กาสาวชาดก ชาดกว่าด้วยผ้ากาสาวพัสตร์

พญาช้างอยากลงโทษให้พรานชั่วให้ตายตกไปตามชีวิตบริวารของตน แต่เห็นแก่ผ้าเหลืองกาสาวพัสตร์ในพระพุทธศาสนา จึงลงโทษสถานเบาให้เข็ดหลาบ แล้วปล่อยให้พรานออกจากป่าโดยให้พรานตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าจะเลิกฆ่าสัตว์ตัดชีวิตและตั้งอยู่ในศีลธรรม อันดีตลอดไป https://dmc.tv/a26414

บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ
[ 11 ก.ย. 2563 ] - [ ผู้อ่าน : 18285 ]

ชาดก 500 ชาติ

กาสาวชาดก-ชาดกว่าด้วยผ้ากาสาวพัสตร์

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนา ณ ใจกลางชมพูทวีป

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนา ณ ใจกลางชมพูทวีป
  
        ครั้งเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปักธงชัยแห่งอริยสัจประกาศพระศาสนาขึ้น ณ ใจกลางชมพูทวีปนั้น กุลบุตรจากทุกวรรณะ ทั้งคหบดี มหาเศรษฐี
กษัตริย์ และพราหมณ์หลายตระกูล ต่างพากันสละบ้านเรือน ออกบวชในพระศาสนากันอย่างมากมาย
 
กุลบุตรทุกวรรณะต่างพากันออกบวชในพระพุทธศาสนา
 
กุลบุตรทุกวรรณะต่างพากันออกบวชในพระพุทธศาสนา
 
       ส่วนที่ไม่ได้ออกบวชต่างก็ปวารนาตนเป็นพุทธมามกะ ให้การนิมนต์ถวายนิตยภัตอย่างดีเลิศกันถ้วนทั่วทุกแว่นแคว้น  ไม่เฉพาะแต่ในมคธ
และโกศลรัฐเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่ริษยาแก่เหล่าอลัชชี นักบวชนอกศาสนาอย่างยิ่ง
 
ชาวเมืองต่างพากันใส่บาตรพระสงฆ์ด้วยอาหารรสเลิศ
 
ชาวเมืองต่างพากันใส่บาตรพระสงฆ์ด้วยอาหารรสเลิศ
 
       กระทั่งกาลต่อมาก็เกิดมลทินแปดเปื้อนพุทธศาสนาของพระพุทธองค์เข้าจนได้ “ ชิ ถวายแต่พระภิกษุ พวกเราก็ถือเป็นนักบวชเหมือนกัน ทำไม่ไม่มีใคร
คิดจะมาถวายเรามั่งเลยนี่ ” “ ถ้าเจ้าอยากได้ของถวาย ข้ามีแผน เชอะ คอยดูเถอะเจ้าจะมีกินไม่แพ้ภิกษุเหล่านั้นหรอก ”

พวกอลัชชีต่างพากันอิจฉาเหล่าภิกษุที่ได้รับอาหารรสเลิศจากการ<a href=http://www.dmc.tv/search/บิณฑบาต title='บิณฑบาต' target=_blank><font color=#333333>บิณฑบาต</font></a>ในทุก ๆ วัน
 
พวกอลัชชีต่างพากันอิจฉาเหล่าภิกษุที่ได้รับอาหารรสเลิศจากการบิณฑบาตในทุก ๆ วัน
 
        มารศาสนาเหล่านี้พากันปลงผม โกนศีรษะ หาผ้ากาสาวะมาห่มตามสาวกสงฆ์ของพระพุทธศาสดา เพื่อหวังหลอกลวงเอาอาหารจากการบิณทบาตชาวพระนคร
“ แหม เจ้านี่ก็ช่างฉลาดจริง ๆ เลย แค่นี้เราก็ได้อาหารจากการถวายแล้ว ฮะ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ”

พวกอลัชชีเอาผ้ากาสาวะมาห่มครองเพื่อปลอมเป็นภิกษุสงฆ์
 
พวกอลัชชีเอาผ้ากาสาวะมาห่มครองเพื่อปลอมเป็นภิกษุสงฆ์
 
       “ เชื่อข้าแล้วดีเอง รีบไปเถอะ ป่านนี้ชาวบ้านชาวช่อง คงรอให้เราออกบิณฑบาตแล้วล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” จากนั้นภิกษุปลอมก็เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
บางครั้งก็มีพฤติกรรมคล้ายโจรขโมย มิได้สำรวมกายใจเป็นสงฆ์ได้แม้เพียงน้อย แต่ได้สั่นคลอนศรัทธาของพุทธศาสนิกชนอย่างมหาศาล
 
ชาวเมืองต่างพากันเริ่มสงสัยว่าพวกตนใส่บาตรให้กับภิกษุปลอม
 
ชาวเมืองต่างพากันเริ่มสงสัยว่าพวกตนใส่บาตรให้กับภิกษุปลอม
 
        “ เจ้าว่าภิกษุที่เราใส่บาตรไปเมื่อกี้ เป็นภิกษุจริงหรือปลอมกันแน่ ดูทะแม่ง ๆ ” “ ต้องเป็นภิกษุปลอมแน่เลย ท่านดูสิเดินไม่สำรวมสักนิด รู้งี้ไม่ใส่บาตร
ก็ดีหรอก ” การลอกเลียนปลอมปนกับภิกษุที่เหล่าอลัชชีกระทำครั้งนี้เป็นความวิตกใหญ่หลวงของสงฆ์สภาในพระเชตวัน
 
เหล่าภิกษุทั้งหลายต่างพากันกราบทูลพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงเรื่องที่พวกอลัชชีปลอมเป็นภิกษุสงฆ์
 
เหล่าภิกษุทั้งหลายต่างพากันกราบทูลพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงเรื่องที่พวกอลัชชีปลอมเป็นภิกษุสงฆ์
 
       ภิกษุทั้งสิ้นพากันจับกลุ่มวิพากษ์เหตุการณ์หาทางแก้ไข สมเด็จพระพุทธศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสดับถึงวิกฤตทางศรัทธาและทุกข์ร้อนของพระสาวก
ทั้งหลาย ทรงมีพระกรุณาธิคุณให้เห็นความเป็นธรรมดา แห่งทุกข์นั้นว่า มิใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่บัดนี้เท่านั้น
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสแสดงกาสาวชาดกให้แก่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสแสดงกาสาวชาดกให้แก่เหล่าภิกษุสงฆ์
     
        จากนั้นพระองค์ก็ทรงยกเอากาสาวชาดกขึ้น แสดงให้ภิกษุทั้งสิ้นรู้ถึงวิบากกรรมอันเคยเกิดมาแล้วในบัดนั้น ในพาราณสีเมื่อกาลหนึ่ง การค้าพาณิชย์
เจริญรุ่งเรืองที่นี่เป็นอย่างมาก ทั้งแพรพรรณอัญมณี และเครื่องใช้สิ่งประดับ เคหสถานต่าง ๆ ล้วนเป็นที่ต้องการของชาวนครใกล้ไกลทั้งสิ้น
 
นครพาราณสี
 
นครพาราณสี
 
       ร้านขายงาช้างร้านใหญ่ของพาราณสีก็เป็นหนึ่งในความนิยมนั้น งาช้างที่เป็นเครื่องตกแต่งบอกฐานะโอ่อ่าของคหบดี ต่างพากันหมดลงอย่างรวดเร็ว
นายพาณิชย์จึงประกาศหาพรานไปฆ่าช้างป่า ตัดงามาทำกำไรต่อ โดยมีค่าช้างอย่างงดงาม
 
นครพาราณสีมีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง
 
นครพาราณสีมีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง
 
       “ เฮ้อ งาช้างของเราจะหมดแล้วเหรอเนี่ย ตายแน่ ๆ จะเอาที่ไหนมาขายอีกละนี่ ได้กำไรดีนักเชียวอย่างนี้ต้องหาซื้อจากพรานสะหน่อยแล้วล่ะ ” ไม่นานนัก
นายพาณิชก็ได้ตัวพรานดังต้องการ “ วางใจเถิดนายวาณิช ข้าจะนำงาสวยงามมาส่งให้ทุกวันให้จงได้

การค้าพาณิชย์ในเมืองพาราณสีได้รับความสนใจจากบุคคลทุกชนชั้น
 
การค้าพาณิชย์ในเมืองพาราณสีได้รับความสนใจจากบุคคลทุกชนชั้น
  
        นายจงเตรียมช่างประดิษฐ์งาช้างไว้เถิด ” “ ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็รีบไปเถอะ ที่ชายขอบแคว้นกาสี ในป่าทักขิณาคีรียังมีโขลงช้างออกหากินอยู่หลายสิบตัว
เร่งไปฆ่าเอางามาให้เราเถิด ” “ ได้เลย ข้าจะรีบตามรอยมันไป ท่านจงเตรียมค่าจ้างไว้ก็แล้วกัน เฮอะ ฮะ ฮ่า ฮ่า ”
 
งาช้างประดิษฐ์ของพ่อค้าวาณิชขายหมดลงอย่างรวดเร็ว    

งาช้างประดิษฐ์ของพ่อค้าวาณิชขายหมดลงอย่างรวดเร็ว
 
        พรานคนนี้มีใจเหี้ยมโหด มีความคิดเจ้าเล่ห์ เขาใช้เวลาไม่นาน ก็สำรวจเส้นทางที่โขลงช้างใช้สัญจรไปมาได้หมด เมื่อศึกษาอยู่นาน นายพรานก็รู้ว่า
ช้างพรายหลายตัวอยู่รวมกันอย่างมีวินัยได้ ก็เพราะมีพญาช้างเป็นผู้นำ ช้างทุกตัวเดินเรียงแถวไปหากินในป่า

พ่อค้าวาณิชได้ว่าจ้างนายพรานให้ไปล่าโขลงช้างเพื่อนำงามาขายให้ตน
 
พ่อค้าวาณิชได้ว่าจ้างนายพรานให้ไปล่าโขลงช้างเพื่อนำงามาขายให้ตน
  
        แล้วกลับมารวมโขลงอย่างมีระเบียบทุกวัน พญาช้างที่รับผิดชอบนั้นก็ดูแลทุกข์สุขและความเป็นไปของบริวารมิได้ละเลย “ ใครเดือดร้อนหรือคับข้องใจสิ่งใด
ก็อย่าได้เป็นทุกข์อยู่ตัวเดียวนะ เรายินดีช่วยเหลือ ” “ ท่านพญาช้าง ข้าหิวมากเลย ท่านช่วยนำทางพวกเราไปหาอาหารที่เยอะๆ ได้ไหมล่ะ ”

นายพรานใจโหดได้เข้าไปสำรวจเส้นทางของโขลงช้างที่ออกหากินในป่าลึก
 
นายพรานใจโหดได้เข้าไปสำรวจเส้นทางของโขลงช้างที่ออกหากินในป่าลึก
 
        “ ฮะ ฮ่า ฮ่าฮ่า เจ้านี่ก็จริง ๆ เลย นึกว่ามีปัญหาอะไรมากมาย ได้สิ เราจะพาพวกเจ้าไปหากินที่ใหม่ รับรองว่าที่นี่อุดมสมบูรณ์อาหารเพียบแน่ ”
ความเป็นอยู่ของช้างโขลงนี้รัดกุม มีวินัยจนพรานไม่เห็นหนทางเข้าใกล้ได้เลย แต่สมองเจ้าเล่ห์ของนายพรานก็คิดออกจนได้
 
โขลงช้างได้ออกหากินอย่างมีระเบียบในทุกๆ วัน
 
โขลงช้างได้ออกหากินอย่างมีระเบียบในทุกๆ วัน
 
        “ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ในที่สุดเราก็คิดแผนออก แต่เดิมมาพญาช้างย่อมเคารพต่อพระอรหันต์ ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องปลอมตัวเป็นพระให้มันเคารพเรา แค่นี้ก็จัดการ
ไอ้พวกช้างนั้นได้ง่ายดาย ฮะ ฮ่า ฮ่า ย้อมผ้าด้วยน้ำฝาดสะ ก็กลายเป็นผ้าสาวะ โกนคิ้วโกนหนวดสะ ห่มผ้าจีวรเข้า

พญาช้างได้ดูแลทุกข์สุขของบริวารและเป็นผู้นำออกหาอาหารในทุก ๆ วัน
 
พญาช้างได้ดูแลทุกข์สุขของบริวารและเป็นผู้นำออกหาอาหารในทุก ๆ วัน
 
        ช้างก็ย่อมมองเราเป็นพระอรหันต์มาโปรดแน่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้านี่ฉลาดจริง ๆ ” พรานฆ่าช้างเมื่อครองจีวรจนดูเป็นพระภิกษุแล้ว ก็คว้าอาวุธหงอก
และมีดคมกริบขึ้นไปบนที่สูง มองหาทำเลที่จะเข้าใกล้ช้างได้ง่ายที่สุด “ ต้นไม้ใหญ่ใกล้ทางเดินตรงนั้นแหละ เหมาะสมสุดๆ ”

พรานใจโหดได้คิดวางแผนในการที่จะตัดงาจากโขลงช้างเพื่อนำมาขายแก่นายวาณิช
 
พรานใจโหดได้คิดวางแผนในการที่จะตัดงาจากโขลงช้างเพื่อนำมาขายแก่นายวาณิช
 
       พรานชั่วเมื่อซุกซ่อนอาวุธไว้ใกล้ตัวแล้ว ก็วางท่าเหมือนเถระผู้ใหญ่ดูสมถะมากด้วยเมตตาบารมีนั่งรอโขลงช้างอย่างจดจ่อ “ อืม มากันแล้ว ฮะ ฮ่า
พญาช้างนำหน้ามาเช่นเคย เราก็ต้องเอาให้เนียน โอ้ น่าเคารพจริง ๆ เลยเราเนี่ย ”
 
พรานใจชั่วได้ย้อมผ้าด้วยน้ำฝาดเพื่อใช้เป็นผ้ากาสวะห่มคลุมร่างกายของตน
 
พรานใจชั่วได้ย้อมผ้าด้วยน้ำฝาดเพื่อใช้เป็นผ้ากาสวะห่มคลุมร่างกายของตน
 
       เมื่อพญาช้างพบพระสงฆ์มาทำสมาธิ(Meditation)กลางป่าดง ก็เข้าใจว่าคงเป็นพระอรหันต์มาโปรดก็ยกงวงขึ้นทำความเคารพก่อนนำบริวารเดินผ่านไป “ โอ้ พระอรหันต์
โปรดรับการคารวะจากข้าน้อยตามสมควรแก่อัตภาพเถิด พวกเจ้าทุกตัว รีบนั่งทำความเคารพพระอรหันต์ท่านนี้สิ ”

พรานใจโหดปลอมตัวเป็นพระแล้วเดินทางมาซุ่มยังเส้นทางที่โขลงช้างเดินผ่าน
 
พรานใจโหดปลอมตัวเป็นพระแล้วเดินทางมาซุ่มยังเส้นทางที่โขลงช้างเดินผ่าน
 
        พรานใจโหดแสร้งนั่งสมาธิรอจนช้างทั้งหมดเดินผ่านไป และเมื่อช้างตัวสุดท้ายคล้อยหลัง พระปลอมก็คว้าหอกออกข้ามตามทันที “ เฮ้ย ได้โอกาสละ
งาช้างคู่แรกในโครงการนี้ มัวแต่เดินต้วมเตี้ยม ๆ ไม่ทันโขลง ก็ต้องพบจุดจบอย่างนี้ละ ฮะ ฮ่า ” เมื่อได้ระยะสังหาร พรานชั่วก็เริ่มทำตามขั้นตอนที่วางไว้
 
พรานชั่วแสร้งทำเป็นนั่งสมาธิอยู่ริมทางเพื่อให้โขลงช้างได้เห็น
 
พรานชั่วแสร้งทำเป็นนั่งสมาธิอยู่ริมทางเพื่อให้โขลงช้างได้เห็น
 
        “ อืม ระยะนี้แหละกำลังดี ช้างตัวอื่นในโขลงคงไม่รู้หรอกว่า เราแอบฆ่าเพื่อนของมัน ฮ่า ฮ่า ฉึก...!!! โอโห้ตรงเป้าแปะเลย ปักหัวใจจมหอกเลยที่เดียว ฮะ ฮ่า ฮ่า ”
“ โอ้ย เจ้าพรานชั่ว ปลอมเป็นพระมาหลอกเราหรือนี่ โอ้ย ” “ ถึงรู้ก็สายเสียแล้ว เจ้าช้างหน้าโง่เอ้ย ดินไปเถอะ ดิ้นไป ประเดี๋ยวพอเจ้าตายไป
 
พญาช้างคิดว่ามีพระอรหันต์มาพำเพ็ญภาวนาเลยพาบริวารถวายความเคารพ
 
พญาช้างคิดว่ามีพระอรหันต์มาพำเพ็ญภาวนาเลยพาบริวารถวายความเคารพ
 
        งาของแกก็จะกลายมาเป็นของฉัน รายได้งามจริง ๆ ฮ่าฮะฮ่า ” หลังจากที่ช้างเชือกนั้นหมดลมหายใจ พระสงฆ์ปลอมใช้อีกเวลาไม่นานในการตัดเอางา
ทั้งสองข้างก่อนรีบจ้ำออกจากป่า “ จีวรผืนนี้ดีจังเลย ห่มแล้วหลอกใครก็เนียน พอเราแก้มาห่อของหนัก ๆ ก็สะดวกสบาย
 
เมื่อช้างตัวสุดท้ายเดินผ่านไปพระปลอมก็ได้เตรียมการตามแผนที่ตนวางไว้
 
เมื่อช้างตัวสุดท้ายเดินผ่านไปพระปลอมก็ได้เตรียมการตามแผนที่ตนวางไว้
 
       จะเดินเหินก็คล่อง ฮะ ฮ่า ฮะ ฮ่า เห็นเงินอยู่รำไร ๆ ” พรานใจร้ายใช้วิธีเดิมหลอกฆ่าช้างโขลงนี้จนร่อยหรอลงไป เป็นที่ผิดสังเกตแก่พญาช้างผู้ไม่ดูดาย
ความทุกข์ร้อนของบริวาร ในเวลาไม่นานนัก “ ทำไมพักนี้สมาชิกในโขลงของเรา ค่อย ๆ หายไปทีละตัวสองตัว
 
พระปลอมหรือพรานชั่วใช้หงอกฆ่าช้างตัวที่เดินรั้งท้ายที่สุด
 
พระปลอมหรือพรานชั่วใช้หงอกฆ่าช้างตัวที่เดินรั้งท้ายที่สุด
 
       ต้องมีเหตุร้าย มีผู้ลอบกัดพวกเราข้างหลังแน่ ๆ พวกเจ้าทุกตัวฟังทางนี้ เราสงสัยว่า อาจจะมีผู้ลอบทำร้ายพวกเรา วันนี้เราจะเดินอยู่หลังสุดเอง ขอให้ผู้ช่วย
ขึ้นมาเป็นตัวนำโขลงไปก่อน พวกเจ้าเองก็ต้องระมัดระวังตัวเอง อะไรที่ผิดสังเกตหรือคนแปลกหน้าก็ตามต้องระวังไว้
 
เจ้าช้างได้ถูกพรานฆ่าตายโดยที่เพื่อนของมันไม่มีตัวใดล่วงรู้เลย
 
เจ้าช้างได้ถูกพรานฆ่าตายโดยที่เพื่อนของมันไม่มีตัวใดล่วงรู้เลย
 
       คนแปลกหน้า เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นพระอรหันต์ท่านนั้น ” “ ต้องใช่แน่ ๆ ท่านพญาช้างมันน่าแปลกนัก อยู่ ๆ ทำไมพวกเราถึงเจอพระอรหันต์นั้นทุกวัน
ภายหลังเจอกันพี่ ๆ น้อง ๆ ของเราก็เริ่มหายไปทีละเชือกสองเชือก ” เมื่อช้างทั้งหมดรู้ตัวถึงภัยร้ายที่จะมาเยือน
 
พรานชั่วได้ฆ่าช้างแล้วนำงาไปขายให้แก่นายวาณิช
 
พรานชั่วได้ฆ่าช้างแล้วนำงาไปขายให้แก่นายวาณิช
 
       ก็เริ่มระมัดระวังตัวเองและก็เป็นดั่งที่คิดไว้ วันนี้ช้างทั้งโขลงก็เดินทางมาเจอพระอรหันต์ที่เป็นนายพรานปลอมตัวมาอีกเช่นเคย “ มากันแล้วเรอะ
อื้อหือแต่ละตัว งาสวย ๆ งาม ๆ ทั้งนั้น ยิ่งตัวหลังสุดนี่ยิ่งสวย เสร็จเราแน่เจ้าช้างเอ๋ย ฮะ ฮ่า ฮ่า ” “ นั่นไงท่านพญาช้าง เจอพระรูปนั้นอีกแล้ว ”

พญาช้างเริ่มสงสัยในการหายตัวไปของบริวาร
 
พญาช้างเริ่มสงสัยในการหายตัวไปของบริวาร
 
        “ พวกเจ้าอยู่นิ่ง ๆ ไว้ อย่าทำตัวผิดปกติ เราจะจัดการกับพระปลอมนี่เอง ” เมื่อขบวนช้างเดินไปไกล ทิ้งให้พญาช้างเดินหลังสุดไกลจากฝูง ภิกษุกำมะลอ
ก็เริ่มทำตามแผนเหมือนเช่นทุกที พญาช้างเองก็แสร้งเดินช้า ๆ พลางชำเลืองคอยระมัดระวังอยู่ และแน่ใจชัดแจ้งว่าเป็นนายพรานปลอมตัวมา

พญาช้างสงสัยว่าพระภิกษุที่พวกตนเห็นจะเป็นพระปลอมและเป็นต้นเหตุที่ทำให้พวกตนหายตัวไป
 
พญาช้างสงสัยว่าพระภิกษุที่พวกตนเห็นจะเป็นพระปลอมและเป็นต้นเหตุที่ทำให้พวกตนหายตัวไป
 
       “ เออ ๆ เดินช้า ๆ อย่างนั้นละพ่อเอ๋ย อีกนิดหนึ่งเถอะ จะพุ่งหงอกให้โดนหัวใจเลย ” “ นั่นไงเริ่มโผล่อาวุธออกมาแล้วละสิ ไอ้คนใจบาปทำลายพระศาสนา
บังอาจจะเอาชีวิตเราเชียวหรือ นั่น ๆ ถือหอกวิ่งมาแล้ว เฮอะ ๆ เข้ามาสิ เดี๋ยวเจ้าก็จะรู้คิดจะมาเล่นกับพญาช้าง” “วันนี้ล่ะ โดนแน่เจ้าช้างเอ๋ย ของางาม ๆ

พญาช้างได้ประจันหน้ากับพรานชั่วที่ปลอมตัวเป็นพระ
 
พญาช้างได้ประจันหน้ากับพรานชั่วที่ปลอมตัวเป็นพระ
 
        ของเจ้าเถิดนะ ” วินาทีนั้นพรานล่าช้างรวมกำลังพุ่งหงอกสู่จุดตาย คือรักแร้แดงหรือหัวใจพญาช้างอย่างมั่นใจ “ เอางามาให้ข้าสะเถอะ ฮึบ ” พญาช้างที่ระวังตัว
อยู่แล้วก็เบี่ยงกายหลบ เอา งวงมาจับหอกของพรานไว้ได้ โดยไม่ได้รับอันตรายเลย “ คิดจะแทงเราเหรอ งอกแค่นี้ทำอะไรเราไม่ได้หรอก ”
 
พญาช้างได้คว้าแย่งหงอกมาจากพรานใจชั่วมาได้
 
พญาช้างได้คว้าแย่งหงอกมาจากพรานใจชั่วมาได้
 
        เมื่อเห็นว่าหอกทำอะไรพญาช้างไม่ได้พรานชั่วก็พรานชั่วก็คว้ามีดเล่มยาว หมายจะขว้างใส่ แต่พริบตาพญาช้างก็แล่นเข้าประชิดตัว “ มารศาสนา ตัวชั่วร้าย ”
“ โอ้ย ตายแล้วเรา พลาดจนได้ อย่าทำอะไรเราเลยนะ อย่า ยอมแล้วจ้า  ข้ายอมแล้ว ” “ บาปของเจ้าที่ล่วงเกินพระศาสนาแบบนี้ สมควรให้ตกนรกสะเดี๋ยวนี้ ”
 
พรานใจได้ร้องขอชีวิตของตนต่อพญาช้าง
 
พรานใจได้ร้องขอชีวิตของตนต่อพญาช้าง
 
        “ อย่าเลยจ๊ะ อย่าเลย ปล่อยข้าไปเถอะ ข้ารู้สึกผิดแล้ว ” พญาช้างอยากลงโทษให้พรานชั่วให้ตายตกไปตามชีวิตบริวาร แต่เห็นแก่ผ้าเหลืองกาสาวพัสตร์
ในพระพุทธศาสนา จึงลงโทษสถานเบาให้เข็ดหลาบ โดยการจับฝาดกับต้นไม้อย่างแรง “ โอ้ย แรงสะขนาดนี้ กระดูกเราจะหักไหมนี่ โอ้ย ซี่โครงจะเหลือไหม ”
 
พรานใจชั่วถูกพญาช้างลงโทษสถานเบาแล้วก็ปล่อยกลับไป
 
พรานใจชั่วถูกพญาช้างลงโทษสถานเบาแล้วก็ปล่อยกลับไป

       สุดท้ายพรานก็ต้องออกจากป่าโดยให้สัตย์ปฏิญาณว่าจะเลิกฆ่าสัตว์ตัดชีวิตและตั้งอยู่ในศีลธรรม อันดีตลอดไป พญาช้างเปลื้องผ้ากาสาวพัสตร์ออกจากกาย
อันสกปรกของพราน แล้วก็ปล่อยกลับไป เมื่อเหตุร้ายจากพรานที่ปลอมเป็นภิกษุผ่านพ้นไปดุจกันกับที่อลัชชีเอาจีวรผ้ากาสาวพัสตร์ห่มปลอมเป็นพระสงฆ์
ในกาลสมัยต่อมา พญาช้างก็พาบริวารออกหากินในป่าลึกเข้าไปอีกจนปลอดภัยอยู่จนสิ้นอายุขัยตามวาระกรรม
       
       สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงพระธรรมเทศนานี้จบแล้วตรัสอริยสัจสี่โดยอเนกปริยาย ภิกษุทั้งหลายก็สามารถคลายความโกรธขึ้งกังวลต่อมารศาสนา
คืออลัชชีเหล่านั้นได้ 
 
 
 
ในพุทธกาลนั้นพ่อค้างาช้าง กำเนิดเป็น ผู้นำเหล่าอลัชชี
พรานฆ่าช้าง กำเนิดเป็น อลัชชี
พญาช้างสาร เสวยพระชาติ เป็นพระพุทธเจ้า

 
 




พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง
      เกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
      ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
      ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
      ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
      มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
      ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
      สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
      สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
      อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
      สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
      สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
      อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ