สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้

ลูกสุนัขน้อยตัวหนึ่งถูกนำมาเลี้ยงโดยผู้ดูแลหอฉันในพระอาราม ด้วยความน่ารักและเฉลียวฉลาดลูกสุนัขจึงเป็นที่รักและเอ็นดูของภิกษุทั้งหลาย พ่อค้าคนหนึ่งนำภัตตาหารมาถวายพระ เมื่อเห็นลูกสุนัขก็เกิดความเอ็นดู เลยขอซื้อลูกสุนัขเพื่อไปกำนัลผู้ใหญ่ ในระหว่างการเดินทางลูกสุนัขได้กัดเชือกที่ผูกล่ามตน แล้วเดินทางกลับมาหาเจ้าของผู้เลี้ยงคนเดิมยังโรงฉันในพระอาราม https://dmc.tv/a28832

บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ
[ 11 มี.ค. 2566 ] - [ ผู้อ่าน : 18287 ]

ชาดก 500 ชาติ

สุนัขชาดก-ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้

ณ หอฉันสถานที่กระทำภัตกิจของเหล่าภิกษุสงฆ์

ณ หอฉันสถานที่กระทำภัตกิจของเหล่าภิกษุสงฆ์
  
       นับแต่ยุคพุทธกาลผ่านมาการถวายทานแด่ภิกษุสงฆ์อันถือเป็นนิตยทานนั้นคือภัตตาหาร การฉันภัตตาหารในอาศรมใด ๆ จึงมักใช้หอฉัน
เป็นสถานกระทำภัตกิจของพระสงฆ์สืบมา พุทธสมัยครั้งหนึ่งพระพุทธศาสดาประทับยังพระเชตวันมหาวิหารพระนครสาวัตถี
 
ลูกสุนัขน้อยน่ารักไม่ได้ก่อเหตุรบกวนใด ๆ ต่อเหล่าภิกษุสงฆ์
 
ลูกสุนัขน้อยน่ารักไม่ได้ก่อเหตุรบกวนใด ๆ ต่อเหล่าภิกษุสงฆ์
 
        ทรงสดับเรื่องราวน่ารักน่าเอ็นดูของสุนัขในหอฉันของพระอาราม ครั้งนั้นคนดูแลโรงฉันของภิกษุได้นำลูกสุนัขมาเลี้ยงดูไว้ภายในหอฉัน
แต่ก็ไม่ได้ทำความรำคาญรบกวนภัตกิจของพระสงฆ์แต่อย่างใด “ เจ้าหมาน้อยอยู่ตรงอย่าซนล่ะ เดี๋ยวข้าตักน้ำไปประเคนก่อนแล้ว

ลูกสุนัขน้อยถูกเลี้ยงไว้โดยผู้ดูแลโรงฉัน
 
ลูกสุนัขน้อยถูกเลี้ยงไว้โดยผู้ดูแลโรงฉัน
 
        จะเอาอาหารมาให้เจ้ากินนะ ” “ ลาภปากอีกแล้วเรา ” นายภารโรงมีหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งคือตักน้ำมากรองใส่ภาชนะคอยประเคนถวายในเวลา
ฉันภัตตาหาร นอกเหนือจากหน้าที่อื่นเรียกได้ว่าทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพราะทำงานและอาศัยนอนอยู่ในโรงฉันนั้นแห่งนั้น

ผู้ดูแลโรงฉันคอยดูแลถวายน้ำฉันน้ำใช้แด่ภิกษุสงฆ์
 
ผู้ดูแลโรงฉันคอยดูแลถวายน้ำฉันน้ำใช้แด่ภิกษุสงฆ์
 
      ในแต่ละวันเขาจะได้รับรางวัลเป็นอาหารอย่างดีที่พระภิกษุฉันเหลือไว้ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแต่ละวันก็จะอาหารมากินร่วมกันกับลูกสุนัขตัวนี้
“ เอ้า เจ้าหมาน้อยอาหารมาแล้ว วันนี้อาหารดี ๆ ทั้งนั้นเลยกินซะ ” “ อร่อย อยู่กับเจ้านายไม่มีวันอดตายแน่เรา”

ผู้ดูแลโรงฉันมักจะได้รับอาหารที่ดีเลิศจากภิกษุสงฆ์เสมอ
 
ผู้ดูแลโรงฉันมักจะได้รับอาหารที่ดีเลิศจากภิกษุสงฆ์เสมอ
 
        นานวันเข้าลูกสุนัขก็เริ่มเติบโตอ้วนพีเป็นที่เพลิดเพลินของผู้ดูแลหอฉัน ทั้งยังเป็นที่เอ็นดูของภิกษุอีกหลายรูป “ หมาตัวนี้โตเร็วจริง ๆ หน่วยก้าน
ก็ไม่เลวเลยนะเนี่ย ” “ นั่นสินะ แถมมันยังเชื่องดีอีกต่างหาก ” เพราะความแสนรู้และสงบเสงี่ยมสมกับเป็นสุนัขในวัด
 
ลูกสุนัขมีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ในทุกมื้อ
 
ลูกสุนัขมีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ในทุกมื้อ
        
       อยู่มาอีกไม่นานก็มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นให้เป็นที่วิพากษ์ขึ้น วันหนึ่งได้มีพ่อค้านำภัตตาหารมาถวายพระที่หอฉัน สังเกตเห็นลูกสุนัขแสนรู้ก็ชอบใจ
จึงเกลี้ยกล่อมขอซื้อสุนัขตัวนั้นจากคนดูแลโรงฉัน “ ลูกสุนัขของท่านตั้วนี้ดูเชื่องดีแท้ เราจะขอแลกกับเงินนี่เอาไปกำนัลผู้ใหญ่เพื่อผูกไมตรีไว้ทำการค้า ”

พ่อค้าเกิดความสนใจและรักใคร่ในตัวลูกสุนัขเป็นอย่างมาก
 
พ่อค้าเกิดความสนใจและรักใคร่ในตัวลูกสุนัขเป็นอย่างมาก
 
       “ ลูกสุนัขตัวนี้ไม่ได้มีไว้ขาย ข้าคงขายให้ท่านไม่ได้หรอก ” “ ท่านคิดดูให้ดีก่อน ลูกสุนัขนี้อาจช่วยให้คนตกงานอีกหลายคนมีงานทำ เราจะดูแล
มันเป็นอย่างดี ท่านสบายใจได้ ” “ เอ้ ข้าควรตัดสินใจอย่างไรดีละนี่ เฮ้อ..หนักใจจริง ๆ ” ในที่สุดคนดูแลโรงฉันก็ตัดสินใจขายลูกสุนัขตัวนั้นให้แก่พ่อค้า
 
พ่อค้าได้ขอซื้อลูกสุนัขตัวน้อยจากผู้ดูแลโรงฉัน
 
พ่อค้าได้ขอซื้อลูกสุนัขตัวน้อยจากผู้ดูแลโรงฉัน
     
        “ ดีมาก ท่านตัดสินใจไม่ผิดหรอก อย่ากังวลเลย เราจะเลี้ยงดูลูกสุนัขตัวนี้เป็นอย่างดี ” “ อืม งั้นข้าฝากท่านดูแลด้วยแล้วกันนะ ” พ่อค้าผูกล่าม
ลูกสุนัขแล้วจูงออกไปจากหอฉันโดยลูกสุนัขนั้นก็ยอมเดินตามไปจนพ้นเขตพระวิหารเชตะวันแต่โดยดี “ ข้าคงต้องต้องลาเจ้าแล้วล่ะ
 
ผู้ดูแลโรงฉันตัดสินใจขายลูกสุนัขให้กับพ่อค้า
 
ผู้ดูแลโรงฉันตัดสินใจขายลูกสุนัขให้กับพ่อค้า
 
        เจ้าอย่าดื้อกับนายใหม่ของเจ้าน่ะ ” “ ข้าจะต้องกลับมาหาเจ้านายให้ได้เลย ” ลูกสุนัขยอมเดินตามพ่อค้าโดยไม่ได้ขัดขืนไปตลอดทาง
ด้วยความเชื่องของมันทำให้พ่อค้าไม่ได้ล่ามหรือกักขังมันไว้ “ เออ..ว่าง่ายดีจังเห็นทีคงไม่ต้องกักขังกันแล้วล่ะเจ้า ฮะฮ่า ฮ่า ฮ่า เอาละ ๆ
 
ลูกสุนัขยอมติดตามพ่อค้าไปอย่างง่ายดาย
 
ลูกสุนัขยอมติดตามพ่อค้าไปอย่างง่ายดาย
 
       นี่อาหารของเจ้ากินเสร็จก็พักผ่อนซะ ข้าจะหลับเอาแรงสักงีบ ” ในเช้าของวันต่อมาพระเณรออกบิณฑบาตก็พบเห็นลูกสุนัขตัวนี้วิ่งตะบึงเข้ามา
ในพระอารามอย่างดีอกดีใจ “ นี่เจ้ากลับมาได้ยังไงนี่ รู้หรือเปล่าว่าข้าคิดถึงเจ้ามากเจ้าหมาน้อย กลับมาได้น่ารักจริง ๆ เลย ” การกลับมาของลูกสุนัข

พ่อค้าชอบใจในความเชื่องและน่ารักของลูกสุนัขเป็นอย่างมาก
 
พ่อค้าชอบใจในความเชื่องและน่ารักของลูกสุนัขเป็นอย่างมาก
  
        สร้างความดีใจให้แก่คนดูแลหอฉันเป็นยิ่งนัก และมันก็ยังทำให้คนอื่น ๆ พลอยดีใจไปด้วย “ ฉลาด เจ้าปัญญาจริงๆ นะแก อุตส่าห์กัดเชือกจนขาดหนีมาได้ ”
“ นั้นสิ ไม่มีเจ้าแล้วหอฉันดูเงียบเหงาชอบกล ” เรื่องลูกสุนัขในหอฉันกัดเชือกจนขาดหนีกลับมาหาเจ้าของกลายเป็นข้อสนทนาของภิกษุในวันนั้น พระบรมศาสดา
       
พ่อค้าได้ให้อาหารลูกสุนัขน้อยในระหว่างทาง
 
พ่อค้าได้ให้อาหารลูกสุนัขน้อยในระหว่างทาง
  
       ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ให้ปฏิบัติธรรมสั่งสมความดีไม่ทำความชั่วและอบรมจิตใจตนให้สดใส การน้อมรับพระพุทธธรรม อันเป็นเครื่องผูกมัด
สัตว์ไว้ในโลกมนุษย์ให้ขาดดุจสุนัขกัดเชือกหนังในอดีตกาลครั้งหนึ่ง พระภิกษุทั้งหลายกราบทูลอาราธนาให้ทรงเล่าอดีตชาติ


ลูกสุนัขน้อยได้กัดเชือกที่ผูกล่ามตนเองแล้วหนีพ่อค้ากลับมาหาคนดูแลโรงฉัน
 
ลูกสุนัขน้อยได้กัดเชือกที่ผูกล่ามตนเองแล้วหนีพ่อค้ากลับมาหาคนดูแลโรงฉัน
 
        ครั้งนั้น สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสเล่า สุนัขชาดกขึ้น อดีตกาลนานมาแล้วยังมีนายช่างถังไม้ผู้หนึ่ง อาศัยฝีมือการทำถังไม้ออกขายยังชีพ
อยู่ในนิคมชนบทชานเมืองพาราณสี นายช่างถังไม้ผู้นี้เลี้ยงลูกสุนัขสีน้ำตาลทองไว้ตัวหนึ่งตั้งแต่แรกเกิด “ รอก่อนนะ เดี๋ยวพอข้าทำถังใบนี้เสร็จ

เหล่าภิกษุสงฆ์ต่างถูกอกถูกใจในความฉลาดที่ลูกสุนัขสามารถหนีกลับมายังโรงฉันได้
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ต่างถูกอกถูกใจในความฉลาดที่ลูกสุนัขสามารถหนีกลับมายังโรงฉันได้
 
       แล้วข้าจะเอาอาหารมาให้ ” เมื่อใดได้ถังไม้จำนวนมากพอนายช่างถังไม้ก็จะนำไปวางขายในที่ชุมชนซึ่งทุกครั้งลูกสุนัขตัวนี้ก็จะติดตามไปด้วย
และทำหน้าที่เรียกผู้คนให้มามุงดูกันได้ครั้งละมาก ๆ  “ อ้าว ๆ เร่เข้ามา ๆ มาเลือกซื้อถังไม้กันก่อน มีทั้งถังน้ำ ถังซักผ้า ถังใส่ของมาเลือกซื้อกันก่อนจ้า ”
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ได้เล่าเรื่องราวของลูกสุนัขตัวน้อยแด่องค์พระศาสดา
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ได้เล่าเรื่องราวของลูกสุนัขตัวน้อยแด่องค์พระศาสดา
 
        “ เอ้ พวกเขามุงดูอะไรกันนะ ต้องไปดูซะหน่อยเรื่องชาวบ้านนี่ ข้าชอบนัก ” “ โอ้โห้ ดูเจ้าหมาตัวนั้นสิมันเดินสองขาได้ด้วย ท่าทางมันฉลาดน่าดูเลย
นะเนี่ย ถ้าเป็นหมาของข้าละก็ข้ารักตายเลยล่ะ ” เมื่อฝูงชนมามุงดูการแสดงของลูกสุนัขมากเข้า นายช่างทำถังไม้ก็ร้องขายสินค้า
 
องค์พระศาสดาทรงตรัสเล่าสุนักขชาดกแด่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
องค์พระศาสดาทรงตรัสเล่าสุนักขชาดกแด่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
       ได้มากขึ้น ทุกครั้งที่มีการขายถังไม้ นายช่างและลูกสุนัขก็ช่วยกันเช่นนี้ทำให้มีเงินเลี้ยงชีพสืบมา “ อ้าว ดูการแสดงแล้วก็ช่วยอุดหนุนถังของข้าด้วยนะ ”
“ งั้น ข้าอุดหนุนถังน้ำท่าน 2 ใบแล้วกันนะ ” “ ข้าก็เอาด้วย ส่วนนี่ข้าให้เป็นค่าอาหารเจ้าหมานี่นะ ” ยิ่งการแสดงของลูกสุนัขได้รับความสนใจจาก
 
ช่างทำถังไม้เลี้ยงลูกสุนัขตัวน้อยไว้ที่บ้านของตน
 
ช่างทำถังไม้เลี้ยงลูกสุนัขตัวน้อยไว้ที่บ้านของตน
 
       ชาวบ้านมาก ช่างทำถังไม้ก็ขายถังไม้ได้มากขึ้นตามไปด้วย จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีชายจากต่างเมืองเดินทางผ่านมาเห็นการแสดงของลูกสุนัขเข้า
ชายผู้นี้รู้สึกพอใจลูกสุนัขตัวนี้เป็นอย่างมาก “ เอ่ นั้นชาวบ้านเขามุงดูอะไรกันน่ะ ” “ อ้าว ๆ เร่เข้ามาเลือกซื้อถังไม้กันจ้า ” “ อืม ลูกหมาตัวนี้
 
ช่างทำถังไม้ได้นำถังหลากหลายรูปแบบมาขายที่ตลาด
 
ช่างทำถังไม้ได้นำถังหลากหลายรูปแบบมาขายที่ตลาด

        ช่างน่าสนใจยิ่งนัก ถ้าเอาไปแสดงละครสัตว์น่าจะหาเงินได้ไม่น้อยเลยนะเนี่ย ” ในเย็นวันนั้นชายต่างเมืองผู้นี้ก็ได้เดินตามนายช่างทำถังไม้
กับลูกสุนัขไปจนถึงที่พัก “ สหายเอ๋ย หมาน้อยตัวนี้เป็นของท่านรึ ช่างเป็นหมาที่แสนรู้ยิ่งนัก ” “ ท่านคงเป็นนายวาณิชย์ มีอะไรให้ข้าช่วยหรือ ”

ผู้คนต่างมามุงดูความน่ารักของลูกสุนัขที่ร้านขายถังไม้
 
ผู้คนต่างมามุงดูความน่ารักของลูกสุนัขที่ร้านขายถังไม้

       “ ข้ารู้สึกพอใจหมาน้อยตัวนี้ของท่านยิ่งนักจึงได้ตามท่านมาถึงที่นี่ ” “ หมาตัวนี้ ข้าเลี้ยงดูมันมาตั้งแต่เล็กกินอยู่กับข้าเหมือนเป็นลูกของข้าเลยทีเดียว ”
“ ท่านทำถังไม้ขายจะได้เงินสักเท่าไหร่กัน ถ้าท่านมอบหมาน้อยตัวนี้ให้ข้า ข้าจะให้เงินถุงนี้แก่ท่าน ” นายวาณิชย์พูดคุยกับช่างทำถังไม้อยู่นาน

พ่อค้าวาณิชย์ได้ติดตามนายช่างไม้มาจนถึงบ้าน

พ่อค้าวาณิชย์ได้ติดตามนายช่างไม้มาจนถึงบ้าน
 
      จนในที่สุดด้วยความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินช่างทำถังไม้จึงตกลงขายลูกสุนัขให้ “ ตัวแลตัวเองให้ดีนะลูก ใช้ปัญญาแก้ปัญหาแล้วอย่าดื้อรั้นกับเจ้านาย ”
“ ลาก่อนนะเจ้านาย ข้าจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดีเพื่อกลับมาหาท่านให้ได้ ” ลูกสุนัขแสนรู้ยอมให้นายวาณิชย์ผูกคอ
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้ขอซื้อลูกสุนัขจากนายช่างไม้
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้ขอซื้อลูกสุนัขจากนายช่างไม้
 
       ด้วยเชือกจูงไปตามใจชอบโดยไม่ขัดขืน ไม่มีใครรู้ความคิดหรืออ่านสายตามันออกในเวลานั้น นายวาณิชย์จูงลูกสุนัขเดินทางไปจนเหนื่อยก็หยุดพัก
ลูกสุนัขนั้นก็มิได้มีกิริยาหวาดกลัวหรือคิดหลบนี้เลยแม้แต่น้อย “ เป็นเด็กดีจริง ๆ ดูสิ ไม่ดื้อไม่หนีเลย เอ้า เอารางวัลของเจ้าไป ” บางเวลา
 
ลูกสุนัขตัวน้อยยอมติดตามพ่อค้าวาณิชย์ไปโดยดี
 
ลูกสุนัขตัวน้อยยอมติดตามพ่อค้าวาณิชย์ไปโดยดี
 
      แม้นายวาณิชย์จะแกล้งลองถอดบ่วงคล้องคอออกลูกสุนัขแสนรู้ก็ไม่มีทีท่าจะหนีไปไหน “ ฮ่า ฮ่า เจ้านี่ฉลาดไม่เบา ดีล่ะ ข้าจะปั้นให้เจ้าเป็นดารา
ประจำคณะละครสัตว์ของข้าเลย ” เมื่อถึงเวลาหลับนอนนายวาณิชย์ก็ผูกคอล่ามลูกสุนัขไว้ด้วยเชือกหนังดังเดิม
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้มอบอาหารให้ลูกสุนัขในระหว่างการเดินทาง
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้มอบอาหารให้ลูกสุนัขในระหว่างการเดินทาง
 
       เจ้าลูกสุนัขแสนรู้ก็นอนซุกนิ่งอยู่ข้างกายจนนายวาณิชย์หลับไป “ อ้าว นอนหลับแล้วเหรอ เออ ข้าเองก็ง่วงเหมือนกัน แล้วพรุ่งนี้เราเคยเดินทางต่อ
เจ้าหมาน้อย ” เมื่อสบโอกาสเจ้าลูกสุนัขก็ลงมือกัดแทะเชือกหนังที่ล่ามคอของมันอย่างรวดเร็วไม่นานพันธนาการ 
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้ถอดบ่วงให้ลูกสุนัขในช่วงพักการเดินทาง
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้ถอดบ่วงให้ลูกสุนัขในช่วงพักการเดินทาง
 
      ที่ถูกล่ามอยู่ก็ขาดลงอย่างรวดเร็ว “ หลุดซะที กัดซะเมื่อยเขี้ยวเลยเรา ” แล้วคืนนั้นทั้งคืนเจ้าสุนัขน้อยผู้แสวงหาอิสระภาพในการตัดขาดเครื่อง
ยึดตัวมันออกได้ก็วิ่งกลับไปหาเจ้านายคนเดิมโดยไม่หันหลัง
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้นอนพักระหว่างการเดินทาง
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้นอนพักระหว่างการเดินทาง
 
ลูกสุนัขได้กัดเชือกหนังที่ผูกล่ามตัวของมันเพื่อให้หลุดออกจากพันธนาการ
 
ลูกสุนัขได้กัดเชือกหนังที่ผูกล่ามตัวของมันเพื่อให้หลุดออกจากพันธนาการ
 
ลูกสุนัขได้วิ่งกลับไปหาช่างทำถังไม้หลังหลุดจากพันธนาการ
 
ลูกสุนัขได้วิ่งกลับไปหาช่างทำถังไม้หลังหลุดจากพันธนาการ
 
 
ในพุทธกาลครั้งนั้น
นายช่างทำถังไม้ กำเนิดเป็น คนดูแลหอฉัน
ลูกสุนัขของช่างทำช่างไม้ กำเนิดเป็น ลูกสุนัขในหอฉัน

 
 










พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง
      เกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
      ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
      ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
      ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
      มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
      ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
      สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
      อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
      สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
      สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
      อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ