ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555
Case Study กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
มหาเสนาบดี ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนที่ 33
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา
ภายหลังจากที่พระมหาเถระหรือคุณยายอาจารย์ของเราในพุทธันดรที่ผ่านมา ได้ละสังขารลงไปแล้ว พระเถระผู้สืบทอดวิชชาฯ ต่อจากพระมหาเถระ ก็ได้จัดงานสลายร่างพระมหาเถระขึ้นที่วัดใหม่อย่างยิ่งใหญ่แต่เรียบง่าย เพื่อเป็นการบูชาธรรมพระมหาเถระผู้เป็นบุคคลที่ท่านรักและเคารพอย่างสูงสุด
พระเถระผู้สืบทอดวิชชาฯ ต่อจากพระมหาเถระ ก็ได้จัดงานสลายร่างพระมหาเถระขึ้นที่วัดใหม่อย่างยิ่งใหญ่
ภายหลังจากที่งานสลายร่างของพระมหาเถระได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว พระเถระผู้สืบทอดวิชชาฯ ต่อจากพระมหาเถระ ก็ได้มุ่งมั่นตั้งใจที่จะสานต่อภารกิจสำคัญ ที่พระมหาเถระได้มอบหมายเอาไว้ก่อนที่ท่านจะละสังขาร ให้สำเร็จให้ได้ ซึ่งภารกิจสำคัญที่พระมหาเถระได้มอบหมายเอาไว้นั้นมีอยู่ 3 ภารกิจหลักๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งทีมทำวิชชาขึ้นมา เพื่อสานงานทำวิชชาต่อจากพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร
ภารกิจแรก คือการตั้งทีมทำวิชชาขึ้นมา เพื่อสานงานทำวิชชาต่อจากพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมารในพุทธันดรที่ผ่านมา
ภารกิจที่ 2 คือการรวบรวมเรื่องราวและสิ่งต่างๆ ที่เนื่องด้วยพระเดชพระคุณหลวงปู่ ในพุทธันดรที่ผ่านมา
ภารกิจที่ 3 คือการเผยแผ่วิชชาธรรมกายให้ขยายออกไปทั่วโลก
เมื่อท่านมหาเสนาบดีได้ทราบถึงภารกิจสำคัญทั้ง 3 อย่างดังกล่าวแล้ว ด้วยความที่ท่านมหาเสนาบดีอยากมีส่วนในบุญ และอยากช่วยแบ่งเบาภารกิจที่พระเถระ ได้รับมอบหมายจากพระมหาเถระ หรือคุณยายอาจารย์ของเรา ท่านจึงเริ่มขบคิดว่าท่านพอที่จะช่วยเหลือพระเถระในเรื่องไหนได้บ้าง
ท่านมหาเสนาบดีจึงเริ่มขบคิดว่าท่านพอที่จะช่วยเหลือพระเถระในเรื่องไหนได้บ้าง
“สำหรับภารกิจแรก หรือการตั้งทีมทำวิชชาขึ้นมานั้น ถือเป็นภารกิจหลักที่สำคัญที่สุด ซึ่งท่านมหาเสนาบดีก็มีความเห็นว่าผู้ที่จะทำภารกิจนี้ได้ดีที่สุด ก็มีอยู่เพียงท่านเดียวเท่านั้น นั่นก็คือพระเถระผู้สืบทอดวิชชาฯ นั่นเอง ส่วนอีก 2 ภารกิจ คือการรวบรวมเรื่องราวและสิ่งต่างๆ ที่เนื่องด้วยพระเดชพระคุณหลวงปู่พระผู้ปราบมารในพุทธันดรที่ผ่านมา และการเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลกนั้น ตัวท่านอาจพอที่จะช่วยพระเถระแบ่งเบาภารกิจในส่วนนี้ได้”
และเมื่อท่านมหาเสนาบดีคิดได้เช่นนั้น ด้วยความที่ตัวท่านก็อยากมีส่วนในบุญและอยากช่วยแบ่งเบาภารกิจของพระเถระผู้สืบทอดวิชชาฯ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่พระเถระจะได้มีเวลาในการตามทีมทำวิชชา และตั้งทีมทำวิชชาขึ้นมาให้ได้เร็วที่สุด ด้วยเหตุนี้เอง ท่านมหาเสนาบดีจึงได้ขันอาสาขอทำหน้าที่ช่วยรวบรวมเรื่องราวและสิ่งต่างๆ ที่เนื่องด้วยพระเดชพระคุณหลวงปู่ในพุทธันดรที่ผ่านมา พร้อมกับขันอาสาที่จะช่วยงานเผยแผ่วิชชาธรรมกายให้ขยายออกไปทั่วโลก
ท่านมหาเสนาบดีได้ขันอาสาขอช่วยงานเผยแผ่วิชชาธรรมกายให้ขยายออกไปทั่วโลก
หลังจากที่ท่านมหาเสนาบดีได้ขันอาสาขอทำหน้าที่ดังกล่าวแล้ว ตัวท่านก็ได้ตั้งใจทุ่มเททำหน้าที่อย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน โดยเริ่มต้นจากการจัดวางระบบ ระเบียบ แบบแผน และโครงสร้าง ในการทำงานภายในวัดใหม่ให้ลงตัวมากขึ้น โดยตัวท่านได้นำเอาระเบียบแบบแผนที่พระมหาเถระ หรือคุณยายอาจารย์ของเราในพุทธันดรที่ผ่านมา ได้วางเอาไว้ก่อนที่ท่านจะละสังขาร มาเป็นแม่แบบในการร่างกฎระเบียบต่างๆ ภายในวัดใหม่
ท่านมหาเสนาบดีได้ตั้งใจทุ่มเททำหน้าที่อย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
และเมื่อท่านมหาเสนาบดีร่างระเบียบแบบแผน และโครงสร้างในการทำงานภายในวัดใหม่ได้ลงตัวเป็นอย่างดีแล้ว ตัวท่านก็ได้นำระเบียบแบบแผนชุดนี้ไปนำเสนอต่อพระเถระผู้สืบทอดวิชชาฯ หลังจากที่พระเถระได้ตรวจดูระเบียบแบบแผน และโครงสร้างในการทำงานที่ท่านมหาเสนาบดีมานำเสนอแล้ว พระเถระก็ได้อนุมัติและอนุโมทนา พร้อมกับชี้แนวทางในการบริหารดูแลวัดใหม่ให้กับท่านมหาเสนาบดีอีกหลายๆ อย่าง
ท่านมหาเสนาบดีได้นำระเบียบแบบแผนชุดนี้ไปนำเสนอต่อพระเถระผู้สืบทอดวิชชาฯ
โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินที่พระมหาเถระ ได้ฝากเอาไว้กับพระเถระผู้สืบทอดวิชชาฯ ก่อนที่ท่านจะละสังขารว่า “ตัวท่านมีความปรารถนาอยากที่จะตั้งโรงทานขึ้นมา เพื่อที่จะได้เลี้ยงอาหารสาธุชนทุกๆ คนที่เดินทางมาสั่งสมบุญที่วัด เพราะตัวท่านไม่อยากให้สาธุชนแต่ละคนต้องมากังวลเกี่ยวกับเรื่องของอาหารการกิน อีกทั้งจะได้มีเวลาในการปฏิบัติธรรมกันอย่างเต็มที่”
พระมหาเถระท่านมีความปรารถนาที่จะตั้งโรงทานขึ้นมา เพื่อจะได้เลี้ยงอาหารสาธุชนทุกๆ คนที่มาสั่งสมบุญที่วัด
ส่วนสาเหตุที่ทำให้พระมหาเถระ หรือคุณยายอาจารย์ของเราในพุทธันดรที่ผ่านมา มีความตระหนักเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินของสาธุชน ที่เดินทางมาสั่งสมบุญที่วัดเป็นอย่างมากนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะในยุคสมัยนั้น การเดินทางมาสั่งสมบุญที่วัดป่าไม่ได้มีความสะดวกสบายเหมือนอย่างในยุคปัจจุบันนี้ ที่มีทั้งรถยนต์, รถไฟฟ้า, เรือ หรือเครื่องบิน เป็นต้น ดังนั้นการเดินทางมาสั่งสมบุญที่วัดป่า จึงเป็นเรื่องใหญ่และต้องใช้เวลาในการเดินทางมากพอสมควร
ในยุคสมัยนั้น การเดินทางมาสั่งสมบุญที่วัดป่าไม่ได้มีความสะดวกสบายเหมือนอย่างในยุคปัจจุบันนี้
ส่วนว่าสาธุชนแต่ละคนจะต้องใช้เวลาเดินทางมาวัดป่ามากน้อยขนาดไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับระยะทางระหว่างบ้านกับวัด เช่น ถ้าหากสาธุชนคนไหนที่มีบ้านอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆ วัด สาธุชนคนนั้นก็สามารถที่จะเดินทางไปวัดตอนเช้าและกลับบ้านตอนเย็นได้ ซึ่งสาธุชนเหล่านี้ก็มักจะเดินทางมาทำบุญที่วัดป่ากันเป็นประจำในทุกๆ วันพระหรือวันที่คล้ายๆ กับวันหยุดราชการในยุคนี้
ส่วนสาธุชนที่มีบ้านอยู่ในหัวเมืองไกลๆ หรืออยู่ที่ต่างแคว้น สาธุชนเหล่านี้ก็จะต้องใช้เวลาในการเดินทางมาวัดป่านานเป็นเดือนเลยทีเดียว และเมื่อสาธุชนเหล่านี้เดินทางถึงที่วัดป่าแล้ว พวกเขาก็จะปักกลดพักอาศัยอยู่ในป่า ซึ่งอยู่รอบๆ บริเวณวัดอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อที่จะเก็บเกี่ยวบุญกุศลให้เต็มที่ก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังหัวเมืองหรือแคว้นของตัวเอง เรียกได้ว่าสาธุชนเหล่านี้ในยุคนั้น ต้องใช้ความอดทนมากกว่าสาธุชนที่อยู่ใกล้ๆ วัดเป็นอย่างมาก
สาธุชนบางกลุ่มต้องใช้เวลาในการเดินทางมาวัดป่านานเป็นเดือนเลยทีเดียว
และในระหว่างที่สาธุชนที่มีบ้านอยู่ในหัวเมืองไกลๆ หรืออยู่ที่ต่างแคว้นกำลังพักอาศัยอยู่ในป่ารอบๆ บริเวณวัดนั้น ปัญหาอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เรื่องอาหารการกิน ซึ่งสาธุชนบางคนที่มีฐานะดีก็คงจะไม่มีปัญหาเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เพราะสาธุชนกลุ่มนี้สามารถเดินทางไปหาซื้ออาหารมาทานจากในตัวเมืองหลวงได้ไม่ยากนัก แต่สำหรับสาธุชนที่มีฐานะปานกลาง ที่อยู่ในหัวเมืองไกลๆ หรืออยู่ที่ต่างแคว้น พวกเขาก็จะต้องติดเสบียงอาหารมาจากบ้านของตัวเอง แล้วก็เก็บไว้รับประทานในระหว่างที่กำลังสั่งสมบุญอยู่ที่วัดป่า
ปัญหาอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เรื่องอาหารการกิน
แต่ที่น่าเห็นใจที่สุด ก็คือสาธุชนที่มีฐานะไม่ค่อยจะดี ก็จะต้องอาศัยข้าวก้นบาตรพระมาประทังชีวิตในระหว่างที่มาแสวงบุญ คือจะต้องรอรับประทานอาหารหลังจากที่พระภิกษุสงฆ์ขบฉันเสร็จแล้ว เมื่อพระมหาเถระเห็นถึงความลำบากในเรื่องอาหารการกินเช่นนั้น ท่านจึงมีความปรารถนาอยากที่จะตั้งโรงทานขึ้นมา เพื่อที่จะได้เลี้ยงอาหารสาธุชนทุกๆ คนที่เดินทางมาสั่งสมบุญที่วัด เหมือนดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นนั่นเอง
ที่น่าเห็นใจที่สุดก็คือสาธุชนที่มีฐานะไม่ค่อยดี ต้องอาศัยข้าวก้นบาตรพระมาประทังชีวิตในระหว่างที่มาแสวงบุญ
เมื่อพระเถระผู้สืบทอดวิชชาฯ ต่อจากพระมหาเถระในพุทธันดรที่ผ่านมา กับท่านมหาเสนาบดีได้ทราบถึงความตั้งใจอันดีงามของพระมหาเถระเช่นนั้น ท่านทั้งสองจึงได้ร่วมกันจัดตั้งโรงทานขึ้นมาที่วัดใหม่ เพื่อน้อมถวายบูชาธรรมแด่พระมหาเถระ ด้วยความเคารพรักอย่างสูงสุด และเมื่อวันเวลาผ่านไป วันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง
ท่านทั้งสองจึงได้ร่วมกันจัดตั้งโรงทานขึ้นมาที่วัดใหม่ เพื่อน้อมถวายบูชาธรรมแด่พระมหาเถระ ด้วยความเคารพรักอย่างสูงสุด
ส่วนว่าวันนั้นจะเป็นวันอะไร และเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไรนั้น เราก็คงจะต้องมาติดตามรับฟังกันต่อในวันถัดไป