มหาเสนาบดี ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนที่ 4
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะท่านมหาเสนาบดีเป็นที่รักของคนในบ้านมาตั้งแต่เด็กเพราะท่านเป็นเด็กที่ไม่ค่อยร้องไห้และไม่งอแงในเรื่องที่ไม่มีเหตุผล
ต่อจากตอนที่แล้ว สำหรับสาเหตุที่ทำให้ท่านมหาเสนาบดีเป็นที่รักของคนในบ้านมาตั้งแต่เด็กนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะท่านเป็นเด็กที่มีความพิเศษอย่างโดดเด่นแตกต่างกว่าเด็กทั่วๆไปคือท่านเป็นเด็กที่ไม่ค่อยร้องไห้ และไม่งอแงในเรื่องที่ไม่มีเหตุผลเนื่องจากตัวท่านมีความรู้สึกลึกๆ อยู่ภายในใจเสมอว่า “ท่านไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ต้องมาคอยเป็นห่วงหรือกังวลในตัวท่าน”
ท่านได้ทำหน้าที่เป็นเสมือนพี่ใหญ่ที่แสนดีที่คอยช่วยคุณแม่ดูแลน้องๆอยู่ที่บ้านตอนพ่อและพี่ชายไม่อยู่
เมื่อท่านมหาเสนาบดีเติบใหญ่ขึ้นด้วยความที่พี่ชายของท่านบางคนก็ต้องออกไปทำงานกับคุณพ่อ และบางคนก็ต้องออกไปเรียนหนังสือ ด้วยเหตุนี้เองตัวท่านจึงได้ทำหน้าที่เป็นเสมือนพี่ใหญ่ที่แสนดีที่คอยช่วยคุณแม่ดูแลน้องๆ อยู่ที่บ้าน ซึ่งตัวท่านก็ตั้งใจทำหน้าที่ดูแลน้องๆ ด้วยความเต็มอกเต็มใจและภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีของน้องๆ เป็นอย่างมาก
ท่านมีวิสัยทัศน์และความรับผิดชอบแบบเหนือชั้นกว่าเด็กทั่วไปที่อยู่ในวัยเดียวกัน
ด้วยความที่ท่านมหาเสนาบดีได้ช่วยคุณแม่ดูแลน้องๆ ตั้งแต่เด็กนี้เอง จึงทำให้ท่านเป็นคนที่มีอัธยาศัยของความเป็นผู้ใหญ่สูงอีกทั้ง ท่านยังมีวิสัยทัศน์และความรับผิดชอบแบบเหนือชั้นกว่าเด็กทั่วไปที่อยู่ในวัยเดียวกันอีกด้วยถึงแม้ว่าท่านมหาเสนาบดีจะทำหน้าที่เป็นเสมือนพี่ใหญ่ที่แสนดีหรือเป็นพี่ใหญ่ของน้องๆ ที่บ้านก็ตาม แต่ทันทีที่พี่ๆ ของท่านเดินกลับมาถึงบ้าน ท่านก็จะทำหน้าที่เป็นน้องชายที่น่ารัก น่าเอ็นดูของพวกพี่ๆ ในทันที คือท่านจะไม่เคยดื้อหรือถืออภิสิทธิ์เลยว่า “ ตัวท่านเป็นลูกชายคนโปรด หรือเป็นลูกชายสุดที่รักของคุณพ่อคุณแม่” ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า“ทำไม ท่านมหาเสนาบดีของพวกเราจึงเป็นที่รักของบรรดาพี่น้องทุกๆ คน ”ท่านมหาเสนาบดีเป็นเด็กที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นอย่างมากจึงทำให้ท่านเป็นที่รักของเหล่าพวกพ้องบริวารรวมถึงบุคคลรอบข้างที่อยู่ใกล้ตัวท่านเป็นอย่างมาก
ไม่ใช่เพียงเท่านั้นท่านมหาเสนาบดียังเป็นเด็กที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นอย่างมากอีกด้วย แม้ว่าท่านจะเป็นถึงลูกหลานของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ก็ตาม แต่ถึงกระนั้นท่านก็ไม่เคยถือตัว ไม่เคยวางกล้าม และไม่เคยอวดเบ่งกับเพื่อนๆ เลย หรือแม้แต่กับเหล่าบริวารที่คอยรับใช้ท่าน ท่านก็จะให้เกียรติ ไม่ข่มเหง และให้ความสนิทสนม เป็นกันเองกับเหล่าบริวารทุกๆ คนด้วยความที่ท่านมหาเสนาบดีเป็นเด็กที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนชนิดที่หาตัวจับได้ยากนี้เอง จึงทำให้ท่านเป็นที่รักของเหล่าพวกพ้องบริวาร รวมถึงบุคคลรอบข้างที่อยู่ใกล้ตัวท่านเป็นอย่างมาก
ท่านมหาเสนาบดีเป็นเด็กที่มีคุณธรรมในเรื่องของความเคารพที่สูงมากๆซึ่งเป็นอุปนิสัยที่ติดตามตัวท่านมาหลายภพหลายชาติและที่สำคัญ ท่านมหาเสนาบดียังเป็นเด็กที่มีคุณธรรมในเรื่องของความเคารพที่สูงมากๆ ซึ่งคุณธรรมเรื่องของความเคารพนี้ ไม่ใช่อยู่ๆ ว่า “ ใครจะเกิดอยากมีความเคารพอย่างท่านก็มีได้ในทันที ” เพราะแท้ที่จริงแล้ว คุณธรรมเรื่องของความเคารพนี้เป็นสิ่งที่ท่านมหาเสนาบดีได้สั่งสมจนกลายเป็นอุปนิสัยที่ติดตามตัวท่านมาหลายภพหลายชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความเคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความเคารพในพระธรรม ความเคารพในพระสงฆ์ ความเคารพในสมาธิ(Meditation) ความเคารพในการศึกษา ความเคารพในความไม่ประมาท และความเคารพในการปฏิสันถาร เป็นต้น
ท่านเข้าใจในเรื่องของความเคารพได้อย่างง่ายๆ
ดังนั้นเมื่อมาถึงในพุทธันดรที่ผ่านมา ทันทีที่คุณพ่อคุณแม่ของท่านมหาเสนาบดี ได้ถ่ายทอดคุณธรรม เรื่องของความเคารพให้กับท่าน ท่านจึงเกิดความเข้าใจในเรื่องของความเคารพนี้ขึ้นมาอย่างง่ายๆ อีกทั้งท่านยังสามารถที่จะนำมาต่อยอดหรือฝึกฝนและพัฒนาตนเองให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปได้อีกด้วย
ท่านเป็นเด็กที่มีความฉลาดและใฝ่รู้ใฝ่ศึกษาในเรื่องราวต่างๆ อยู่เสมอ
นอกเหนือจากนั้น ท่านมหาเสนาบดียังเป็นเด็กที่มีอุปนิสัยพิเศษไม่เหมือนใคร คือ และถ้าหากท่านสงสัยหรืออยากรู้ในเรื่องอะไรแล้วท่านก็จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะแสวงหาคำตอบของเรื่องนั้นมาให้ได้ประมาณว่า เมื่อไหร่ที่มีคำว่า อะไร ทำไม เกิดขึ้นในใจ ท่านก็จะพยายามคลายข้อสงสัยเหล่านั้นให้หมดไปไม่ด้วยวิธีการใดก็วิธีการหนึ่งและด้วยความที่ท่านมหาเสนาบดีเป็นคนที่มีอัธยาศัยใฝ่รู้ใฝ่ศึกษาในเรื่องราวต่างๆ อยู่เสมอนี้เอง จึงทำให้อัธยาศัยนี้ได้กลายเป็นอุปนิสัยที่ติดตัวท่านมาข้ามภพข้ามชาติ จนกระทั่งเมื่อมาถึงในภพชาติปัจจุบันนี้ ด้วยอุปนิสัยนี้เอง จึงทำให้ตัวท่าน (ในภพชาติปัจจุบัน) ชอบแสวงหาความรู้ต่างๆ อยู่เป็นประจำ จากนั้นท่านก็จะนำความรู้หรือข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ เจาะลึก และทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แบบชนิดที่ใครๆ บนโลกนี้ก็ทำอย่างท่านได้ยาก คือเรียกได้ว่าท่านเป็นพหูสูตที่เปรื่องปราชญ์ที่สุดท่านหนึ่งเลยทีเดียวข้อมูลที่ท่านศึกษาค้นคว้ามานั้น ท่านจะนำข้อมูลส่วนที่เป็นหัวกะทินั้นมาสั่งสอนลูกศิษย์ทั้งหลายให้เกิดวิสัยทัศน์ตามท่านได้แบบง่ายๆ
และที่สำคัญไม่ว่าข้อมูลที่ท่านศึกษาค้นคว้ามาจะมีมากมายขนาดไหนก็ตาม แต่ท่านก็สามารถที่จะย่อยข้อมูลเหล่านั้นจนกระทั่งเหลือแต่ส่วนที่เป็นหัวกะทิได้ จากนั้นท่านก็จะนำข้อมูลส่วนที่เป็นหัวกะทินั้นมาสั่งสอนลูกศิษย์ทั้งหลายให้เกิดวิสัยทัศน์ตามท่านได้แบบง่ายๆท่านสามารถที่จะอธิบายขยายความโดยพิสดารให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
คือท่านสามารถที่จะอธิบายขยายความโดยพิสดารให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง อีกทั้งท่านยังสามารถที่จะเปรียบเทียบเรื่องราวที่ลึกซึ้งให้ผู้ฟังเห็นภาพพจน์ได้อย่างง่ายๆ แบบเป็นฉากต่อ คือท่านสามารถที่จะถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ให้ผู้อื่นเกิดความรู้และความเข้าใจได้แบบเหนือชั้นประดุจดั่งบุคคลที่หงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด ตามประทีปในที่มืด และบอกทางแก่คนหลงทาง
ส่วนว่าเรื่องราวที่น่าสนใจและน่าติดตามของบุคคลในระดับตำนาน จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรต่อไปนั้น เราก็คงจะต้องมาติดตามกันต่อใน มหาเสนาบดี ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนที่ 5
รับชมวิดีโอ
บทความที่เกี่ยวข้องกับชีวิตก็เป็นอย่างนี้ “ยุ่นสมาน...หวานเสมอ" ที่ผ่านมา
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)
บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป
"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
http://goo.gl/ki6jL