กัจจานิโคตตชาดก ชาดกว่าด้วยในการไหน ๆ ธรรมย่อมไม่ตาย

" ธรรมะคงตายไปจากโลกนี้แล้ว ไม่อย่างนั้นคนจิตใจชั่วอย่างสะใภ้ของเราคงไม่มีลูก และคงไม่มีความสุขเช่นนี้ ” วันหนึ่งหญิงชราได้นำข้าวของได้แก่ งา แป้ง ข้าวสาร ทัพพี ถาด และศีรษะมนุษย์ที่ตายแล้ว ๓ ศีรษะมาทำเตาไฟ เพื่อทำพิธีถวายมตกภัตแก่ธรรมในป่าช้า ด้วยเข้าใจว่าธรรมได้ตายไปแล้ว นางเริ่มก่อไฟแล้วลงน้ำสระผม บ้วนปาก สยายผม จากนั้นจึงเริ่มซาวข้าวเพื่อถวายมตกภัตแก่ธรรม https://dmc.tv/a26345

บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ
[ 15 ส.ค. 2563 ] - [ ผู้อ่าน : 18269 ]

ชาดก 500 ชาติ

กัจจานิโคตตชาดก-ชาดกว่าด้วยในการไหนๆ ธรรมย่อมไม่ตาย

อุบาสกและมารดาในตระกูลผู้ดีแห่งเมืองสาวัตถี

อุบาสกและมารดาในตระกูลผู้ดีแห่งเมืองสาวัตถี
  
       ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันทรงปรารภถึงอุบาสกผู้เลี้ยงมารดาคนหนึ่ง อุบาสกผู้เลี้ยงมาดารผู้นี้
เป็นบุตรในตระกูลผู้ดีแห่งเมืองสาวัตถี เป็นคนที่มีมารยาทงาม ครองตนอยู่ในศีลในธรรม
 
อุบาสกหนุ่มได้ดูแลมารดาของตนเป็นอย่างดี
 
อุบาสกหนุ่มได้ดูแลมารดาของตนเป็นอย่างดี
 
       ครั้นในเวลาต่อมาเมื่อบิดาถึงแก่กรรม อุบาสกผู้นี้ก็ดูแลมารดาของตนเหมือนเทวดาในบ้าน ทุกวันเขาจะจัดน้ำล้างหน้า บ้วนปาก ไม้สีฟัน น้ำอาบ
น้ำล้างเท้า รวมทั้งจัดหาอาหารเป็นข้าวยาคูลอย่างดีให้แก่มารดา “ ท่านแม่ข้าได้เตรียมน้ำและข้าวยาคูลให้ท่านแล้วนะครับ ”
 
มารดาของอุบาสกหนุ่มได้หาหญิงสาวที่ฐานะเสมอกันมาให้ลูกชายของตน
 
มารดาของอุบาสกหนุ่มได้หาหญิงสาวที่ฐานะเสมอกันมาให้ลูกชายของตน
 
       “ จ๊ะ ขอบใจเจ้ามาก ” ผู้เป็นมารดาเห็นว่าบุตรของตนถึงวัยที่ต้องแต่งงานแล้ว สมควรที่จะหาใครสักคนมาช่วยดูแลจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของเขาบ้าง
“ ลูกแม่ เจ้าต้องทำงานแล้วก็ดูแลแม่อย่างนี้คงจะเหนื่อยมากเลยนะ แม่ว่าเจ้าหาผู้หญิงสักคนมาเป็นคู่ชีวิตดีกว่า นางจะได้แบ่งเบาภาระของเจ้าด้วย ”

สะใภ้สาวได้ดูแลมารดาของสามีเป็นอย่างดี
 
สะใภ้สาวได้ดูแลมารดาของสามีเป็นอย่างดี
 
      “ ข้าไม่เหนื่อยหรอกท่านแม่ ข้าดูแลท่านแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว แล้วข้าก็ไม่ต้องการจะแต่งงานด้วย ถ้าท่านไม่อยู่แล้วข้าก็จะออกบวช ” (...คงไม่มีใคร
ดูแลท่านแม่ได้ดีเท่าเราอีกแล้วหล่ะ ) ถึงแม้มารดาของเขาจะอ้อนวอนเพียงใดก็ไม่เป็นผล นางจึงคิดคลุมถุงชน เมื่อบุตรชายไม่ได้คัดค้าน
 
สะใภ้สาวทำดีกับแม่สามีเพื่อต้องการให้สามีรักและหลงตน
 
สะใภ้สาวทำดีกับแม่สามีเพื่อต้องการให้สามีรักและหลงตน
 
       นางจึงจัดแจงหาหญิงที่มีชาติตระกูลเสมอกันมาให้แก่เขา “ เอาล่ะลูกแม่ เมื่อเจ้าไม่ยอมหา ก็ขอให้แม่ได้หาให้เจ้าก็แล้วกันนะ ” “ ถ้าเช่นนั้นก็ตามใจท่านแม่เถิด ”
ระยะแรกที่หญิงสาวเข้ามาอยู่ในบ้าน นางได้ดูแลแม่ผัวเป็นอย่างดีด้วยคิดว่าจะทำให้ตนเป็นที่รักของสามียิ่งขึ้น “ ท่านแม่ หากต้องการอะไรก็ขอให้บอกข้านะจ๊ะ ”
 
อุบาสกหนุ่มได้หาอาหารรสเลิศมาให้ภรรยาของตนเพื่อเป็นการตอบแทน
 
อุบาสกหนุ่มได้หาอาหารรสเลิศมาให้ภรรยาของตนเพื่อเป็นการตอบแทน
 
      “ ขอบใจเจ้ามากนะ มีเจ้าช่วยดูแลบ้านช่อง แม่ก็สบายใจเหลือเกิน ” (...นี่ถ้าไม่เพราะเราอยากให้ผัวรักผัวหลง คงไม่เสียเวลามาดูแลคนแก่หรอก)
อุบาสกผู้เลี้ยงมารดาคิดว่าภรรยาของตนดูแลมารดาด้วยความเคารพ จึงตอบแทนนางด้วยการหาอาหารรสชาติดีมาให้แก่นางเพียงผู้เดียว
 
ภรรยาของอุบาสกหนุ่มเข้าใจว่าสามีทั้งรักและหลงตนโดยไม่ได้ใส่ใจในตัวของมารดาอีกต่อไป
 
ภรรยาของอุบาสกหนุ่มเข้าใจว่าสามีทั้งรักและหลงตนโดยไม่ได้ใส่ใจในตัวของมารดาอีกต่อไป
 
       “ วันนี้พี่มีน้ำผึ้งรวงเดือน ๕ กับนมแพะชั้นดีมาให้เจ้าด้วย ” “ ท่านพี่ห่วงใยข้าแบบนี้ คืนนี้ข้าจะนวดให้ท่านพี่เป็นการตอบแทนก็แล้วกันนะจ๊ะ ” เมื่อได้รับอาหาร
รสเลิศจากสามีเป็นประจำ นานเข้านางจึงคิดว่าสามีของตนคงต้องการขับไล่มารดาเป็นแน่ นางจึงคิดทำอุบายเพื่อขับไล่แม่ผัวออกจากบ้าน “ ท่านพี่ดีกับเราแบบนี้
คงไม่ไปใส่ใจยายแก่นั้นแล้ว ดีหล่ะ เราก็ต้องหาทางไล่นางออกจากบ้านให้ได้ ท่านพี่จะได้รักเรา ใส่ใจเราแค่คนเดียว ”
 
ภรรยาของอุบาสกหนุ่มแกล้งร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากสามี
 
ภรรยาของอุบาสกหนุ่มแกล้งร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากสามี
     
       ภรรยาของอุบาสกผู้เลี้ยงมารดาหลงคิดว่าสามีรักตนเองจนถึงกับลืมดูแลแม่ ได้วางแผนขับไล่แม่ผัว ด้วยการให้ร้ายต่าง ๆ นา ๆ “ ฮือ ฮือ ฮือ ” “ น้องหญิง
เจ้าเป็นอะไรทำไมถึงมาร้องไห้อยู่แบบนี้ ” “ ก็แม่ของพี่นะสิจ๊ะ อยู่ดี ๆ ก็มาด่าว่าน้องเกียจคร้าน ไม่ยอมทำงาน ทั้งที่น้องก็ดูแลท่านแม่อยู่ทุกวัน ฮือ ฮือ”
“ น้องอย่าได้เสียใจไปเลยท่านแม่คงหงุดหงิดตามประสาคนแก่ ”
 
ภรรยาสาวได้กล่าวเท็จว่าตนถูกกลั่นแกล้งจากแม่ของสามี
 
ภรรยาสาวได้กล่าวเท็จว่าตนถูกกลั่นแกล้งจากแม่ของสามี
 
       (....อะไรกัน ทำไมท่านพี่ไม่เข้าข้างเรา หนอย แบบนี้ต้องใช้แผนหน่อยแล้ว) เมื่อแผนการกล่าวหาแม่ผัวไม่ได้ผล นางจึงคิดจะกลั่นแกล้งแม่ผัวให้ได้รับความลำบาก
ทุกวันเมื่อนางจะให้ข้าวยาคูล ก็ให้ที่ร้อนจัดบ้าง เย็นจัดบ้าง ไม่เค็มบ้าง เค็มจัดบ้าง “ แม่หนู ข้าวยาคูลที่เจ้าเอามาให้แม่ มันร้อนเกินไป แล้วมันก็เค็มมากด้วย แม่เอง
กินไม่ได้หรอกน่ะ ” “ ร้อนเหรอ เค็มเหรอ ได้ นี้ไงเติมน้ำให้แล้ว ที่นี้จะบ่นอะไรอีก ”
 
ลูกสะใภ้ได้กลั่นแกล้งแม่สามีด้วยการให้ข้าวยาคูลที่เค็มจัดและร้อนจัดจนไม่สามารถทานได้
 
ลูกสะใภ้ได้กลั่นแกล้งแม่สามีด้วยการให้ข้าวยาคูลที่เค็มจัดและร้อนจัดจนไม่สามารถทานได้
 
       “ อ้าว เจ้าใส่น้ำเยอะแบบนี้ ข้าวยาคูลก็เย็นแล้วก็ชืดหมดละสิ ” “ โอ้ย ฉันเหนื่อยนะแม่ เมื่อกี้ก็บ่นว่าร้อน ว่าเค็ม ฉันตามใจแม่ไม่ถูกหรอกนะ ฉันทำได้แค่นี้แหละ
ไม่กินก็ตามใจ ” แม้กระทั่งน้ำสำหรับอาบ สะใภ้ใจร้ายก็ต้มน้ำร้อนจัดแล้วราดลงบนหลังแม่ผัว “ โอ้ย โอ้ย น้ำร้อนเหลือเกินหลังแม่ไหม้หมดแล้ว เจ้าช่วยเติมน้ำ
ให้ร้อนน้อยลงอีกนิดเถิด ”
 
ลูกสะใภ้สาวผสมน้ำที่ร้อนจัดเพื่อต้องการกลั่นแกล้งแม่ของสามีให้ทนอยู่ในบ้านไม่ไหว
 
ลูกสะใภ้สาวผสมน้ำที่ร้อนจัดเพื่อต้องการกลั่นแกล้งแม่ของสามีให้ทนอยู่ในบ้านไม่ไหว
  
       นอกจากหาเรื่องแม่ผัวแล้ว สะใภ้จอมแสบยังเที่ยวบอกเพื่อนบ้านว่า แม่ผัวของตนเป็นคนเรื่องมาก เอาใจยากยิ่งนัก “ แม่ผัวของฉันเรื่องมากสุด ๆ เลยหล่ะ
บอกว่าน้ำที่อาบร้อนจัด สักพักก็บอกว่าเย็นเกินไป ฉันตามใจไม่ถูกจริง ๆ ” “ อุ๊ยตาย แก่แล้วยังเรื่องมากอีก ถ้าเป็นฉันคงไม่ทนแบบเธอหรอก ” วันหนึ่งแม่ผัว
บอกกับสะใภ้ว่า เตียงของนางมีตัวเรือดชุกชุม ทำให้นางไม่สามารถนอนหลับได้
 
ลูกสะใภ้สาวแกล้งเล่าความเท็จเรื่องแม่สามีให้เพื่อนบ้านฟัง    

ลูกสะใภ้สาวแกล้งเล่าความเท็จเรื่องแม่สามีให้เพื่อนบ้านฟัง
 
       “ แม่หนูที่เตียงของแม่มีตัวเรือดชุกชุม ตอนกลางคืนมันก็กัดแม่จนนอนไม่ค่อยจะหลับเลย ” “ เอาเถอะ ฉันจะเอาเตียงไปเคาะให้ก็แล้วกัน ” นอกจากสะใภ้ตัวดี
จะไม่ได้เคาะเตียงให้แม่ผัวแล้ว นางยังเอาเตียงของตนเคาะลงบนเตียงของแม่ผัว ทำให้เตียงของแม่ผัวเต็มไปด้วยตัวเรือด พอตกดึกแม่ผัวก็ถูกตัวเรือดรุมกัด
ทุกข์ทรมานจนไม่สามารถหลับลงได้ ต้องนั่งอยู่จนถึงเช้า

แม่อุบาสกหนุ่มบอกให้ลูกสะใภ้เอาที่นอนของตนไปทำความสะอาด
 
แม่อุบาสกหนุ่มบอกให้ลูกสะใภ้เอาที่นอนของตนไปทำความสะอาด
  
       “ แม่หนู เจ้าเอาเตียงของแม่ไปเคาะแล้วหรือ ทำไมเมื่อคืนตัวเรือดมันยังกัดแม่มากกว่าเดิมเสียอีก ” “ เมื่อวานฉันเคาะเตียงให้แม่แล้วนะ เรื่องมากแบบนี้
ใครจะไปดูแลได้ ” เมื่อเถียงสู้ไม่ได้ฝ่ายแม่ผัวก็นิ่งเสีย ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่สะใภ้ที่ไม่สามารถขับไล่แม่ผัวออกไปจากบ้านได้ (...“ หนอย ถ้าเป็นแบบนี้
คงต้องเปลี่ยนแผนสะแล้ว คราวนี้แก่ก็ได้ออกจากบ้านแน่ ๆ..) "
 
สะใภ้ตัวแสบเคาะตัวเรือดจากที่นอนของตนลงบนที่นอนของแม่สามี
 
สะใภ้ตัวแสบเคาะตัวเรือดจากที่นอนของตนลงบนที่นอนของแม่สามี
 
       เมื่อกลั่นแกล้งแม่ผัวให้ออกจากบ้านไม่สำเร็จ นางจึงวางแผนใส่ความเพื่อให้สามีไล่แม่ออกจากบ้าน โดยแกล้งบ้วนน้ำลาย สั่งน้ำมูกเรี่ยราดไปทั่วบ้าน
“ น้องหญิงทำไมบ้านเราสกปรกแบบนี้ น้ำลายน้ำมูกสกปรกเลอะเทอะบ้านไปหมด ” “ ก็แม่ของพี่นะสิ น้องห้ามก็ไม่ยอมฟัง แถมยังด่าว่าน้องอีก แม่พี่
ทำแบบนี้ ฉันคงอยู่ร่วมบ้านกันไม่ได้แล้วละ พี่เลือกเอาก็แล้วกันนะ ว่าจะให้แม่อยู่หรือจะให้ฉันอยู่ ”
 
แม่ของอุบาสกหนุ่มถูกตัวเรือดกัดจนไม่ได้นอนทั้งคืน
 
แม่ของอุบาสกหนุ่มถูกตัวเรือดกัดจนไม่ได้นอนทั้งคืน
 
       ผู้เป็นสามีเมื่อได้ฟังคำพูดของภรรยาก็นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงบอกภรรยาว่า “ น้องหญิงเธอยังสาวยังสวยจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใครก็ได้ ส่วนแม่พี่
ท่านแก่มากแล้ว พี่เป็นคนเดียวที่จะเลี้ยงดูท่านได้ น้องจงกลับไปที่บ้านของน้องเถิด ” “ เอ่อ...เอ่อ ท่านพี่เมื่อกี้น้องพูดไปเพราะกำลังโกรธ ความจริง
น้องก็ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ต้องการให้แม่ไปไหนหรอก ถือสะว่าน้องไม่เคยพูดก็แล้วกันนะจ๊ะ ”

ภรรยาของอุบาสกหนุ่มกลับตัวเป็นคนดีหลังจากที่รู้ว่าสามีของตนไม่สามารถแยกจากมารดาได้
 
ภรรยาของอุบาสกหนุ่มกลับตัวเป็นคนดีหลังจากที่รู้ว่าสามีของตนไม่สามารถแยกจากมารดาได้
 
       นางได้ฟังคำของสามีแล้วจึงรู้ว่าตนไม่สามารถแยกสามีจากแม่ได้ หากจะกลับบ้านก็ต้องอยู่อย่างเป็นม่าย เมื่อคิดได้ดังนั้นก็กลับตัวกลับใจปฏิบัติตนเป็นสะใภ้
ที่ดีอย่างเดิม ครอบครัวก็เป็นสุขตลอดมา วันหนึ่งอุบาสกผู้เลี้ยงมารดาไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่วัดเชตวันแล้วได้กราบทูลเรื่องราวทั้งหมดแด่พระศาสดา
 
ลูกสะใภ้สาวหันกลับมาดูแลแม่ของสามีด้วยความเคารพเช่นเดิม
 
ลูกสะใภ้สาวหันกลับมาดูแลแม่ของสามีด้วยความเคารพเช่นเดิม
 
       “ เดี๋ยวนี้เธอไม่เชื่อคำของภรรยา แต่ในชาติหนึ่งในอดีตเธอเคยเชื่อ จนไล่มารดาออกจากบ้าน แต่ก็เพราะเราเธอจึงนำมารดากลับมาสู่เรือนอย่างเดิม
” พระพุทธองค์ตรัสเล่าเรื่องในอดีตชาติซึ่งใจความเหมือนเรื่องราวที่เกิดในปัจจุบัน แต่พอภรรยายื่นคำขาดว่าให้เลือกระหว่างแม่กับนาง
 
พระศาสดาทรงตรัสเล่าเรื่องของอุบาสกที่เกิดขึ้นในอดีตชาติซึ่งมีเหตุแบบเดียวกับในปัจจุบัน
 
พระศาสดาทรงตรัสเล่าเรื่องของอุบาสกที่เกิดขึ้นในอดีตชาติซึ่งมีเหตุแบบเดียวกับในปัจจุบัน
 
       สามีได้เลือกภรรยาและไล่มารดาของตนออกจากเรือน “ ท่านแม่หากท่านอยู่ คนในบ้านนี้คงไม่มีความสุขเป็นแน่ ท่านจงออกไปจากนี้เถิด ” “ ถ้าแม่ทำให้เจ้า
ไม่สบายใจละก็ แม่ก็จะทำตามที่เจ้าบอก ” หญิงชราออกจากบ้านลูกชายไปอาศัยอยู่กับเพื่อน ทำงานรับจ้างเลี้ยงชีพด้วยความยากลำบาก

อุบาสกบอกมารดาของตนให้ออกไปจากบ้านเพื่อความสงบสุขของครอบครัว
 
อุบาสกบอกมารดาของตนให้ออกไปจากบ้านเพื่อความสงบสุขของครอบครัว
 
       ฝ่ายสะใภ้เมื่อแม่ผัวออกจากบ้านไปแล้วก็ตังครรภ์ นางได้บอกกับเพื่อนบ้านว่า ที่นางตั้งครรภ์เพราะแม่ผัวออกไปจากบ้าน “ ดูสิ อยู่กินกันมาตั้งนานไม่ท้องสะที
พอแม่ผัวฉัน ตัวกาลกินีออกไปจากบ้านปุบฉันก็ท้องปับเลย ” ฝ่ายแม่ผัวผู้น่าสงสารเมื่อทราบข่าวก็ยิ่งเสียใจ และน้อยใจในโชคชะตา
 
มารดาของอุบาสกออกจากบ้านไปด้วยความเสียใจยิ่ง
 
 
มารดาของอุบาสกออกจากบ้านไปด้วยความเสียใจยิ่ง
 
      ธรรมะคงตายไปจากโลกนี้แล้ว ไม่อย่างนั้นคนจิตใจชั่วอย่างสะใภ้ของเราคงไม่มีลูก และคงไม่มีความสุขเช่นนี้ ” วันหนึ่งหญิงชราได้นำข้าวของได้แก่ งา
แป้ง ข้าวสาร ทัพพี ถาด และศีรษะมนุษย์ที่ตายแล้ว ๓ ศีรษะมาทำเตาไฟ เพื่อทำพิธีถวายมตกภัตแก่ธรรมในป่าช้า ด้วยเข้าใจว่าธรรมได้ตายไปแล้ว
 
ลูกสะใภ้ตัวแสบได้ตั้งท้องหลังจากที่แม่ของสามีได้ออกจากบ้านไปแล้ว
 
ลูกสะใภ้ตัวแสบได้ตั้งท้องหลังจากที่แม่ของสามีได้ออกจากบ้านไปแล้ว
 
       นางเริ่มก่อไฟแล้วลงน้ำสระผม บ้วนปาก สยายผม จากนั้นจึงเริ่มซาวข้าวเพื่อถวายมตกภัตแก่ธรรม ครั้งนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสวยพระชาติ
เป็นท้าวสักกะเทวราช ทรงตรวจดูหมู่สัตว์โลก เห็นหญิงชรากำลังมีทุกข์ จึงแปลงกลายเป็นพราหมณ์ทำทีผ่านไปทางนั้นแล้วหยุดตรงที่นาง
 
หญิงชราอาศัยอยู่กับเพื่อนบ้านรับจ้างทำมาหากินด้วยความยากลำบาก
 
หญิงชราอาศัยอยู่กับเพื่อนบ้านรับจ้างทำมาหากินด้วยความยากลำบาก
 
      “ ดูก่อนกัจจานี เจ้าสระผมนุ่งห่มขาว ยกถาดสำหรับนึ่งขึ้นบนเตาที่ทำด้วยศีรษะมนุษย์ ยีแป้ง ล้างงา ซาวข้าว จะทำข้าวสุกคลุกงาเพื่ออะไรกัน ” “ ข้าวสุกคลุกงา
นี้เราไม่ได้ทำเพื่อกินเอง แต่เพื่ออุทิศให้ธรรม ก็คือ ความเคารพอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ และสุจริต ๓ ประการ ก็คือกาย วาจา และก็ใจที่ตายไปจากโลกนี้แล้ว ”
 
หญิงชราเดินเข้าป่าช้าพร้อมศีรษะมนุษย์ที่ตายแล้ว
 
หญิงชราเดินเข้าป่าช้าพร้อมศีรษะมนุษย์ที่ตายแล้ว
 
       ท้าวสักกะเทวราชได้คืนร่างเดิมให้นางเห็น และได้อธิบายว่าธรรมนั้นยังอยู่และไม่มีวันตายหรือสูญสิ้นไปไหน “ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าธรรมะตายไปแล้ว
ธรรมะยังมีอยู่ ธรรมะไม่มีวันตายและไม่หายสาบสูญไปไหน ” “ ถ้าธรรมยังไม่ตาย ทำไมคนใจบาปอย่างสะใภ้ของข้าจึงมีชีวิตอย่างเป็นสุขล่ะ
 
หญิงชราได้ทำพิธีถวายมตกภัตแก่ธรรมด้วยเข้าใจว่าธรรมนั้นได้ตายจากโลกไปแล้ว
 
หญิงชราได้ทำพิธีถวายมตกภัตแก่ธรรมด้วยเข้าใจว่าธรรมนั้นได้ตายจากโลกไปแล้ว
 
       นางไม่มีลูก พอไล่ข้าออกจากบ้านได้ กลับได้ลูกและใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่ในบ้าน แต่ข้ากลับถูกทอดทิ้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ” “ ถ้าอย่างนั้นข้าจะทำให้สะใภ้
และลูกของนางกลายเป็นขี้เถ้าเดี๋ยวนี้ ” “ เดี๋ยวก่อนท่านอย่าทำร้ายพวกเขา ข้าเพียงต้องการอยู่กับลูกชายลูกสะใภ้ และก็หลานเท่านั้น ”
 
ท้าวสักกะได้บอกกล่าวหญิงชราว่าธรรมะยังอยู่ไม่ว่ากาลไหนๆ ธรรมย่อมไม่ตาย
 
ท้าวสักกะได้บอกกล่าวหญิงชราว่าธรรมะยังอยู่ไม่ว่ากาลไหนๆ ธรรมย่อมไม่ตาย
 
       “ ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้นก็ตามใจเจ้าเถิด ด้วยอานุภาพของเรา ลูกชายและสะใภ้ของเจ้าจะสำนึกได้และมารับเจ้ากลับไป ” ด้วยอานุภาพของท้าวสักกะเทวราชบันดาล
ให้ลูกสะใภ้ระลึกถึงคุณของแม่ พวกเขาได้ตามหาและพาแม่กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข “ แม่อยู่นี้เอง กลับบ้านเราเถิด ข้าสำนึกผิดแล้ว แม่กลับไปอยู่ด้วยกันเถิด ”
 
อุบาสกและภรรยาออกตามหามารดาเพื่อรับตัวกลับไปอยู่ด้วยกันที่บ้านดังเดิม
 
อุบาสกและภรรยาออกตามหามารดาเพื่อรับตัวกลับไปอยู่ด้วยกันที่บ้านดังเดิม
 
       “ ต่อไปฉันจะดูแลแม่อย่างดีเลยนะ จะไม่คิดร้ายกับแม่อีก ” “ พวกเจ้ารู้ผิดชอบก็ดีแล้ว ที่ผ่านมาแม่ให้อภัยพวกเจ้านะ ” พระศาสดาครั้นทรงตรัสพระธรรมเทศนานี้
จบลงแล้ว ทรงประกาศสัจธรรม แล้วทรงประชุมชาดกในเวลาจบสัจธรรม 
 
 
 
 
อุบาสกผู้เลี้ยงมารดานั้นได้บรรลุโสดาปัน และเกิดเป็นอุบาสกผู้เลี้ยงมารดาในบัดนี้
ภรรยาของเขาในครั้งนั้น ได้มาเป็นภรรยาในบัดนี้
ท้าวสักกะเทวราช ได้มาเป็นเราตถาคตชะนี้แล

 
 




พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง
      เกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
      ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
      ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
      ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
      มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
      ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
      สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
      สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
      อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
      สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
      สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
      อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ