มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง

ในช่วงฤดูร้อนที่เกิดความแห้งแล้งแสนสาหัส บรรดาต้นไม้ต่างพากันล้มตาย มีพญานกแขกเต้าเพียงตัวเดียวที่ไม่ยอมทิ้งต้นมะเดื่อไปไหนถึงแม้ว่าต้นมะเดื่อจะไร้ผล ไร้กิ่ง ไร้ใบ แต่พญานกก็แทะกินกิ่งก้านที่พอมีประทังชีวิตของตน จนร้อนถึงบัลลังก์ของท้าวสักกะ https://dmc.tv/a28972

บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ
[ 10 พ.ค. 2566 ] - [ ผู้อ่าน : 18280 ]

ชาดก 500 ชาติ

มหาสุวราชชาดก-ชาดกว่าด้วยความพอเพียง

พระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาต่างยึดเอาจริยาวัตรสมถะเป็นที่ตั้ง

พระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาต่างยึดเอาจริยาวัตรสมถะเป็นที่ตั้ง
  
       เหตุอันเกิดในพุทธกาลผ่านมานั้นมีมากมายนักที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณจากพระผู้มีพระภาคเจ้า ปรากฎการณ์หนึ่งที่มีอยู่ในพระไตรปิกฎก็คือ
แบบอย่างความมัธยัสถ์ดำรงตนอย่างพอเพียงไม่ละโมบฟุ้งเฟ้อเกินจำเป็น ภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาครั้งนั้นต่างยึดถือเอาจริยาวัตรสมถะ
 
พระเชตวันมหาวิหาร
 
พระเชตวันมหาวิหาร
 
        พอใจในสิ่งที่ตนเองมีของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติเป็นเนติแบบฉบับโดยทั่วกัน พระสุปฏิปันโนอันประพฤติดีจึงมีอยู่ทั่วไปทั้งชมพูทวีป ตัวอย่าง
ที่ประจักชัดก็ยังพบเห็นในพระเชตวันมหาวิหารพระอารามที่งประทับจำพรรษานานที่สุดนี้
 
พระภิกษุสงฆ์ได้ออก<a href=http://www.dmc.tv/search/บิณฑบาต title='บิณฑบาต' target=_blank><font color=#333333>บิณฑบาต</font></a>ในยามเช้า
 
พระภิกษุสงฆ์ได้ออกบิณฑบาตในยามเช้า
 
       สงฆ์สาวกทุกรูปจะดำรงตนตามมีตามได้แค่เพียงพอต่อความจำเป็น ออกภิกขาจารได้ภัตตาหารเช่นไรมาก็ฉันตามนั้นมิได้ยึดเป็นเรื่องสำคัญ
ให้จิตใจรุ่มร้อน “ อืม ฉันเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ฉันแล้วก็จะได้ปฏิบัติธรรมต่อ ” ทั้งภิกษุที่บวชเรียนพรรษามาก

ภิกษุสงฆ์บิณฑบาตได้อาหารเช่นไรก็ฉันเท่าที่ได้ยึดถือความพอเพียงเป็นหลัก
 
ภิกษุสงฆ์บิณฑบาตได้อาหารเช่นไรก็ฉันเท่าที่ได้ยึดถือความพอเพียงเป็นหลัก
 
      และภิกษุที่บวชใหม่ในพุทธสมัยนั้นไม่ได้ต่างกันในวัตรปฏิบัติอันถือความพอเพียงเป็นหลักสมณะวัตร พระเกียรติคุณพระแห่งสมเด็จพระศาสดา
ก็ยิ่งกำจรกำจายให้เป็นที่พึ่งพาทั้งเทวดาและมหาชนมากยิ่งขึ้นเกินคณานับ “ ฉันแต่พอดี เราต้องอยู่อย่างพอเพียง

เหล่าภิกษุได้บรรลุธรรมสู่อรหันต์กันอย่างมากมาย
 
เหล่าภิกษุได้บรรลุธรรมสู่อรหันต์กันอย่างมากมาย
 
        อย่างที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าปฏิบัติไว้ ” เมื่อมีภิกษุปฏิบัติจิตเข้าฌานชั้นสูงได้บรรลุสัจธรรมสู่อรหัตผลสู่อรหันต์มากมายหลายองค์ขึ้น สาธุชน
ทั้งหลายยิ่งสรรเสริญ ปฏิปทาอันสมถะพอเพียงที่พระพุทธองค์ทรงกระทำเป็นแบบฉบับไว้ “ สมาธิ(Meditation) สมาธิ พุทโธ พุทโธ
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ได้รวมตัวกันยังธรรมสภา
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ได้รวมตัวกันยังธรรมสภา
        
       หากเราปฏิบัติธรรมตามอย่างองค์พระศาสดา สักวันเราก็คงบรรลุธรรมได้ในที่สุด ” ในธรรมสภาคราวหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงปรารภธรรม
ข้อพอเพียงนี้ว่าสามารถช่วยให้ชีวิตมีสุขตามอัตภาพได้จริงแท้ พระองค์ทรงยกอดีตชาติของพญานกแขกเต้า

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสเล่า สุวราชชาดก แก่เหล่าภิกษุสงฆ์ในธรรมสภา
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสเล่า สุวราชชาดก แก่เหล่าภิกษุสงฆ์ในธรรมสภา
 
       ที่พอใจในต้นมะเดื่อของตนขึ้นเทศนาเป็นมหาสุวราชชาดก อธิบายความสำคัญแห่งวิถีชีวิตพอเพียงดังนี้ อดีตกาลครั้งกระโน้นไกลออกมา
จากฝั่งแม่น้ำคงคาคือป่าใหญ่อันอุดมด้วยผลาผลมากมาย ยามต้นวสันต์พรรณพฤกษาจะแตกพุ่มอุ้มน้ำเขียวขจี
 
ณ ชายป่ายังมีดงมะเดื่อซึ่งออกดอกผลอย่างมากมายเต็มต้น
 
ณ ชายป่ายังมีดงมะเดื่อซึ่งออกดอกผลอย่างมากมายเต็มต้น
     
        ทั้งผืนป่าเป็นที่ชุมนุมของสกุณาทิชาชาติให้พากันยังชีพด้วยดอกและผลจากต้นไม้นั้น ๆ ตามธรรมชาติของตน ที่ชายป่าผืนใหญ่นี้ยังมีดงมะเดื่อ
ยืนต้นอยู่หมู่หนึ่ง หลังการแตกช่อรับฤดูฝนมะเดื่อก็ออกผลแล้วค่อยทยอยสุกจนแดงเต็มกิ่ง
 
มีนกแขกเต้าฝูงใหญ่มาอาศัยยังต้นมะเดื่อ
 
มีนกแขกเต้าฝูงใหญ่มาอาศัยยังต้นมะเดื่อ
 
     อันผลมะเดื่อนี้คืออาหารสำคัญของนกแขกเต้า ทุกปีเมื่อปลายฝนยาวนานจนถึงฤดูร้อนผลมะเดื่อจากลูกอ่อนจะเปลี่ยนขนาดและสีสันทยอยสุก
พร้อมกันทุกต้น ถึงเวลานี้จะมีพญานกแขกเต้านำพาฝูงอันเป็นบริวารมาอาศัยต้นมะเดื่อเพื่อจิกกินผลดำรงชีวิต
 
นกแขกเต้าได้อาศัยกินผลมะเดื่อเป็นอาหารในการดำรงชีพ
 
นกแขกเต้าได้อาศัยกินผลมะเดื่อเป็นอาหารในการดำรงชีพ
 
       และตอบแทนมะเดื่อทุกต้นให้ขยายพันธ์ออกไปด้วยการขับถ่ายเมล็ดลงทั่วป่า ต่างพึ่งพาเกื้อกูลดุจครอบครัวเดียวกัน “ อุ้ย ผลมะเดื่อสุกแดง
น่ากินเหลือเกิน เห็นแล้วน้ำลายไหล ขอบคุณต้นมะเดื่อมากนะที่ออกผลมาให้ทาน เราจะตอบแทนด้วยการขยายพันธ์ให้เอง ”

ฝูงนกแขกเต้าได้อาศัยต้นและกินผลมะเดื่ออย่างปกติสุข
 
ฝูงนกแขกเต้าได้อาศัยต้นและกินผลมะเดื่ออย่างปกติสุข
  
        ในปีหนึ่งเกิดเหตุอาเพศจากโลกร้อนความแล้งเริ่มระอุคลุมป่าใหญ่จำนวนนกแขกเต้าก็อพยพหนีภัยทิ้งฝูงไปมากมายที่เหลือก็มีจำนวนน้อย
เริ่มอัตคัดขาดแคลนผลมะเดื่อก็พากันบินตามฝูงไปอีก “ โอ้ย หิว หิว หิว หิวจนแสบท้องไปหมดแล้ว
       
ต้นไม้ต่างพากันล้มตายเมื่อเข้าสู่ฤดูแล้ง
 
ต้นไม้ต่างพากันล้มตายเมื่อเข้าสู่ฤดูแล้ง
  
       ต้นมะเดื่อไม่เหลือผลให้เรากินอีกแล้ว ” “ ย้ายไปอยู่ที่อื่นกันเถอะพวกเรา ขืนอยู่ที่นี่ต่อไปได้อดตายแห้งเหี่ยวไปพร้อมกับต้นมะเดื่อนี้แน่ ๆ เลย ”
ครั้นลมร้อนพัดผ่านมาอีกระลอกเมื่อสัญญาณแห้งแล้งกันดานปรากฎชัดอีกอีกหน

ผลมะเดื่อเริ่มเหี่ยวแห้งและร่วงหล่นในภาวะหน้าแล้ง
 
ผลมะเดื่อเริ่มเหี่ยวแห้งและร่วงหล่นในภาวะหน้าแล้ง
 
        ต้นมะเดื่อที่เคยเป็นหลักชัยให้ไออุ่นก็ถูกทิ้งอยู่เปลี่ยวเดียวดายสู้ลมร้อนของคิมหันตฤดูโดยไม่มีนกกามาร่วมครอบครัวเหมือนที่เคยเป็น “ เหงาจังเลยเรา
ในที่สุดนกพวกนั้นก็ทิ้งเราไป คงเป็นเพราะเราไม่มีผลให้พวกเรากินดังเคยสินะ ” “ เหงาเหรอจ๊ะต้นมะเดื่อ ท่านไม่ได้อยู่เพียงลำพังหรอก

พญานกแขกเต้าไม่ได้ย้ายถิ่นหนีความแห้งแล้งไปยังที่อื่นเหมือนบรรดานกทั้งหลาย
 
พญานกแขกเต้าไม่ได้ย้ายถิ่นหนีความแห้งแล้งไปยังที่อื่นเหมือนบรรดานกทั้งหลาย
 
       เรานี่ไงที่จะอยู่เป็นเพื่อนท่าน ” “ โอ้ ขอบใจมากพญานกแขกเต้า ” ดังมีคำสรรเสริญว่ามหาบุรุษย่อมไม่ทอดทิ้งกันในยามยาก มะเดื่อใกล้ตายต้นหนึ่ง
จึงยังมีนกแขกเต้าจับเจ่าอยู่เป็นมิตรแท้มิได้ตีจากไปไหน บุรุษน้ำใจประเสริฐนี้คือ พญานกหัวหน้าฝูงนั่นเอง “
 
พญานกแขกเต้าได้จิกกินเปลือกไม้ต้นมะเดื่อเพื่อประทังชีวิตของตน
 
พญานกแขกเต้าได้จิกกินเปลือกไม้ต้นมะเดื่อเพื่อประทังชีวิตของตน
 
        แต่ท่านจะอยู่กับเราได้อย่างไรในเมื่อเราไม่มีผลให้ท่านได้กินได้อีกแล้ว ” “ ไม่เป็นไรหรอกไม่มีผลเราก็กินใบแทนได้ ท่านอย่าห่วงเลยนะ ” พญานก
ยังชีพด้วยผลแห้งของมะเดื่อจนหมดสิ้นก็จิกกินใบที่ยังเหลือพร้อมทั้งเร่งปรับลดความเป็นอยู่ของตนให้ทนได้ต่อทุกขภิกขภัยไร้อาหารครั้งนี้

พญานกแขกเต้าใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแต่ก็ไม่ยอมจากต้นมะเดื่อไปไหน
 
พญานกแขกเต้าใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแต่ก็ไม่ยอมจากต้นมะเดื่อไปไหน
 
       เมื่อใบมะเดื่อแห้งหลุดจากขั้วไปพญานกก็ใช้กิ่งก้านและเปลือกไม้ดำรงชีพต่อไปอย่างไม่ยอมแพ้โชคชะตาและไม่คิดละทิ้งต้นมะเดื่อ
ที่มีพระคุณแต่หนหลังดังบริวารตัวอื่น ๆ “ ตอนนี้ใบของเราก็หมดเสียแล้วท่านทิ้งเราไปหาที่อยู่อื่นที่อุดมสมบูรณ์กว่านี้เถอะ ”
 
ความมักน้อยสันโดษของพญานกทำให้บังเกิดความร้อนรุ่มแก่บัลลังก์ของ<a href=http://www.dmc.tv/search/ท้าวสักกะ title='ท้าวสักกะ' target=_blank><font color=#333333>ท้าวสักกะ</font></a>
 
ความมักน้อยสันโดษของพญานกทำให้บังเกิดความร้อนรุ่มแก่บัลลังก์ของท้าวสักกะ
 
       “ เราจะทิ้งท่านไปไม่ได้หรอกท่านมีพระคุณกับเรา ไม่เป็นไรหรอกใบหมดเราก็กินกิ่งไม้เปลือกไม้ได้ อร่อยไปอีกแบบ ” จนกระทั่งฤดูกาลอันทารุณ
ได้ทำลายปลายกิ่งก้านและทำลายสภาพเปลือกไม่มิให้เป็นอาหารอีกต่อไป “ ท่านพญานก ท่านไปเสียเถิดบัดนี้เราไม่เหลืออะไรให้ท่านได้กินเป็น
อาหารแล้วหากท่านยังอยู่กับเราต่อไปก็มีแต่จะอดตาย
 
ท้าวสักกะได้บันดาลให้ต้นมะเดื่อแห้งเฉาและตายลงด้วยฤทธิ์ธาของตน
 
ท้าวสักกะได้บันดาลให้ต้นมะเดื่อแห้งเฉาและตายลงด้วยฤทธิ์ธาของตน

        ไม่ต้องห่วงเราหรอก ชีวิตเราจะอยู่ได้นานอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ” “ เราจะไม่ไปที่ไหนทั้งนั้น เมื่อไม่มีอะไรกินเราก็จะไม่กิน หากท่านต้องตายเราก็จะตายกับท่าน ”
ความเป็นไปอันสันโดษมักน้อยดังนี้เป็นที่รุ่มร้อนขึ้นแก่บัลลังก์ท้าวสักกะเทวราชในทันที ท้าวเธอเพ่งทิพยเนตรแลเห็นพญานกแขกเต้าแล้วบังเกิดอยากทดสอบ

ต้นมะเดื่อได้แห้งกรอบต้นทะลุเป็นโพรงพร้อมที่จะแตกหักเมื่อโดนพายุลมแรง
 
ต้นมะเดื่อได้แห้งกรอบต้นทะลุเป็นโพรงพร้อมที่จะแตกหักเมื่อโดนพายุลมแรง

       จิตใจให้ถึงที่สุด “ สุชาดาเอ๋ย จงคอยดูเถิดพญานกนี้จะถือสันโดษในความพอเพียงได้สักแค่ไหนกัน ” “ ท่านจะลองใจนกตัวนี้ดูใช่ไหมเพค่ะ ” ด้วยฤทธิ์ธาของ
เทวราชท้าวสักกะก็บันดาลให้ต้นมะเดื่อเฉพาะต้นที่พญานกแขกเต้าอยู่อาศัยเกิดเปลี่ยนแปรโดยพลัน “ โอม ด้วยอำนาจแห่งเราต้นมะเดื่อต้นนั้นจงแห้งลง ๆ

แม้ต้นมะเดื่อกำลังจะแห้งตายแต่พญานกแขกเต้าก็ยังอาศัยอยู่ไม่ยอมจากไปไหน

แม้ต้นมะเดื่อกำลังจะแห้งตายแต่พญานกแขกเต้าก็ยังอาศัยอยู่ไม่ยอมจากไปไหน
 
      และตายไปในที่สุด ” ทันใดนั้นลำต้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วลำต้นถูกบันดาลให้แห้งกรอบและเกิดแตกร้าวเป็นช่อง เมื่อลมพัดจะมีเสียง
กระโชกดังน่ากลัวทั้งยังมีเศษไม้ถูกลมพัดฟุ้งออกมาไม่หยุดหย่อน “ โอ้ย โอ้ย เราจะทนไม่ไหวแล้วนะ ตัวเราผุกร่อนจนจะยืนแทบไม่ไหวแล้ว ลำต้นเรา
ก็แตกเป็นโพรง ไปเถอะเจ้านก ทิ้งเราไปเถอะ ”
 
พญานกแขกเต้าได้กินเศษผงจากโพรงไม้ต้นมะเดื่อเป็นอาหาร
 
พญานกแขกเต้าได้กินเศษผงจากโพรงไม้ต้นมะเดื่อเป็นอาหาร
 
       ลำต้นมะเดื่อขยายช่องแตกเป็นรูขนาดใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นจนน่ากลัว “ ไม่นะ ไม่ ท่านต้องไม่เป็นไรนะ เราจะอยู่เป็นเพื่อนท่าน หากท่านต้องล้มลงเราก็จะล้ม
ไปกับท่าน เราจะอยู่กับท่านจนสิ้นชีพของเราเอง ” พญานกแขกเต้าก็ยังยึดมั่นคำสัญญาไม่ได้จากไปไหนคงกินผงไม้ที่ลมพัดมาจากรูแตกของลำต้นมะเดื่อ
 
ต้นมะเดื่อได้หักโค่นลงในที่สุดเพราะต้านแรงลมไม่ไหว
 
ต้นมะเดื่อได้หักโค่นลงในที่สุดเพราะต้านแรงลมไม่ไหว
 
      ประทังชีวิตต่อไป และแล้วมะเดื่อต้นใหญ่ก็พ่ายแพ้ต่อแรงลมเข้าในวันหนึ่ง อดีตอันเคยเขียวขจีเต็มไปด้วยผลสุกไว้เลี้ยงนกกาก็เหลือแต่สภาพต่อไม้ผุ ๆ
ต่อหนึ่ง “ บัดนี้แม้ท่านจะเหลือเพียงต่อเราก็ยังจะอยู่กับท่าน เราจะไม่ทิ้งท่านไปไหน ” วิถีชีวิตและสัจจะพอเพียงดังนี้มีความมั่นคงดั่งสุเมรุมาศ
 
ท้าวสักกะและชายาได้ตัดสินใจที่ลงไปหาพญานกแขกเต้ายังเมืองมนุษย์
 
ท้าวสักกะและชายาได้ตัดสินใจที่ลงไปหาพญานกแขกเต้ายังเมืองมนุษย์
 
       ท้าวสักกะเทวราชก็สุดจะทนดูได้อีก ท่านท้าวและชายาสุชาดาจึงจำแลงร่างเป็นหงส์ทอง ณ บัดนั้น สองพญาหงส์ทองโผร่างจากฟ้าลงมาสู่ป่าใหญ่
ร่อนลงมาหาตอไม้มะเดื่อเพื่ออนุเคราะห์แก่พญานกแขกเต้ามิได้ช้า “ นั่นไงน้องหญิงต้นมะเดื่อต้นนั้นแหละ ” “ น่าสงสารพญานกแขกเต้าจังเลยเพค่ะ ”
 
ท้าวสักกะและชายาได้แปลงร่างเป็นหงส์ทอง
 
ท้าวสักกะและชายาได้แปลงร่างเป็นหงส์ทอง
 
      แต่เพื่อไขปริศนาอยากรู้คติธรรมของพญานกผู้มักน้อยไม่ละโมบ หงส์ทองก็แสร้งแนะนำให้ละทิ้งตอมะเดื่อไปเสีย “ ท่านพญานกแขกเต้าท่านจะมา
เสียเวลากับตอไม้ผุ ๆ นี้ทำไม เพียงบินข้ามป่าแล้งนี้ไปทางทิศบูรพาก็มีป่าใกล้คงคานทีที่สมบูรณ์ ” “ นั่นนะสิ นกแขกเต้าคอแดงเอ๋ย ไฉนรอความตาย
 
 
หงส์ทองสองตัวได้บินลงมายังโลกมนุษย์
 
หงส์ทองสองตัวได้บินลงมายังโลกมนุษย์
 
       อยู่กับตอไม้ไร้ประโยชน์นี้เล่า หากท่านบินไปทางโน้นท่านก็จะได้อยู่กับเพื่อน ๆ ท่านอีกมากมาย ” “ ท่านพญาหงส์ใครเป็นเพื่อนในยามทุกข์ยาก
ผู้นั้นเป็นสัตบุรุษ ต้นมะเดื่อนี้เคยเลี้ยงดูเรามาก่อนดุจญาติมิตรของเราเช่นกัน เรามิต้องการรอดชีวิตอยู่เท่านั้นจึงไม่อาจละทิ้งเขาไปเพราะเหตุไร้ผล
 
หงส์ทองได้แนะนำให้พญานกแขกเต้าย้ายไปอาศัยยังถิ่นอื่นที่อุดมสมบูรณ์
 
หงส์ทองได้แนะนำให้พญานกแขกเต้าย้ายไปอาศัยยังถิ่นอื่นที่อุดมสมบูรณ์
 
     ให้บริโภคดังงเดิมได้ มันไม่ยุติธรรมเลย ” คุณธรรมอันประเสริฐนี้ทำให้ท้าวสักกะและนางสุชาดาปรากฎร่างขึ้นแทนหงส์ทองเพื่ออนุเคราะห์พญานก
“ เพื่อตอบแทนจิตใจที่ดีงามนี้เราขอสรรเสริญด้วยพรข้อหนึ่ง ท่านจงเลือกขอเอาเถิด ” “ บอกความประสงค์ของท่านมาเถิด
 
ท้าวสักกะและชายาได้แปลงร่างจากหงส์ทองกลับคืนเป็นดังเดิม
 
ท้าวสักกะและชายาได้แปลงร่างจากหงส์ทองกลับคืนเป็นดังเดิม
 
      เราทั้งสองจะบันดาลให้ตามที่ท่านขอ ” “ ชีวิตเราเติบใหญ่ได้ด้วยต้นไม้นี้ ท่านจงคืนความยิ่งใหญ่อุดมสมบูรณ์ด้วยใบและผลแก่ต้นไม้นี้เถิด จะได้เป็นที่พึ่ง
แก่เหล่าสกุณาและสัตว์อื่นต่อไป ” ท้าวสักกะกล่าวสาธุกาลแก่กุศลจิตของพญานกแขกเต้าแล้วทรงบันดาลให้ผืนดินชุ่มชื้นขึ้นปรากฎละอองหมอก
 
ท้าวสักกะทรงบันดาลให้แผ่นดินชุ่มชื่นอุดมสมบูรณ์เช่นเดิม
 
ท้าวสักกะทรงบันดาลให้แผ่นดินชุ่มชื่นอุดมสมบูรณ์เช่นเดิม
 
       ห่อหุ้มพื้นเป็นปริมณฑล เกิดไม้ยืนต้นเหยียดสูงแตกกิ่งออกใบเขียวสะพรั่งในบัดดลนั้น “ เราฟื้นแล้ว เราได้ชีวิตใหม่อีกครั้งแล้ว ขอบคุณมาก
ท่านพญานกแขกเต้า ” จากป่าที่เคยแห้งแล้งก็กลายเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ดุจอยู่ในฤดูพรรษา “ สาธุ ขอท่านผู้เป็นใหญ่ในหมู่เทพ
 
ต้นมะเดื่อกลับคืนมีชีวิตอุดมไปด้วยดอกผลอย่างอัศจรรย์ด้วยฤทธิ์ของท้าวสักกะ
 
ต้นมะเดื่อกลับคืนมีชีวิตอุดมไปด้วยดอกผลอย่างอัศจรรย์ด้วยฤทธิ์ของท้าวสักกะ
 
      พร้อมเหล่าเทพทั้งหลายจงเป็นผู้มีสุขเหมือนดั่งข้าพระองค์เป็นสุขที่เห็นต้นมะเดื่อยืนต้นผลิผลได้ในวันนี้เถิด ” เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสชาดกจบแล้ว
ทรงย้ำให้เห็นถึงประโยชน์ของการถือสันโดษไม่โลภเกินจำเป็น ทรงประกาศอริยสัจสี่เป็นอเนกปริยาย
 
เหล่าบรรดานกแขกเต้าทั้งหลายได้พากันกลับมาพักอาศัยยังต้นมะเดื่อเหมือนดั่งในฤดูพรรษาที่ผ่านมา
 
เหล่าบรรดานกแขกเต้าทั้งหลายได้พากันกลับมาพักอาศัยยังต้นมะเดื่อเหมือนดั่งในฤดูพรรษาที่ผ่านมา
 
ในพุทธกาลสมัย พญานกแขกเต้า เสวยพระชาติเป็นพระพุทธเจ้า
 
 
 










พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง
      เกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
      ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
      ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
      ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
      ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
      สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
      สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
      อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
      สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
      สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
      อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ