บทความธรรมะ Dhamma Articles >
เพราะลูกก็นอนนับองค์พระ โดยนึกว่าฝนตกหนึ่งแปะ ก็คือ องค์พระหนึ่งองค์ ตกลงมาที่ศูนย์กลางกาย ซึ่งลูกก็นับเพลินจนหลับไป จึงเป็นเหตุให้วันที่สาม ลูกตื่นขึ้นอย่างสดชื่น ก่อนระฆังปลุกเล็กน้อย พร้อมกับการนึกถึงองค์พระได้ชัด ทำให้ตลอดทั้งวัน มีความรู้สึกชุ่มเย็น เหมือนองค์พระอยู่กับเราตลอดเวลา อ่านเรื่องต่อ
เรื่องราวของนักสร้างบารมีผู้หนึ่ง...เธอเคยประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ จนทำให้สามารถมีเงินเก็บถึง 12 ล้านบาท...เธอเป็นคนรักบุญ ไม่เคยปฏิเสธบุญ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น อยู่มาวันหนึ่ง ได้มีคนมาชวนให้เธอไปเล่นการพนันชนิดหนึ่ง ด้วยวิบากกรรมเก่าตามมาทัน ทำให้เธอต้องสูญเสียเงินทั้งหมดที่ได้เก็บออมมา เพียงข้ามคืน เธอต้องกลายเป็นแม่ค้าขายของเล็กๆน้อยๆ และไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร...ต่อมา เธอได้จากบ้านมาอยู่วัด เป็นสมาชิกในโครงการ “เจ้าหน้าที่รักวัด” บอกบุญจนได้รับ เหรียญกล้าหาญหลานยาย อ่านเรื่องต่อ
พระนางอุทุมพรเทวีจึงทรงดำริในพระทัย “โธ่เอ๋ย! นึกว่าจะวิเศษสักปานใดหนอ ที่แท้บุรุษนี้มาทอดทิ้งเราไป เพราะเหตุที่เขาเป็นกาลกรรณีนี่เอง บุญบันดาลให้เราก้าวขึ้นสู่ฐานะอันสูงส่งถึงเพียงนี้ ที่ไหนเลย ชายผู้นี้จักคู่ควรกับเราได้เล่า” พระนางทรงดำริในพระทัยเช่นนี้แล้ว ก็ทรงพระสรวลออกมาเบาๆ โดยหารู้ไม่ว่าทุกอากัปกิริยาของพระนางนั้น ตกอยู่ในสายพระเนตรของพระราชสวามีตลอดเวลา อ่านเรื่องต่อ
เราจะเห็นว่า การสงเคราะห์ญาตินั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตพวกเรา เพราะหมู่ญาติจะเป็นที่พึ่งเป็นทั้งบริวาร และสหายธรรมในการทำความดี เมื่อเราสงเคราะห์ญาติ ญาติก็จะสงเคราะห์เราเช่นกัน เมื่อต่างสงเคราะห์กันและกันอย่างนี้ โลกจะมีความสุขและดำรงอยู่ต่อไปได้ เหมือนรถมีตัวรถ มีล้อ แอก เพลา คํ้าจุนกันไป อ่านเรื่องต่อ
ตอนเช้าลูกจะตื่น ตีสี่ครึ่ง นั่งจนตะวันขึ้น และระหว่างวันก็จะทำการบ้าน 10ข้อ พอตกเย็นหลังจากฟังรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาจบ ก็จะนั่งตามเสียงนำนั่งของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ แล้วก็นั่งต่อเองอีกหน่อยจนกระทั่งหลับในอู่ทะเลบุญค่ะ อ่านเรื่องต่อ
เมื่อมีการขุด ถนนพุทธวิถี นี้ขึ้นมา ถนนแห่งนี้จึงเป็นถนนแห่งความหวังของพี่น้องชาวปวาเก่อญอ ที่จะทำให้ทางการสามารถเข้าไปให้ความรู้ และการช่วยเหลือพวกเขาได้ และในช่วงท้ายๆเมื่อทีมงานของเราขุดถนนใกล้ถึงหมู่บ้านขุนสอง ทีมงานของเรานำโดยพระธรรมจาริก ได้เดินทางไปพักยังสำนักสงฆ์ ณ หมู่บ้านขุนสอง นำชาวบ้านให้สวดมนต์ นั่งสมาธิ อ่านเรื่องต่อ
โดยเฉพาะ พิธีหักดิบตัดใจจุดไฟเผาบุหรี่ นับได้ว่าได้ผลดีเป็นอย่างมาก บางรูปที่เคยติดบุหรี่ ได้กล้าหาญในการหักดิบเลิกตลอดชีวิต เพราะมองเห็นโทษภัยของบุหรี่ซึ่งมีมากมาย โดยไม่ต้องค่อยลด ค่อยละ กล้าปฏิญาณตนเลิกสูบบุหรี่ได้จำนวนหลายรูป นับได้ว่าเป็นกิจกรรมสำคัญส่งเสริมให้ทุกชีวิต ได้มีสุขภาพที่แข็งแรงและเป็นแบบอย่างที่ดีงามที่ทุกฝ่ายต้องส่งเสริม อ่านเรื่องต่อ
ขณะที่กำลังเสด็จผ่านต้นมะเดื่อนั้น ท้าวเธอก็ทรงทอดพระเนตรเห็นนางนั่งอยู่ลำพังผู้เดียวบนคาคบต้นมะเดื่อ จึงทรงขอเหนี่ยวพระคชาธารให้หยุดรอ ขณะที่เหล่าข้าราชบริพารที่เหลือ ต่างพากันจ้องมองนางอย่างไม่กระพริบตา อ่านเรื่องต่อ
ในโลกนี้ สิ่งที่จะบั่นทอนกำลังใจของคนเราได้มากคือคำพูด คำพูดที่ตัดกำลังใจหรือกดใจผู้ฟังให้ต่ำลง ทำให้ผู้ฟังรู้สึกระคายหู ก่อให้เกิดความไม่พอใจความขุ่นมัวโกรธเคือง และยังเป็นวาทกรรมที่ก่อเวร ทำให้ผูกพยาบาทจองเวรกันอีกด้วย ซึ่งการผูกโกรธผูกพยาบาท จะทำให้ใจกระสับกระส่ายไม่เป็นสมาธิ นอกจากนี้หน้าตาก็ยังเศร้าหมองไม่ผ่องใส ไม่น่าเข้าใกล้ ใครๆ ต่างถอยห่างไม่อยากจะคบหาสมาคมด้วย อ่านเรื่องต่อ
เธอเกิดมาในครอบครัวที่ค่อนข้างขัดสน มีพ่อที่ดีแต่พอดื่มเหล้าแล้วนิสัยก็เปลี่ยนไป กลายเป็นชอบทุบตี ตั้งแต่ภรรยาของตน ไปจนถึงข้าวของ...เรื่องผีๆ...ภรรยาที่ตายไปแล้วมาเข้าสิงสามี ที่เวลาเมาแล้วชอบทำร้ายทุบตีเธอ...เรื่องของความรัก...หญิงคนหนึ่ง เมื่อเธอรักใคร ก็บอกออกไปเลย ความรักของเธอจะลงเอยแบบไหน...ที่นี่...มีทุกคำตอบ อ่านเรื่องต่อ
ธรรมดาว่าคู่หนุ่มสาวเมื่อร่วมเดินทางย่อมสนทนา ปราศรัย ชี้ชวนกันชมนกชมไม้เพื่อบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หนทางที่ว่าไกลก็จะเป็นเหมือนใกล้เพราะมีคนรู้ใจเป็นสหายร่วมทาง แต่สำหรับปิงคุตตระแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ เขากลับพยายามเร่งก้าวเดินเพื่อจะให้ถึงมิถิลานครโดยเร็ว จนทิ้งห่างนางไป อ่านเรื่องต่อ
“พายเถิดนะพ่อพาย ตลาดจะวาย สายบัวจะเน่า” หมายถึง จะทำอะไรก็ให้รีบทำ อย่าชักช้าลังเลใจ ต้องทุ่มเททำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ หากหมดเวลาหมดโอกาสแล้ว ก็เหมือนตลาดจะวาย คือ หมดเวลาค้าขาย คนซื้อก็หาย สินค้าก็หมด สินค้าคุณภาพดีๆ ซึ่งเป็นที่ต้องการก็มีคนมาซื้อไปหมดแล้ว สายบัวจะเน่า คือ เอามาใช้ประโยชน์ไม่ได้จำเป็นต้องทิ้งไป เพราะเหลือแต่ของที่มีคุณภาพต่ำ เป็นสิ่งที่คนอื่นไม่อยากได้แล้ว อ่านเรื่องต่อ
สุดท้ายนี้ กระผมอยากจะกราบเรียนว่า ถ้าไม่ได้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ถนนเส้นนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะอีกซักกี่สิบปีถึงจะสร้างเสร็จ กระผมยังจำได้ ในตอนแรกๆที่กระผมชวนชาวบ้านมาขุดถนน
ชาวบ้านบอกว่า “จะทำได้หรือ...หลวงพ่อจะหาอาหารจากไหนมาเลี้ยงพวกเรา”
กระผมก็ตอบไปว่า “เดี๋ยวหลวงพ่อธัมฺมชโยจะมาช่วยพวกเราทำถนน”
เขาก็บอกว่า “จะมาจริงๆหรือ” อ่านเรื่องต่อ