เกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย

พระเจ้าพรหมทัตทรงครองราชสมบัติอยู่ ณ กรุงพาราณสี พระองค์ทรงชอบการกลั่นแกล้งทรมานคนแก่ชราและสัตว์ที่แก่ไร้เรี่ยวแรง นำมากลั่นแกล้งในรูปแบบต่าง ๆ จนท้าวสักกะทนไม่ไหวจำต้องเสด็จลงมาใช้อุบายทำการสั่งสอนให้พระองค์ได้ทรงสำนึกในการกระทำที่ไม่สมควร https://dmc.tv/a29368

บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ
[ 13 ก.ย. 2566 ] - [ ผู้อ่าน : 18293 ]

ชาดก 500 ชาติ

เกฬิสีลชาดก-ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร
  
       ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันทรงปรารภพระลกุณฏกภัททิยะเถระ ตรัสพระธรรมเทศนาดังนี้
ลกุณฏกภัททิยเถระเป็นผู้มีชื่อเสียงในพระพุทธศาสนา มีเสียงเพราะเป็นผู้แสดงธรรมไพเราะ เป็นพระมหาขีนาบรรลุปฏิสัมภิทาแต่ด้วยความตัวเล็ก
 
พระลกุณฏกภัททิยเถระเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในพระพุทธศาสนาถึงการแสดงธรรมที่มีเสียงไพเราะยิ่ง
 
พระลกุณฏกภัททิยเถระเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในพระพุทธศาสนาถึงการแสดงธรรมที่มีเสียงไพเราะยิ่ง
 
        เตี้ยกว่าพระรูปอื่นในหมู่พระมหาเถระ 80 องค์ คล้ายสามเณรถูกล้อเลียนอยู่บ่อยครั้ง “ จะไปไหนหรือท่านสามเณร ” “ ข้าอุปสมบทแล้ว
เป็นภิกษุไม่ใช่สามเณร ” “ ใครจะไปรู้ล่ะก็ท่านตัวเล็กมะขามข้อเดียวแบบนี้พวกเราคิดว่าท่านเป็นเณรซะอีก ฮ่ะ ฮ่าๆๆๆ ”
 
พระลกุณฏกภัททิยเถระเป็นผู้ที่มีรูปร่างเล็กผู้ใดเห็นก็คิดว่าเป็นสามเณร
 
พระลกุณฏกภัททิยเถระเป็นผู้ที่มีรูปร่างเล็กผู้ใดเห็นก็คิดว่าเป็นสามเณร
 
        วันหนึ่งหลังจากพระลกุณฏกภัททิยะเถระเข้าเฝ้าพระศาสดาแล้ว ก็ยืนอยู่ที่ซุ้มประตู พระเชตวันวิหาร ภิกษุชาวชนบทประมาณสามสิบรูป
เดินทางมาเพื่อเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ เมื่อมาถึงพระเชตวันเห็นพระเถระที่ซุ้มวิหารจึงพากันจับพระเถระที่ชายจีวรบ้าง

ภิกษุชาวชนบทได้เดินทางเข้าเฝ้าพระศาสดายังพระเชตวันมหาวิหาร
 
ภิกษุชาวชนบทได้เดินทางเข้าเฝ้าพระศาสดายังพระเชตวันมหาวิหาร
 
      ที่มือบ้าง ที่ศีรษะ ที่จมูก ที่หูเขย่าด้วยสำคัญว่าท่านเป็นสามเณร ทำด้วยคะนองมือ “ เจ้าเณรน้อยมานี่สิ ” “ เร็วเข้ารีบมา นี่แน่ะ ไหน ๆ เจ้าเณรนี่
มันหน้าแก่จังเลย ” “ ไหน ๆ ถอดจีวรดูก็รู้ว่าแก่หรือเด็ก ” “ ปล่อยข้านะ อย่ามายุ่งกับข้า ”

พระชนบทได้แกล้งพระลกุณฏกภัททิยเถระเพราะคิดว่าเป็นสามเณรน้อย
 
พระชนบทได้แกล้งพระลกุณฏกภัททิยเถระเพราะคิดว่าเป็นสามเณรน้อย
 
        เมื่อแกล้งพระลกุณฏกภัททิยเถระจนหนำใจแล้ว ภิกษุเหล่านั้นก็พากันไปเข้าเฝ้าพระศาสดา เมื่อพระศาสดาทรงกระทำปฏิสันถาร
ด้วยพระดำรัสอันไพเราะแล้ว ภิกษุเหล่านั้นจึงทูลถามถึงลกุณฏกภัททิยะเถระ ผู้มีชื่อด้านแสดงธรรมไพเราะ
 
พระชนบทได้แกล้งจับศีรษะพระลกุณฏกภัททิยเถระเพราะคิดว่าเป็นสามเณรน้อย
 
พระชนบทได้แกล้งจับศีรษะพระลกุณฏกภัททิยเถระเพราะคิดว่าเป็นสามเณรน้อย
        
       “ ข้าแต่พระศาสดาได้ยินว่ามีพระเถระองค์หนึ่งชื่อพระลกุณฏกภัททิยะเถระ เป็นสาวกของพระองค์แสดงธรรมได้ไพเราะไม่ทราบว่าพระเถระ
รูปนั้นน่ะอยู่ที่ไหนพระเจ้าค่ะ ” “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายพวกเธอประสงค์จะเห็นหรือ ” “ พระเจ้าค่ะ พวกเราได้ยินชื่อเสียงของท่านมานาน

พระชนบทได้แกล้งจับหูพระลกุณฏกภัททิยเถระเพราะคิดว่าเป็นสามเณรน้อย
 
พระชนบทได้แกล้งจับหูพระลกุณฏกภัททิยเถระเพราะคิดว่าเป็นสามเณรน้อย
 
       จึงอยากพบสักครั้ง ” “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุที่พวกเธอเห็นที่ซุ้มประตูแล้วพวกเธอกลั่นแกล้งด้วยความคะนองภิกษุรูปนั้นแหละคือพระลกุณฏกภัททิยะ”
ภิกษุที่มาเข้าเฝ้าพระศาสดาเหล่านั้นเมื่อรู้ว่าสามเณรที่ตนเพิ่งรุมแกล้งนั้นคือ ลกุณฏกภัททิยะเถระ ก็ตกใจด้วยไม่คิดว่าพระเถระที่ได้ชื่อว่า

เหล่าภิกษุได้พากันเข้าเฝ้าองค์พระศาสดา ณ พระเชตวันมหาวิหาร
 
เหล่าภิกษุได้พากันเข้าเฝ้าองค์พระศาสดา ณ พระเชตวันมหาวิหาร
     
        แสดงธรรมไพเราะนั้น จะมีรูปร่างต่ำตื้นเช่นนั้น ภิกษุทั้งหลายจึงทูลถามพระศาสดาถึงสาเหตุที่ทำให้พระลกุณฏกภัททิยะเถระเป็นเช่นนั้น “ เณรที่เราเห็น
นั้นคือ ลกุณฏกภัททิยะเถระหรอกหรือนี่ ” “ ข้าแต่พระองค์ ลกุณฏกภัททิยะเถระที่ได้ชื่อว่าแสดงธรรมได้ไพเราะจึงมีรูปร่างเช่นนั้นเล่าพระเจ้าค่ะ ”
 
ภิกษุชาวชนบทแจ้งความประสงค์ต้องการที่จะพบพระลกุณฏกภัททิยเถระต่อองค์พระศาสดา
 
ภิกษุชาวชนบทแจ้งความประสงค์ต้องการที่จะพบพระลกุณฏกภัททิยเถระต่อองค์พระศาสดา
 
        “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายที่เป็นเช่นนั้นเพราะอาศัยกรรมที่ตนได้ทำไว้  ” เมื่อภิกษุเหล่านั้นทูลอาราธนาพระศาสดาจึงทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า
ในอดีตกาลครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้เป็นท้าวสักกะเทวราช

ภิกษุชาวชนบทต่างก็พากันตกใจที่พวกตนได้เผลอกลั่นแกล้งพระลกุณฏกภัททิยเถระ ณ ซุ้มประตูพระวิหาร
 
ภิกษุชาวชนบทต่างก็พากันตกใจที่พวกตนได้เผลอกลั่นแกล้งพระลกุณฏกภัททิยเถระ ณ ซุ้มประตูพระวิหาร
 
       ในกาลนั้นใคร ๆ ก็ไม่อาจให้พระเจ้าพรหมทัตได้ทรงเห็นช้าง ม้า หรือโคที่แก่ชรา ด้วยพระองค์ชอบเล่นสนุกหากได้ทรงทอดพระเนตร
เห็นสัตว์แก่ชราเหล่านั้นก็จะรับสั่งให้พวกมนุษย์ต้อนไล่แข่งกัน “ นั่นมันม้าแก่นี่ พวกเจ้าจงเอาม้าแก่ตัวนั้นมาวิ่งให้เราดูสิ ” “ พระเจ้าค่ะ ”

พระศาสดาทรงตรัสเล่า เกฬิสีลชาดก ให้แก่เหล่าภิกษุสงฆ์ได้รับฟัง
 
พระศาสดาทรงตรัสเล่า เกฬิสีลชาดก ให้แก่เหล่าภิกษุสงฆ์ได้รับฟัง
  
        “ ข้าแก่ขนาดนี้จะเอาแรงที่ไหนมาวิ่ง เจ้าพระราชานี่ช่างใจร้ายนัก ” “ เอ้า วิ่งเลย ๆ เร็ว ๆ เข้าสิ วิ่งให้ว่องเลย ” การกระทำของพระเจ้าพระเจ้าพรหมทัต
นั้นสร้างความทรมานแก่สัตว์เหล่านั้นเป็นอันมากและไม่เพียงแต่สัตว์แก่เท่านั้นแม้แต่เกวียนเก่าก็ทรงรับสั่งให้นำมาวิ่งแข่งกันจนพัง
 
พระเจ้าพรหมทัตทรงครองราชสมบัติ ณ กรุงพาราณสี
 
พระเจ้าพรหมทัตทรงครองราชสมบัติ ณ กรุงพาราณสี
 
        “ เกวียนเก่า ๆ พวกนี้น่าจะวิ่งได้ดีนะ พวกเจ้าเอามาวิ่งแข่งกันให้มันพังไปเลย ” แม้แต่สตรีแก่ก็รับสั่งให้เรียกมากระแทกที่ท้องให้ล้มลงแล้วจับ
ให้ลุกขี้นให้ขับร้องเพลง เห็นชายแก่ ๆ ก็ให้หกคเมนตีลังกาดุจนักเล่นกระโดด “ ฮ่า ฮ่า สนุกจริง ๆ เลย ให้คนแก่มาทำอะไรสนุก ๆ ให้ดู

พระเจ้าพรหมทัตทรงโปรดปรานการกลั่นแกล้งและทรมานสัตว์ที่แก่ไร้เรี่ยวแรง
 
พระเจ้าพรหมทัตทรงโปรดปรานการกลั่นแกล้งและทรมานสัตว์ที่แก่ไร้เรี่ยวแรง
  
       มีความสุขจริง ๆ เลย ” “ พระราชาองค์นี้ ช่างมีจิตวิปลาสนัก ” “ อือ ข้าจะตายอยู่แล้วทำไมต้องทรมานคนแก่แบบนี้ ” แม้ไม่พบเห็นคนแก่คนชรา
หากทรงได้สดับข่าวว่ามีคนแก่ที่บ้านไหนก็จะรับสั่งให้เรียกตัวมาบังคับให้เล่นเช่นกัน “ ได้ข่าวว่าในหมู่บ้านมีคนแก่มากมาย

พระเจ้าพรหมทัตมีความสุขใจที่ได้ทรมานม้าแก่ๆ ให้มันวิ่งด้วยโดยไร้เรี่ยวแรง
 
พระเจ้าพรหมทัตมีความสุขใจที่ได้ทรมานม้าแก่ๆ ให้มันวิ่งด้วยโดยไร้เรี่ยวแรง
 
        เจ้ารีบไปเอาตัวมาทำการแสดงให้ข้าดูเดี๋ยวนี้ ” พวกชาวเมืองต่างรู้สึกระอาใจกับพฤติกรรมของพระราชาด้วยไม่อยากให้บุพการีต้องลำบาก
จึงได้ส่งบิดามารดาของตนไปอยู่นอกแคว้นขาดการบบำรุงบิดามารดา “ ท่านพ่อท่านแม่ พวกเรามาส่งท่านได้เท่านี้แหละ ”

พระเจ้าพรหมทัตทรงรับสั่งให้นำเกวียนเก่าๆ มาวิ่งแข่งกัน
 
พระเจ้าพรหมทัตทรงรับสั่งให้นำเกวียนเก่าๆ มาวิ่งแข่งกัน
 
       “ ต่อไปพวกท่านต้องดูแลตัวเองแล้วนะ ” “ พวกเจ้าก็เหมือนกันแล้วแวะมาเยี่ยมพ่อบ้างนะ ” “ กรรมจริง ๆ เพราะพระราชาแท้ ๆ ทำให้พวกเรา
ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ” การเล่นสนุกของพระเจ้าพรหมทัตนั้นหาได้มีใครห้ามปรามไม่ พวกราชบริพารไม่เพียงไม่ห้ามปรามกลับพอใจในการเล่นนี้ด้วย
 
เกวียนเก่าพังยับหลังจากที่ทหารนำมันมาวิ่งแข่งกัน
 
เกวียนเก่าพังยับหลังจากที่ทหารนำมันมาวิ่งแข่งกัน
 
        เมื่อตายไปก็ไปบังเกิดในอบาย 4 ด้วยผลกรรม เทพบริษัททั้งหลายก็ลดลง ท้าวสักกะผู้เป็นจอมแห่งเหล่าเทพไม่ทรงเห็นเทพบุตรเกิดใหม่
ก็ทรงตรวจดูจนรู้สาเหตุแล้วดำริว่าจะต้องสั่งสอนพระเจ้าพรหมทัตให้สมแก่ความผิด “ ฮะ ฮ่า ฮ่า สนุกจริง ๆ เลย

พระเจ้าพรหมทัตทรงบังคับให้หญิงชราร่ายร่ำให้ตนดู
 
พระเจ้าพรหมทัตทรงบังคับให้หญิงชราร่ายร่ำให้ตนดู
 
       คนแก่ที่ว่าไม่มีประโยชน์คงไม่ใช่แล้วเพราะว่าสร้างความบันเทิงให้กับพระราชาอย่างเราได้ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า พวกเจ้าว่าจริงไหม ” “ จริง พระเจ้าค่ะ
คนแก่ทำงานไม่ได้ วัน ๆ เอาแต่กินกับนอนได้ทำประโยชน์บ้างก็ดี ” “ เหตุนี้เองรึ ที่ทำให้ไม่มีเทพบุตรเกิดใหม่
 
พระเจ้าพรหมทัตได้บังคับให้ชายชราหกคเมนตีลังให้ตนดู
 
พระเจ้าพรหมทัตได้บังคับให้ชายชราหกคเมนตีลังให้ตนดู
 
       เห็นทีเราต้องสั่งสอนพระเจ้าพรหมทัตให้สำนึกเสียบ้าง ” ท้าวสักกะทรงแปลงเพศเป็นคนแก่บรรทุกตุ่มน้ำมัน 2 ใบ ใส่ไปในเกวียนเก่า ๆ
เทียมโคแก่สองตัวในวันมหรสพวันหนึ่ง เมื่อพระเจ้าพรหมทัตทรงช้างเสด็จผ่านท้าวสักกะก็ขับเกวียนนั่นไปที่

ชาวเมืองที่แก่ชราต่างพากันได้รับความ<a href=http://www.dmc.tv/search/ทุกข์ title='ทุกข์' target=_blank><font color=#333333>ทุกข์</font></a>ทรมานจากการถูกกลั่นแกล้งจากพระราชา
 
ชาวเมืองที่แก่ชราต่างพากันได้รับความทุกข์ทรมานจากการถูกกลั่นแกล้งจากพระราชา

        หน้าพระพักตร์พระเจ้าพรหมทัตทอดพระเนตรเห็นก็ตรัสให้ทหารนำเกวียนนั้นมา “ พวกเจ้าจงไปเอาเกวียนและโคแก่นั่นมาที่นี่ ” “ เกวียนไหนกัน
พระเจ้าค่ะ พวกข้าพระองค์ไม่เห็นเลย ” “ พวกเจ้าตาบอดกันหรือไง นั่นไงเอาตัวเจ้าคนแก่ที่ขี่เกวียนนั่นมาด้วย

พระเจ้าพรหมทัตมีรับสั่งให้ทหารไปจับคนชราตามบ้านเรือนต่าง ๆ
 
พระเจ้าพรหมทัตมีรับสั่งให้ทหารไปจับคนชราตามบ้านเรือนต่าง ๆ

      นั่นไง ๆ มาทางนี้แล้ว พวกเจ้ามองไม่เห็นกันหรือไง เฮ้ย นั่นเกวียนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วพวกเจ้าไม่เห็นกันหรือไง ” ด้วยอิทธิฤทธิ์
ของท้าวสักกะจึงมีพระเจ้าพรหมทัตเท่านั้นที่ทอดพระเนตรเห็นเกวียน ทรงขับเกวียนลอยขึ้นเหนือพระเศียรของพระเจ้าพรหมทัต

บรรดาชาวเมืองต่างพากันส่งพ่อแม่ผู้แก่ชราไปอยู่นอกเมืองซึ่งห่างไกลจากพระราชาผู้ใจร้าย

บรรดาชาวเมืองต่างพากันส่งพ่อแม่ผู้แก่ชราไปอยู่นอกเมืองซึ่งห่างไกลจากพระราชาผู้ใจร้าย
 
      แล้วทุบตุ่มน้ำมันให้แตกไหลลงมาราดรดเปราะเปื้อนทั่วพระวรกายสร้างความอับอายแก่พระราชาซ้ำยังขยะแขยงน้ำมันที่เหนียวเหนาะหนะยิ่งนัก
“ คนใจสกปรกเยี่ยงเจ้าต้องโดนแบบนี้ นี่แน่ะ ๆ ” “ โอ้ย สกปรกจริง ๆ ทั้งเหนียวทั้งสกปรกเปื้อนไปทั้งตัวข้าแล้วเนี่ย ”
 
ท้าวสักกเทวราชทรงคิดที่จะสั่งสอนพระเจ้าพรหมทัตให้สำนึกในบาปกรรมที่ได้กระทำไป
 
ท้าวสักกเทวราชทรงคิดที่จะสั่งสอนพระเจ้าพรหมทัตให้สำนึกในบาปกรรมที่ได้กระทำไป
 
     จากนั้นท้าวสักกะก็ขับเกวียนหายไปในอากาศแล้วเนรมิตพระองค์เป็นท้าวสักกะดังเดิมประทับยืนอยู่บนอากาศแล้วตรัสสั่งสอนพระเจ้าพรหมทัต
“ ดูก่อนพระราชาผู้ชั่วช้า ท่านเบียดเบียนสัตว์แก่และคนชราอยู่เสมอ
 

ท้าวสักกเทวราชทรงแปลงกายเป็นชายชราขับเกวียนผ่านหน้าพระพักตร์ของพระเจ้าพรหมทัต
 
ท้าวสักกเทวราชทรงแปลงกายเป็นชายชราขับเกวียนผ่านหน้าพระพักตร์ของพระเจ้าพรหมทัต
 
    ชะรอยท่านจะไม่แก่บ้างเชียวหรือ ความชราจะไม่มาถึงกายของท่านหรือไร ท่านมัวแต่เห็นแก่เรื่องสนุกทำร้ายคนแก่มากมาย ทำให้ลูกหลาน
ไม่อาจเลี้ยงดูบิดามารดาของตนได้ ฉะนั้นหากท่านไม่งดการกระทำอย่างนี้
 
พระเจ้าพรหมทัตทรงรับสั่งให้ทหารไปจับชายชรามาให้ตน
 
พระเจ้าพรหมทัตทรงรับสั่งให้ทหารไปจับชายชรามาให้ตน
 
     เราจอมเทพผู้เป็นใหญ่จะทำลายท่านเสียด้วยวชิราวุธ นับตั้งแต่นี้ไปท่านจงอย่าทำกรรมชั่วนี้อีกเลย ” “ หม่อมฉันกลัวแล้ว ได้โปรดอย่าทำอะไร
หม่อมฉันเลย ” ว่าแล้วท้าวสักกะก็ทรงชูวชิราวุธในพระหัตถ์ขึ้น
  
 
ทหารมองไม่เห็นชายชราที่พระเจ้าพรหมทัตทรงรับสั่งให้ตนนั้นไปจับตัวมาถวาย
 
ทหารมองไม่เห็นชายชราที่พระเจ้าพรหมทัตทรงรับสั่งให้ตนนั้นไปจับตัวมาถวาย
 
     เพื่อให้พระเจ้าพรหมทัตกลัว แล้วทรงตรัสสอนถึงคุณของบิดามารดา ทรงบอกผลบุญผลประโยชน์ของการอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้สูงอายุ 
 
ชายชราได้ขับเกวียนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
 
ชายชราได้ขับเกวียนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
 
       แล้วจึงเสด็จกลับไปยังวิมานของพระองค์ “ ข้าขอสาบานต่อไปข้าจะรู้จักเคารพคนแก่ไม่จับสัตว์และคนแก่มาเล่นสนุกอีกแล้ว ”
 
ชายชราได้ทำการตีหม้อน้ำมันในเกวียนให้แตกกระจาย
 
ชายชราได้ทำการตีหม้อน้ำมันในเกวียนให้แตกกระจาย
 
     นับแต่วันนั้นมาพระเจ้าพรหมทัตก็มิได้แม้แต่คิดจะเบียดเบียนสัตว์แก่และคนชราเอามาเล่นสนุกอีกเลย พระศาสดาตรัสชาดกจบแล้วจึงตรัสเตือน
 
น้ำมันในหม้อที่แตกไหลรดลงบนร่างกายของพระเจ้าพรหมทัต
 
น้ำมันในหม้อที่แตกไหลรดลงบนร่างกายของพระเจ้าพรหมทัต
 
    เหล่าสาวก “ หงส์ก็ดี นกกระเรียนก็ดี ช้างก็ดี ฟานก็ดี ย่อมกลัวราชสีทั้งนั้นจะถือเอาร่างกายเป็นประมาณมิได้ฉันใด ในหมู่มนุษย์ก็ฉันนั้น
 
ชายชราได้แปลงกายกลับเป็นท้าวสักกเทวราชดังเดิม
 
ชายชราได้แปลงกายกลับเป็นท้าวสักกเทวราชดังเดิม
 
    ถ้าแม้เด็กมีปัญญาก็เป็นผู้ใหญ่ได้ คนโง่ถึงร่างกายจะใหญ่โตก็เป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ ”พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้แล้ว ทรงประกาศสัจธรรม
 
ท้าวสักกเทวราชได้ใช้วชิราวุธข่มขู่หมายจะลงโทษพระเจ้าพรหมทัต
 
ท้าวสักกเทวราชได้ใช้วชิราวุธข่มขู่หมายจะลงโทษพระเจ้าพรหมทัต
 
    ทรงประชุมชาดก เมื่อจบสัจจะธรรมในบรรดาภิกษุเหล่านั้นบางพวกได้เป็นพระโสดาบัน บางพวกได้เป็นพระสกทาคามี บางพวกได้เป็นพระอนาคามี
มีบางพวกได้เป็นพระอรหันต์
 
พระเจ้าพรหมทัตได้ทรงเลิกกลั่นแกล้งคนชราและเหล่าสัตว์ทั้งหลาย
 
พระเจ้าพรหมทัตได้ทรงเลิกกลั่นแกล้งคนชราและเหล่าสัตว์ทั้งหลาย
 
หลังจบสัจจะธรรมเหล่าภิกษุบางกลุ่มได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
 
หลังจบสัจจะธรรมเหล่าภิกษุบางกลุ่มได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
    
 
พระราชาในครั้งนั้นได้เป็น ลกุณฏกภัททิยะ
ส่วนท้าวสักกะ คือ เราตถาคต นี้แล
 

รับชมคลิปวิดีโอ
ชมวิดีโอ   Download ธรรมะ
 
 










พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง
      ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
      ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
      ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
      มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
      ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
      สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
      สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
      อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
      สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
      สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
      อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ