ไม่เสียใจหากน้ำจะท่วม...เพราะเราได้พยายามแล้ว

อุทกภัยครั้งนี้ ทำให้เราได้เห็นน้ำใจของเหล่าอาสาสมัครคนรุ่นใหม่ไฟแรงทั้งหลาย เพราะเมื่อใดที่มีการประกาศขออาสาสมัครช่วยแพคของ ช่วยบรรจุถุงทราย https://dmc.tv/a12518

บทความธรรมะ Dhamma Articles > เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
[ 1 พ.ย. 2554 ] - [ ผู้อ่าน : 18268 ]
 
ไม่เสียใจหากน้ำจะท่วม...เพราะเราได้พยายามแล้ว
 
 
 
 
 
 
 
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก kapook.com และ คุณ chawakit 
 
           อุทกภัยครั้งนี้ ทำให้เราได้เห็นน้ำใจของเหล่าอาสาสมัครคนรุ่นใหม่ไฟแรงทั้งหลาย เพราะเมื่อใดที่มีการประกาศขออาสาสมัครช่วยแพคของ ช่วยบรรจุถุงทราย ก็จะมีคนจำนวนไม่น้อยเดินทางไปยังจุดนั้น เพื่อช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือที่ดูแล้วเป็นภาพที่น่าประทับใจเอามาก ๆ
 
           และครั้งนี้  ขอติดตามภารกิจของ คุณ chawakit ที่ได้บันทึกภาพแห่งความร่วมแรงร่วมใจของคนจำนวนมาก ที่เดินทางมาช่วยกันบรรจุกระสอบทรายที่คลองหก เพื่อปกป้องเมืองหลวงของเรา และได้นำมาโพสต์ในเว็บไซต์ pantip ให้พวกเราได้ชมกัน เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ...พร้อมแล้วก็ไปตามติดภารกิจรวมพลังช่วยชาติครั้งนี้กันเลยค่ะ
 
           "ไม่มีภัยธรรมชาติใดครั้งใดที่จะกลืนกินหรือทำลายชาติไทยเราได้ หากบ้านเมืองเราจะถูกทำลาย นั่นก็เพราะคนในชาติเอารัดเอาเปรียบกันเองดูดายในความเดือดร้อนของพี่น้องของเราเอง"
 
           ผมเชื่อมั่นในถ้อยคำเหล่านี้เสมอ ติดตามข่าวสารมาตลอดแต่ยังไม่ได้ลงมือช่วยทำอะไรเป็นกิจจะลักษณะ จนเริ่มไม่ไหวแล้ว ต้องหาอะไรทำซักอย่าง จนได้รับข่าวจากทาง SiamArsa (facebook/SiamArsa) ว่าต้องการแรงงานในหลาย ๆ จุด แต่มีอยู่ที่หนึ่งทำให้ผมรีบจัดของ รีบนอนแต่หัวค่ำ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการใช้แรงงานในวันรุ่งขึ้น "อาสาบรรจุทราย คลองหก"
ผมเดินทางจากบางคอแหลมมาขึ้นรถเมล์เฉพาะกิจที่อนุสาวรีย์ในตอนสาย ๆ รถจะออกทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง...ป่ะ แพคกระเป๋าตามผมมาเลยครับ
 
 
เดินทางจากอนุสาวรีย์ด้วยรถเมล์ปรับอากาศจนมาถึง ศปภ ที่ดอนเมืองเพื่อต่อรถไปยังคลองหก เดินสำรวจภายในคร่าว ๆ เจอข้าวของที่เข้าใจว่ามาจากการรับบริจาคมากมายทีเดียว
 
 
 
ระหว่างที่ยืนรอรถเมล์เพื่อเดินทางต่อไปยังคลองหก ก็ได้ยินเสียประกาศอยู่ตลอดว่าต้องการแรงงานตรงนั้นตรงนี้ แต่เสียงหนึ่งที่ฟังแล่วทะ:-) ๆ คือ "คลองหกไม่มีใครเค้าไปกันแล้วน้อง ไปนี่ดีกว่า !@#$%^&* เอาล่ะสิ ผมเลยปรึกษากับน้อง ๆ ที่เราเพิ่งรู้จักกันบนรถว่าเอาไง ได้รับคำยืนยันว่า "เราตั้งใจมาแล้วพี่ ยังไงก็ต้องไปให้ถึง" ...แหม่ มันชื่นใจจริงน้องเอ้ย
 
ใช้เวลาในการเดินทางถ้านับจากอนุสาวรีย์ นั่งรถสองต่อ รวม ๆ แล้วเกือบสองชั่วโมงเลยทีเดียวทั้งไกลและรถติด สองข้างทางเต็มไปด้วยรถราของประชาชนนำมาจอดหนีน้ำ ทำให้การสัญจรไม่สะดวกนัก แต่ก็เอาล่ะครับ ชั่วโมงนี้อย่ามาตัดพ้อกันเองเลย
 
 
ถึงละเป้าหมายของอาสาสมัครในวันนี้ "วิทยาลัยการปกครอง"
 

 
พอลงจากรถ เสียงแรกที่ผมได้ยินคือเสียงประกาศจากศูนย์อำนวยการ "ยินดีต้อนรับอาสาสมัครที่เพิ่งมา ถึงทุกท่าน หนุ่ม ๆ ทั้งหลายไปช่วยรับน้ำจากน้อง ๆ หน่อยครับ เค้าอุตส่าห์เดินทางมาไกล ให้สาว ๆ แบกน้ำแบกข้าวอยู่ได้ยังไงครับ ช่วยกันหน่อย"
ประโยคที่เรียบง่าย แต่ตื้นตันครับ...เราเพิ่งมาถึงยัน ยังไม่ได้ทำอะไรกันเลย แต่ดูเหมือนทุกคนที่นี่ ดีใจที่เรามา
 
 
หากใครยังไม่ทราบนะครับ ที่นี่คือ จุดบรรจุทรายลงกระสอบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ขณะนี้ เท่าที่ผมกวาดสายตาดูคร่าว ๆ ... มัน ใหญ่ มากกกกกก
 

 
หากใครคิดว่างานเรียงถุง สบาย ขอบอกว่าไม่ใช่ซะทีเดียวครับ อาจจะไม่ร้อนเท่าขุดทรายน่ะใช่
 
 
แต่ .... ยังมีอีกเยอะมากกกกกก

 
พี่ทหารบอกว่า "ถ้าไม่มีอาสาสมัคร พวกผมตายแน่ครับ"
 
 
แต่ทุกคนก็ยังไหว หากทรายทุดเม็ดที่เราบรรจุลงถุงจะช่วยเมืองหลวงของเราให้พ้นวิกฤติครั้งนี้ได้
 

 
แรงงานที่อยู่กลางแดด ไม่ต้องแปลกใจนะครับว่าทำไมถึงสาว ๆ พอ ๆ กับหนุ่ม ๆ ทั้ง ๆ ที่ควรจะมีแรงงานชายมากกว่า คำตอบเรียบง่ายมากครับ ในช่วงแรก อาสาสมัครที่สาช่วยขุดทราย จะเป็นแรงงานชายมากกว่า และคนที่คอยมัดถุงจะเป็นแรงงานสาว ๆ แต่งานที่ต้องลำเลียงถุงทรายขึ้นรถ ขุดทราย  เป็นงานที่ต้องใช้แรงเยอะมากครับ จนเวลาผ่านไปหลายวัน ทั้งแรงงานทหารและอาสาสมัครชายเริ่มจะไม่ไหวกัน จึงเป็นสาเหตุที่น้อง ๆ สาว ๆ ต้องออกมาช่วยกันครับ
 
รถบรรทุกที่บรรจุกระสอบทรายออกไปช่วยเหลือตามพื้นที่กรุงเทพด้านเหนือ และบริเวณรอบ ๆ กว่าสองล้านกระสอบออกเดินทางจากที่นี่แหละครับ
 
 
 
ไม่ใช่เฉพาะพี่น้องชาวไทยที่มาร่วมแรงร่วมใจกันในวันนี้ ชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยก็มาร่วมแสดงพลังเช่นเดียวกัน
 


กำลังเสริมระลอกใหม่มาถึงอีกแล้ว ดีจัง
 

 
สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจและประทับใจได้อีกครั้ง
 

 
เราจะต้องผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้
 
 
ในที่สุด ผมก็ได้ทำหน้าที่ของผมเสร็จสมบูรณ์สำหรับภาระกิจคลองหก วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ที่ที่คน (หน้าตา) ดี ๆ เค้ามากัน
 
           ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม ติดตามให้กำลังใจ แบ่งปันกระทู้นี้ให้กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ หรือคนรอบข้างเพื่อสร้างจิตอาสาอันเข้มแข็งในการกอบกู้และฟื้นฟูประเทศของเรา สิ่งที่เราได้ทำหรือสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ใช่สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก แค่มันคือสิ่งที่เรียกว่าความสามัคคี การที่เราออกมาช่วยเพื่อนบ้าน นั่นก็คือการที่เราออกมาช่วยตัวเราเอง ช่วยครอบครัวของเราเอง
 
            ภาวะวิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้ ยังไม่มีใครบอกได้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่
           "สองมือ" ของทุกคนเท่านั้น คือคำตอบ
 
           จนกว่าจะพบกันใหม่ในโอกาส "เฉพาะกิจ" ต่อไป ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่อยู่ด้วยกันจนจบภาระกิจ หัวใจนายหล่อ/สวยมาก

           ชวกิจ  สังข์จรูญ
           24 ตุลาคม 2554 เวลา 04:40 น.
 

http://goo.gl/hlTQF


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      เพลงวันสงกรานต์
      ทบทวนพระธรรมเทศนาหลวงพ่อธัมมชโย วันคุ้มครองโลก
      สารมุทิตา จากคณะกรรมการที่ปรึกษา มูลนิธิมาลาลา เซเกรา ศรีลังกา เนื่องในวาระอายุวัฒนมงคล 80 ปี หลวงพ่อธัมมชโย
      สารมุทิตา จากประธานสหพันธ์พุทธนานาชาติ อินเดีย เนื่องในวาระอายุวัฒนมงคล 80 ปี หลวงพ่อธัมมชโย
      สารมุทิตา จากสมเด็จสังฆนายกบังคลาเทศ องค์ที่ 29 แห่งบังคลาเทศ เนื่องในวาระอายุวัฒนมงคล 80 ปี หลวงพ่อธัมมชโย
      สำนักงานแม่กองบาลีสนามหลวง ประกาศผลสอบบาลีสนามหลวง ประจำปี 2567
      คำขวัญวันเด็ก 2567 รวมคำขวัญวันเด็กทุกปี
      โอวาทหลวงพ่อธัมมชโย เนื่องในวันเข้าพรรษา
      พระประวัติ "สมเด็จพระสังฆราช” องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
      โทษภัยของบุหรี่ ทำไมต้องมีกิจกรรมเทเหล้าเผาบุหรี่
      วัดพระธรรมกาย เชิญชวนประชาชน ร่วมสวดธรรมจักร ถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราช ในเวลา 19.00 น. พร้อมกันทั่วโลก
      โครงการธัมมจักกัปปวัตตนสูตร [ประวัติความเป็นมาของโครงการ]
      วันสงกรานต์ 2567 ประเพณีวันสงกรานต์ ประวัติความเป็นมาวันสงกรานต์