บทความธรรมะ Dhamma Articles >
พระราชาสดับเช่นนั้น ทรงปฏิเสธทันทีว่า "ลูก เอาทรัพย์ไปใช้เช่นนี้ไม่เกิดประโยชน์เลย เลิกให้ทานเถิดลูก ลูกควรจะนำทรัพย์ที่พ่อจะให้นี้ ไปใช้จ่ายเที่ยวเล่นสนุกสนานให้เต็มที่ ไม่ต้องไปคิดถึงใคร และภพชาติต่อไปก็อย่าไปกังวล ลูกจงเก็บเกี่ยวความสุขในชาตินี้ให้เต็มที่เถิด" อ่านเรื่องต่อ
ปัจจุบันใจของลูกเย็นค่ะ ไม่โมโหใคร แต่ก่อนใครพูดอะไรที่ไม่สบอารมณ์ ก็ศอกกลับทันที ถ้าซ้ายมาก็ขวาไป แต่เดี๋ยวนี้มีอะไรก็ยิ้มกลับ รู้จักให้อภัย ถ้ามีอะไรที่พูดแรงไป ก็ยอมขอโทษ หรือบางครั้ง เจอหัวหน้าบ่นมากๆ ลูกก็จะภาวนา “สัมมา อะระหัง” ถ้าชักจะเกิดความโกรธก็มีจุดสกัด โดยนึกถึงมหาปูชนียาจารย์และเอาใจเข้ากลาง อารมณ์โกรธก็หายในทันที ความจำในวัยนี้ก็ยังเยี่ยม ใครๆก็รุมรัก แถมงานก็เปี่ยมประสิทธิภาพ อ่านเรื่องต่อ
พอเริ่มนั่งสมาธิลูกก็จะวางใจสบายๆ นึกถึงศูนย์กลางกายและนึกถึงองค์พระ ซึ่งลูกก็นึกได้ค่ะ เห็นองค์พระขนาดเท่าองค์พระธรรมกายประจำตัว เป็นองค์สีทอง อยู่ที่กลางท้อง พอเห็นแล้วก็รู้สึกมีความสุขและอบอุ่นใจ เหมือนมีที่พึ่งในตัว อ่านเรื่องต่อ
พระพี่เลี้ยงได้ยินข่าวลือว่า "พระราชาทรงฟังถ้อยคำของอาชีวกผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ จึงรับสั่งให้รื้อโรงทานที่ประตูเมืองทั้งสี่ บัดนี้ทรงมัวเมาแต่เบญจกามคุณ มิได้สนพระทัยในพระราชกรณียกิจเลย" อ่านเรื่องต่อ
ฝ่ายพระเจ้าปิลยักขราช ได้เห็นภาพของฤษีทั้งสองแล้ว ก็รู้สึกสงสารยิ่งนัก ได้ทรงปลอบใจให้ทั้งสองคลายความโศกว่า “ขอผู้เป็นเจ้าทั้งสอง อย่าได้คร่ำครวญถึงสามะบุตรผู้ถึงพร้อมด้วยคุณความดี ว่าเขาถูกเราฆ่าตายเสียแล้ว แล้วใครจะเลี้ยงดูพวกเราเลย...แม้จะสิ้นสามะแล้ว ข้าพเจ้านี่แหละจะขอเลี้ยงดูผู้เป็นเจ้าทั้งสองอยู่ในป่าใหญ่นี้เอง อ่านเรื่องต่อ
โต๋และโกลด์กี้พูดจาไพเราะมากขึ้น ผลการเรียนของลูกทั้งสอง สร้างชื่อเสียงให้แก่ครอบครัว และประเทศไทยคือ สอบได้ที่หนึ่งของห้อง ครูประจำชั้นของโกลด์กี้ได้พูดกับลูกว่า “ตั้งแต่เป็นครูสอนหนังสือมาจนใกล้จะเกษียณอายุ เพิ่งได้มีโอกาสสอนเด็กไทยที่เรียนรู้ได้เร็ว เขาสามารถจบชั้นป. 3 ได้ภายในสามเดือน เขาอยู่ในร่างเด็กแต่ความรับผิดชอบเหมือนผู้ใหญ่” ครูพูดว่าเก่งทั้งพี่และน้องเลยนะ คุณมีเทคนิคอย่างไร ในการสอนลูกให้เก่ง ลูกก็ตอบสั้นๆว่า "ให้ดู DMC และนั่งสมาธิทุกวันสิคะ" อ่านเรื่องต่อ