค์ล้มเลิกความตั้งใจเดิมได้แล้ว แต่เพราะพระองค์ได้ฝึกฝนอบรมตนมานานข้ามภพข้ามชาติ พระองค์จึงสามารถสอนตนเองได้ไม่ยอมท้อถอยเสียกลางคัน ตรงกันข้ามกลับมีจิตใจมั่นคงดุจศิลาแท่งทึบที่ไม่หวั่นไหวต่อแรงลมฉะนั้น  เหล่าอำมาตย์แม้จะทดลองด้วยวิธีการต่างๆ มานานหลายปี ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จจึงเริ่มเกิดอาการหวั่นวิตก ได้ปรึกษากันว่า“ท่านทั้งหลาย พวกเราจะทำอย่างไรกันดี จนถึงป่านนี้แล้ว พระราชกุมารก็ยัง ไม่แสดงอาการอะไรพอให้เรามีความหวังได้เลย” 
 
        อำมาตย์ผู้ฉลาดหลักแหลมท่านหนึ่งจึงแสดงความเห็นท่ามกลางที่ประชุมว่า “ท่านทั้งหลาย เด็กสี่ขวบย่อมชื่นชอบอาหารที่มีรสเลิศ เราน่าจะทดลองพระราชกุมารด้วยโภชนาหาร ท่านทั้งหลายจะเห็นเป็นอย่างไร”

         พวกอำมาตย์ที่เหลือเมื่อยังไม่มีความคิดเห็นเป็นอื่นจึงเห็นพ้องต้องกันในเรื่องนั้น ครั้นแล้วจึงพากันกราบทูลพระราชาว่า  “ข้าแต่มหาราชเจ้า ธรรมดาเด็กสี่ขวบชอบโภชนาหารรสเลิศ พวกข้าพระองค์จะทดลองพระราชกุมารด้วยโภชนาหาร  พระเจ้าข้า” พระราชาก็ทรงมีความหวังขึ้นอีกครั้งจึงรับสั่งให้ทดลองตามนั้นทันที เหล่าอำมาตย์จึงรีบสั่งวิเสทคนทำเครื่องต้นประจำวังหลวงให้ปรุงพระกระยาหารรสเลิศนานาชนิดๆที่ตกแต่งอย่างประณีตสุดฝีมือแล้วน้อมถวายพระราชกุมาร และบริวาร  เหล่ากุมารทั้ง 500 คน ต่างพากันหยิบอาหารบริโภคเองอย่างเอร็ดอร่อย แต่ทว่าพระราชกุมารก็ยังมิได้แสดงอาการสนพระทัยแต่อย่างใด

        ทรงสอนพระองค์เองว่า  “เตมิยกุมารเอย ชาติก่อนๆโน้นเจ้าก็เคยอดอาหารมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วมาบัดนี้ เจ้าจะหวั่นใจไปทำไม”  ครั้นทรงเตือนพระองค์เองอย่างนี้แล้ว ก็มิได้ทอดพระเนตรดูโภชนาหารนั้นแม้แต่นิดเดียว เพราะทรงกลัวภัยนรกมากกว่า

        พระนางเจ้าจันทาเทวีเมื่อทรงทอดพระเนตรเห็นพระราชกุมารยังทรงนิ่งเฉยอยู่ก็ให้ทรงกระวนกระวายพระทัย เพราะไม่อาจทนเห็นพระราชกุมารอดพระกระยาหารได้ จึงได้ให้พระราชกุมารเสวยโภชนาหารเหล่านั้น ด้วยพระหัตถ์ของพระนางเอง

         อำมาตย์เหล่านั้น เมื่อเห็นว่ายังไม่เป็นผลสำเร็จก็คิดหาวิธีทดลองที่อุกฤษฏ์ยิ่งๆ ขึ้นไป ซึ่งต่อมา เมื่อพระเตมิยกุมารมีพระชนมายุได้ 5 ชันษา พระราชาก็ทรงโปรดให้ทดลองพระราชกุมารด้วยไฟตามคำกราบทูลของอำมาตย์ ซึ่งให้เหตุผลว่า เด็กห้าขวบย่อมจะกลัวไฟเป็นธรรมดา โดยทรงรับสั่งให้นำพระราชกุมารไปรวมไว้กับกุมารทั้งหลาย  ในเรือนที่มุงและปิดบังด้วยใบตาล ขณะที่กุมารเหล่านั้นพากันวิ่งเล่นในเรือนใบตาลอยู่ตามประสาเด็กๆ  อำมาตย์ซึ่งเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ก็ได้เริ่มจุดไฟเผาที่ประทับคือเรือนใบตาลนั้น

        กุมารที่วิ่งเล่นอยู่ในที่นั่นต่างพากันตกใจกลัววิ่งหนีออกมาแต่พระเตมิยราชกุมารหาได้กลัวความตายไม่พระองค์ทรงดำริว่า  “ไฟนี้แม้จะร้อนเพียงใดแต่ก็เทียบไม่ได้กับไฟในนรก  แม้เราจะตายในกองไฟนี้ก็ยังประเสริฐกว่า”  ครั้นทรงดำริดังนี้แล้วก็มิได้มีความหวั่นไหว ทรงข่มพระหฤทัยไม่ให้ตกใจกลัวบรรทมสงบนิ่งอยู่กับความร้อนของเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่โดยรอบ ด้วยทรงนึกเปรียบเทียบกับความร้อนของไฟนรก  ทรงบรรทมอยู่อย่างสงบราวกับพระมหาเถระผู้กำลังเข้านิโรธสมาบัติฉะนั้น  พระราชชนกพระชนนี ทอดพระเนตรเห็นดังนั้นก็เหมือนพระหฤทัยจะแตก  จึงแหวกฝูงชนเข้าไปอุ้มเอาพระราชกุมารออกมาจากความร้อนของไฟ เพราะเหตุที่ไฟนรกที่พระองค์เคยไปตกเสวยวิบากกรรมนั้นมีความเร่าร้อนมากยิ่งกว่าหลายพันเท่า ความร้อนของไฟนรกนั้น สามารถทำลายจักษุของคนที่ยืนอยู่ไกลถึงร้อยโยชน์ให้บอดได้

         ครั้นพระราชกุมารทรงมีพระชนมายุได้ 6 ชันษา พระราชบิดาก็ทรงโปรดให้ทดลองด้วยช้าง ด้วยประสงค์จะให้พระราชกุมารตกใจกลัวเฉกเช่นครั้งที่ผ่านมา เหล่าอำมาตย์ได้สั่งให้ราชบุรุษปล่อยพญาช้างให้แล่นเข้ามาทำร้ายพระราชกุมารซึ่งประทับนั่งอยู่ท่ามกลางกุมารทั้งหลายที่พระลานหลวง  พญาช้างก็บันลือเสียงโกญจนาทน่าครั่นคร้ามยิ่งนัก เอางวงฟาดผืนดินแล้ววิ่งรี่ตรงเข้าหาพระราชกุมาร แต่พระองค์ก็ทรงบรรทมนิ่งเฉย ดุจรอคอยความตายที่กำลังจะมาเยือนในไม่ช้า  พระองค์ไม่ทรงกรรแสงและไม่ขยับเขยื้อนพระกายหรือแสดงอาการหวาดกลัวใดๆ ในขณะที่กุมารที่เหลือพากันวิ่งหนี ร้องระงมด้วยความหวาดกลัว  พญาช้างครั้นวิ่งเข้ามาประชิดตัวพระราชกุมารแล้ว  ก็เอางวงจับพระองค์คล้ายจับกำดอกไม้  ยกชูขึ้นวิ่งไปโดยรอบสถานที่นั้น  ยังความหวาดเสียวให้เกิดแก่หมู่อำมาตย์ข้าราชบริพารและนางนมพี่เลี้ยงเป็นอย่างยิ่ง 
 
        แต่เพราะช้างนั้นเป็นช้างที่ควาญช้างฝึกดีแล้วจึงมิได้ทำร้ายพระราชกุมารให้ได้รับอันตรายแต่อย่างใดเป็นแต่เพียงทำให้พระองค์ทรงอึดอัดพระกายเท่านั้น พระองค์ยังทรงอดกลั้น ประทับนิ่งเป็นปกติอยู่ในวงงวงช้างนั้น ส่วนพวกอำมาตย์ทั้งหลายเมื่อเห็นว่าไม่เป็นผลสำเร็จก็คิดหาทางทดลองในวิธีอื่นอีก เพราะพระเจ้ากาสิกราชทรงมีพระโอรสเพียงพระองค์เดียว จึงยังทรงมีความหวังที่จะให้พระราชกุมารสืบราชวงศ์ต่อจากพระองค์มิเสื่อมคลายแต่ทว่าจะทดลองพระราชกุมารโดยวิธีใดนั้นโปรดติดตามตอนต่อไป

โดย : หลวงพ่อธัมมชโย (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)


http://goo.gl/sDzzQ


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 2 ต้นเหตุแห่งเภทภัย
      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 1 การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 200
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 199
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 198
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 197
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 196
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 195
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 194
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 193
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 192




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related