ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ

ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารทรงปรารภการที่พระสารีบุตรสามารถพยากรณ์ปัญหาที่พระองค์ตรัสถามโดยย่อได้อย่างพิศดาร ณ ประตูสังกัสนคร https://dmc.tv/a28910

บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ
[ 13 เม.ย. 2566 ] - [ ผู้อ่าน : 18285 ]

ชาดก 500 ชาติ

ฌานโสธนชาดก-ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร
  
       ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารทรงปรารภการที่พระสารีบุตรสามารถพยากรณ์ปัญหา
ที่พระองค์ตรัสถามโดยย่อได้อย่างพิศดาร ณ ประตูสังกัสนครจึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ครั้งนั้นพระศาสดาเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สู่โลกมนุษย์
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
 
        ณ ประตูสังกัสนคร ในท่ามกลางหมู่มหาชนนั้นพระพุทธองค์ได้ตรัสถามปัญหาในวิสัยของปุถุชนเป็นต้น พวกปุถุชนแก้ปัญหาได้ในวิสัยของตนเท่านั้น
ไม่สามารถจะแก้ปัญหาในวิสัยของพระโสดาบันได้ พระโสดาบันไม่สามารถจะแก้ปัญหาในวิสัยของพระสกทาคามีได้
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมายังท่ามกลางหมู่มหาชน
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมายังท่ามกลางหมู่มหาชน
 
        พระมหาสาวกที่เหลือไม่สามารถจะแก้ปัญหาในวิสัยของพระมหาโมคคัลลานะ พระมหาโมคคัลลานะไม่สามารถแก้ปัญหาในวิสัยของพระสารีบุตรเถระ
แม้พระสารีบุตรเถระก็ไม่สามารถจะแก้ปัญหาในวิสัยของพระพุทธเจ้าได้ “ คำถามยากเช่นนี้พวกเราไม่สามารถตอบได้หรอกพระเจ้าค่ะ ”

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสถามปัญหาในวิสัยของปุถุชน
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสถามปัญหาในวิสัยของปุถุชน
 
      “ คงต้องให้พระสารีบุตรพระอัครสาวกผู้มีปัญญามาตอบคำถามแล้ว ” พระสารีบุตรนั้นแม้ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีปัญญามาก แต่ก็ไม่สามารถตอบคำถาม
ของพระศาสดาได้ พระศาสดาจึงทรงชี้แนะ ทำให้พระสารีบุตรสามารถตอบคำถามของพระองค์ได้โดยละเอียด

พระโสดาบันไม่สามารถแก้ปัญหาของพระสกิทาคามีได้
 
พระโสดาบันไม่สามารถแก้ปัญหาของพระสกิทาคามีได้
 
        เรื่องราวในครั้งนี้ทำให้ภิกษุทั้งหลายยกย่องสรรเสริญถึงปัญญาของพระสารีบุตร “ พวกท่านทั้งหลาย คำถามที่พระพุทธองค์ทรงถามพวกเรานั้น
มีเพียงพระสารีบุตรเท่านั้นที่สามารถแก้ปัญหาได้ ” “ สมแล้วที่เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวาของพระบรมศาสดา ”
 
เหล่าสาวกทั้งหลายไม่สามารถแก้ปัญหาในวิสัยของพระโมคคัลลานะได้
 
เหล่าสาวกทั้งหลายไม่สามารถแก้ปัญหาในวิสัยของพระโมคคัลลานะได้
        
       ในขณะที่ภิกษุทั้งหลายสนทนากันอยู่นั้นพระศาสดาเสด็จผ่านมา เมื่อทรงทราบเรื่องที่ภิกษุทั้งหลายสนทนาแล้ว จึงตรัสกับภิกษุเหล่านั้น “ ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย สารีบุตรีแก้ปัญหาที่มหาชนไม่สามารถจะแก้ได้ในเฉพาะบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้ แม้ในกาลก่อนเธอก็สามารถแก้ปัญหามาได้แล้วเหมือนกัน ”

พระโมคคัลลานะก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในวิสัยของพระสารีบุตรได้
 
พระโมคคัลลานะก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในวิสัยของพระสารีบุตรได้
 
       “ เรื่องราวนั้นเป็นเช่นไรพระเจ้าค่ะ ขอพระองค์ทรงเล่าให้พวกหม่อมฉันฟังด้วยเถิด ” ภิกษุทั้งหลายกราบทูลอาราธนาแล้ว พระศาสดาจึงทรง
นำเรื่องในอดีตมาสาทกดังต่อไปนี้ 
ในอดีตกาลเมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี มีพราหมณ์ผู้หนึ่งหลังจากศึกษาวิชชา
 
เหล่าภิกษุทั้งหลายต่างยกย่องสรรเสริญในการแก้ปัญหาของพระสารีบุตร
 
เหล่าภิกษุทั้งหลายต่างยกย่องสรรเสริญในการแก้ปัญหาของพระสารีบุตร
     
        จบมาจากสำนักตักศิลาแล้ว เกิดความเบื่อหน่ายในกาม จึงละกามออกไปบวชอยู่ในป่าหิมพานต์ “ ชีวิตฆารวาสช่างน่าเบื่อแท้ ออกบวชหาความสงบดีกว่า ”
เมื่อออกบวชแล้วดาบสนั้นก็บำเพ็ญเพียรจนสามารถทำฌานและอภิญญาให้บังเกิดขึ้นได้ บรรดาดาบสทั้งหลายที่อยู่ในป่านั้นต่างก็มาฝากตัวเป็นศิษย์
 
ภิกษุทั้งหลายได้กราบทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์ทรงตรัสเล่าเรื่องราวในอดีต
 
ภิกษุทั้งหลายได้กราบทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์ทรงตรัสเล่าเรื่องราวในอดีต
 
        “ ท่านอาจารย์โปรดรับข้าเป็นศิษย์ด้วยเถิด ” “ เรายินดีรับเจ้าเป็นศิษย์จากนี้ไปจงตั้งใจศึกษาเถิด ” ดาบสผู้เป็นอาจารย์ทำการสอนการฝึกกสิณ
และฌานสมาบัติให้แก่พวกศิษย์ทั้งหลาย ต่อมาลูกศิษย์เอกของดาบสได้พาลูกศิษย์อีกกลุ่มหนึ่งจาริกธุดงค์ไปในเขตเมือง
 
พระศาสดาทรงนำเรื่องราวในอดีต ฌานโสธนชาดกมาตรัสเล่าแก่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
พระศาสดาทรงนำเรื่องราวในอดีต ฌานโสธนชาดกมาตรัสเล่าแก่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
       “ พวกเจ้าจงดูแลอาจารย์ให้ดี ข้าและศิษย์อื่น ๆ จะไปธุดงค์ ” “ ไม่ต้องห่วง ข้าจะดูแลอาจารย์และสำนักของเราเป็นอย่างดี ” เมื่อศิษย์เอกออกจาริก
ธุดงค์แล้ว เวลาต่อมาดาบสผู้เป็นอาจารย์ก็ได้อาพาธหนักใกล้จะมรณะภาพ ศิษย์ทั้งหลายต่างมาชุมนุมกันเพื่อดูใจผู้เป็นอาจารย์

พระเจ้าพรหมทัตทรงเสวยราชสมบัติ ณ กรุงพาราณสี
 
พระเจ้าพรหมทัตทรงเสวยราชสมบัติ ณ กรุงพาราณสี
  
        “ ต่อไปเมื่อไม่มีท่านอาจารย์ แล้วพวกเราจะอยู่ยังไง ” “ สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา เจ้าเป็นนักบวชเรื่องแค่นี้
ยังไม่เข้าใจอีกหรือ ” ศิษย์ทั้งหลายสงสัยว่าอาจารย์ของตนนั้นได้บรรลุธรรมพิเศษอะไรบ้างหรือไม่ เมื่อรู้ว่าผู้เป็นอาจารย์กำลังจะจากไปแล้ว
       
พราหมณ์หนุ่มได้เดินทางกลับมาบ้านเมืองตนหลังจากเรียนจบจากสำนักตักศิลา
 
พราหมณ์หนุ่มได้เดินทางกลับมาบ้านเมืองตนหลังจากเรียนจบจากสำนักตักศิลา
  
       ศิษย์เหล่านั้นจึงซักถามในสิ่งที่ตนสงสัย “ ท่านอาจารย์ ข้ามีเรื่องสงสัยมานานแล้ว ขออาจารย์ตอบข้อสงสัยข้าด้วยเถิด ” “ เจ้ามีอะไรอยากรู้ก็ถามมาเถิด ”
“ ท่านอาจารย์ท่านสำเร็จธรรมวิเศษขั้นใดรึ ” “ ข้าไม่มีธรรมะวิเศษอะไรตามที่เจ้าว่ามาหรอก ” หลังจากตอบคำถามศิษย์ทั้งหลายแล้ว

พราหมณ์หนุ่มได้ออกบวชและได้ไปอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์
 
พราหมณ์หนุ่มได้ออกบวชและได้ไปอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์
 
        ดาบสผู้เป็นอาจารย์ก็ละสังขารไปเกิดในพรหมโลกชั้นที่ที่ ๖ ชื่อว่าอภัสราพรหมอันเป็นที่อยู่ของผู้ที่ได้ฌาน ๒ อย่างละเอียด แท้จริงแล้วดาบสนั้น
สามารถไปเกิดในพรหมโลกที่สูงสุดได้ เพราะได้ฌานขั้นสูงสุดคือ เนวสัญญานาสัญญาญตน แต่ที่ไม่ยอมไปเกิดในพรหมโลกเพราะว่าอรูปพรหม

เหล่าดาบสทั้งหลายต่างพากันมาฝากตัวเป็นศิษย์กับพราหมณ์หนุ่ม
 
เหล่าดาบสทั้งหลายต่างพากันมาฝากตัวเป็นศิษย์กับพราหมณ์หนุ่ม
 
       มีอายุยาวนานเกินไป และไม่มีอวัยวะคือ ตา หู เป็นต้น ในการติดต่อกับโลกภายนอกได้ จึงทำให้อรูปพรหมนี้ไม่เหมาะที่จะไปอยู่อย่างยิ่ง พวกลูกศิษย์ได้ฟัง
คำตอบของอาจารย์แล้วก็เกิดความเข้าใจผิดคิดว่าอาจารย์ที่ตนเคารพไม่มีคุณธรรมอะไรเลย “ โธ่ ที่แท้อาจารย์ก็ไม่ได้มีคุณธรรมวิเศษอะไรเลย ”
 
ศิษย์เอกของพราหมณ์ได้ฝากให้ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งดูแลอาจารย์ในขณะที่ตนไม่อยู่
 
ศิษย์เอกของพราหมณ์ได้ฝากให้ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งดูแลอาจารย์ในขณะที่ตนไม่อยู่
 
        “ ข้าอุตส่าห์ฝากตัวเป็นศิษย์ตั้งใจศึกษาตั้งนาน ” “ ใช่ ๆ ๆ เสียเวลาจริง ๆ ” พวกลูกศิษย์ช่วยกันทำศพผู้เป็นอาจารย์ไปฌาปนกิจในป่าช้าโดยไม่ได้
จัดเครื่องสักการะที่สมเกียรติยศให้แก่ท่านแต่ประการใด “ ฮือ ๆๆ ” “ เจ้าจะเสียใจให้กับอาจารย์ที่ไม่มีคุณวิเศษอะไรเลยไปทำไม ”
 
พราหมณ์ดาบสได้เกิดอาพาธหนักในขณะที่ศิษย์เอกของตนไม่อยู่
 
พราหมณ์ดาบสได้เกิดอาพาธหนักในขณะที่ศิษย์เอกของตนไม่อยู่
 
       “ ใครว่าข้าเสียใจให้อาจารย์ ข้าเสียใจที่หลงผิดมาฝากตัวเป็นศิษย์สำนักนี้ต่างหากล่ะ ” “ จริงของเจ้า เสียเวลามาหลายปี ” ฝ่ายศิษย์เอกกลับจาริกธุดงค์
แล้วไม่เห็นอาจารย์จึงไปถามศิษย์อื่น ๆ จึงรู้ว่าอาจารย์มรณภาพไปแล้ว “ ท่านอาจารย์ข้าเสียใจจริง ๆ ที่ไม่ได้อยู่ดูใจท่าน ”
 
บรรดาลูกศิษย์ได้ถามถึงคุณธรรมคุณวิเศษของอาจารย์ก่อนที่จะมรณภาพ
 
บรรดาลูกศิษย์ได้ถามถึงคุณธรรมคุณวิเศษของอาจารย์ก่อนที่จะมรณภาพ
 
       ดาบสผู้เป็นศิษย์เอกนั้นก็มีความใคร่รู้ในคุณวิเศษของอาจารย์เช่นกัน เมื่อทำใจได้แล้วจึงถามเรื่องนี้กับศิษย์ร่วมสำนัก “ ก่อนอาจารย์จะสิ้นใจพวกเจ้า
ได้ถามถึงคุณวิเศษในตัวอาจารย์หรือเปล่า ” “ อาจารย์ไม่มีคุณธรรมอะไรในตัวแม้แต่นิดเดียว ” “ เจ้าพูดจริงรึ ” “ จริงสิ ข้าก็ได้ยินเต็มสองรูหู ”
 
พราหมณ์ดาบสนั้นได้สำเร็จฌาน ๘ สามารถไปเกิดเป็นอรูปพรหมได้
 
พราหมณ์ดาบสนั้นได้สำเร็จฌาน ๘ สามารถไปเกิดเป็นอรูปพรหมได้

        “ ใช่ พวกเราผิดหวังในตัวอาจารย์มาก ก็เลยไม่ได้จัดงานศพให้อาจารย์ ” ผู้เป็นศิษย์เอกได้ฟังดังนั้นก็ได้รู้ว่าอาจารย์ได้ฌานขั้นที่ ๘ คือ เนวสัญญานา-
สัญญาญตนแล้วจึงกล่าวตำหนิศิษย์ร่วมสำนักเหล่านั้น “ พวกเจ้าใช้ไม่ได้จริง ๆ ที่อาจารย์พูดแบบนั้นหมายความว่าท่านได้ฌานที่ ๘

เหล่าศิษย์ทั้งหลายพาร่างอาจารย์ไปฌาปนกิจในป่าช้า
 
เหล่าศิษย์ทั้งหลายพาร่างอาจารย์ไปฌาปนกิจในป่าช้า

       คือ เนวสัญญานาสัญญาญตน หาใช่ผู้ไม่มีธรรมวิเศษ ” “ จริงหรือ ท่านพูดปกป้องอาจารย์เกินไปหรือเปล่า ” “ นั่นสิ ใครๆ ก็รู้ว่าท่านเคารพอาจารย์มาก
ถึงได้พูดเข้าข้างอาจารย์แบบนี้ ” บรรดาศิษย์ไม่เชื่อคำของดาบสผู้เป็นศิษย์เอก ด้วยคิดว่าดาบสนั้นกล่าวเพื่อปกป้องอาจารย์เท่านั้นหาได้เป็นจริงไม่

บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างพากันเข้าใจผิดคิดว่าอาจารย์ของตนไม่มีคุณวิเศษแต่ประการใด

บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างพากันเข้าใจผิดคิดว่าอาจารย์ของตนไม่มีคุณวิเศษแต่ประการใด
 
      “ พวกข้าไม่เชื่อท่านหรอก ตอนที่อาจารย์ไม่สบายข้ายังเคยได้ยินอาจารย์ว่า บางครั้งเราก็จำได้ บางครั้งเราก็จำไม่ได้ ” “ อาจารย์ป่วยจนเลอะเลือนนะสิ ”
“ พวกเจ้านั้นแหละที่เลอะเลือน ที่พวกเจ้าไม่เข้าใจเพราะเข้าไม่ถึงฌานต่างหาก ” “ ท่านอย่าโม้ไปหน่อยเลย พูดแบบนี้หมายความว่าท่าน
 
บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างไม่เชื่อในคำพูดของศิษย์เอกที่บอกว่าอาจารย์ของตนมีคุณวิเศษ
 
บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างไม่เชื่อในคำพูดของศิษย์เอกที่บอกว่าอาจารย์ของตนมีคุณวิเศษ
 
       เข้าถึงฌานอย่างนั้นรึ ” “ ถึงท่านจะเป็นศิษย์เอกก็ไม่ได้หมายความว่าท่านจะมีดีกว่าพวกเราหรอกนะ ” “ ใช่ ว่าแต่พวกเรามีดีอะไรบ้างล่ะ ” ในขณะนั้น
ท่านอาจารย์ผู้ได้ไปเกิดในอภัสราพรหมได้ทราบเรื่องที่บรรดาศิษย์ทั้งหลายไม่เชื่อในคำของศิษย์เอกท่านจึงหายตัวจากพรหมโลกมายืนลอยเด่น
 
พราหมณ์อาจารย์ได้ลงมาจากชั้นอาภัสราพรหมเพื่อมาหาศิษย์ของตน
 
พราหมณ์อาจารย์ได้ลงมาจากชั้นอาภัสราพรหมเพื่อมาหาศิษย์ของตน
 
      เป็นสง่าอยู่กลางอากาศในเบื้องบนสำนัก แล้วจึงกล่าวแก่ศิษย์ทั้งหลาย “ พวกเจ้าทั้งหลายช่างโง่เขลานัก ศิษย์ผู้พี่บอกความจริงก็ยังไม่เชื่อ
เราจะบอกความจริงให้พวกเจ้ารู้ ” “ นั่น นั่น อาจารย์นี่น่า ” “ ใช่จริง ๆ อาจารย์เกิดในพรหมโลกแล้วมาหาพวกเรา ”
 
พราหมณ์อาจารย์ได้กล่าวยกย่องศิษย์เอกของตนว่าเป็นผู้ที่ได้ฌานขั้นสูงสุดเช่นเดียวกับตน
 
พราหมณ์อาจารย์ได้กล่าวยกย่องศิษย์เอกของตนว่าเป็นผู้ที่ได้ฌานขั้นสูงสุดเช่นเดียวกับตน
 
       ผู้เป็นอาจารย์ได้กล่าวเตือนเหล่าลูกศิษย์ทั้งหลายจากนั้นจึงยกย่องชมเชยศิษย์เอกว่าเป็นศิษย์ผู้ได้ฌานขั้นสูงสุดเช่นเดียวกับตน “ พวกเจ้าจงรู้ไว้เถิด
ที่ศิษย์พี่ของพวกเจ้าเข้าใจความหมายที่เราพูดเพราะศิษย์ผู้นี้ได้สำเร็จฌานขั้นสูงสุดเช่นเดียวกับเรา ”
 
 
พระศาสดาทรงประชุมชาดกหลังจากที่ได้ตรัสเล่าชาดกจบลง
 
พระศาสดาทรงประชุมชาดกหลังจากที่ได้ตรัสเล่าชาดกจบลง
 
      พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้วทรงประชุมชาดกว่า อันเตวาสิกผู้ใหญ่ในครั้งนั้น ได้มาเป็นพระสารีบุตร ส่วนอาจารย์ผู้เป็นพรหม
ได้กลับชาติมาเกิดเป็นเราตถาคตนั้นเอง
 
 

 
 










พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง
      เกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
      ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
      ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
      ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
      มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
      สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
      สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
      อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
      สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
      สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
      อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ