ชาดก 500 ชาติ
นฬปานชาดก-ว่าด้วยการใช้ปัญญาพิจารณา
สระน้ำใหญ่ ณ ป่า นฬปานครั้งเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จออกจาริกเผยแผ่พระพุทธธรรมในโกสุมรัฐช่วงมัชฌิมากาล ภิกษุสามเณรจากพระอารามหลวงเป็นจำนวนมากได้ตามเสด็จมาด้วยเช่นทุกพรรษาที่ผ่านมา
ครั้งนี้พระองค์ทรงนำหมู่ภิกษุสงฆ์มาถึงเขตแดนหมู่บ้านนฬปานที่ซึ่งร่มรื่นเนื่องจากมีบึงน้ำใสอยู่หลังราวป่า เป็นที่สับปายะแก่หมู่สงฆ์ยิ่งนักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเผยแผ่ธรรมะ ณ กรุงโกสุมพุทธสาวกทั้งหลายจึงแยกย้ายกันหาที่ลาดปูอาสนะรายรอบสระน้ำกว้างใหญ่ในป่านั้น “สามเณรเองก็ต้องสำรวมกายใจให้ดีนะ อย่าเล่นน้ำซุกซนรบกวนพระผู้ใหญ่ท่านล่ะ” “ขอรับ
น้ำใสแจ๋วเลยลงไปแช่คงจะสดชื่นยิ่งนัก” “ใช่ๆ เดินทางมาร้อนๆ ต้องขอลงไปแช่น้ำซะหน่อย”พระสัมมาสัมพุทธเจ้านำเหล่าภิกษุสงฆ์ผ่านมาทางหมู่บ้าน นฬปานภิกษุหลายรูปเมื่อจัดการกิจวัตรเรียบร้อยดีแล้วก็ลงสรงน้ำในสระ ภิกษุรูปหนึ่งเห็นต้นอ้อขึ้นอยู่ชุกชุม ก็คิดอยากได้กล่องใส่เข็ม ซึ่งทำมาจากต้นอ้อข้อปล้อง..... “อืม..นานๆ ทีจะเจออ้อ
ลำสวยๆ อย่างนี้ เอาไปทำเป็นกล่องใส่เข็มน่าจะดี พวกท่านนะ ต้องใช้กันหรือเปล่า เดี๋ยวเราจะทำเผื่อ”บึงน้ำกว้างใหญ่หลังราวป่า ณ หมู่บ้าน นฬปาน“ดีเลยท่าน เราก็อยากจะหาที่ใส่เข็มมานานแล้ว ของเก่าที่ใช้อยู่เก่าเต็มที” “สามเณร ไปชักชวนพี่น้องสักสองสามรูปนะ พากันตัดต้นอ้อให้หลวงพี่ได้ทำกล่องเข็มสักหลายๆ ปล้องหน่อย
จะได้อาบน้ำอาบท่าซะด้วยเลยไง” “ขอรับ นิมนต์หลวงพี่อาบน้ำให้สบายเถอะ กระผม จะตัดอ้อให้เอง ดีใจจังได้เล่นน้ำแล้ว ตัดอ้อให้หลวงพี่เสร็จก่อนค่อยเล่นน้ำก็แล้วกัน”เหล่าภิกษุพากันอาบในบึงใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยกอต้นอ้อการที่ภิกษุสั่งให้สามเณรช่วยกันตัดต้นอ้อในครั้งนั้น กลายเป็นเหตุอัศจรรย์เพราะเหตุว่า อ้อลำไหนๆ ในสระก็หาหาข้อหาปล้องให้ตัดใส่เข็มไม่ได้เลย “อะไรกันนี่ ลำนี้ก็
เป็นรูกลวงตลอดทั้งลำเลย” “ของเราก็เหมือนกัน ตัดกี่ต้นๆ ก็ไม่เห็นมีข้อเลยสักต้น” “ โอ๊ย ทำไมยากเย็นจัง แล้วเมื่อไหร่เราจะได้เล่นน้ำซักทีล่ะเนี่ย เรื่องมันแปลกๆ อยู่น่าภิกษุหนุ่มสั่งให้สามเณรช่วยกันตัดต้นอ้อเพื่อมาทำกล่องใส่เข็มเย็บผ้าไปบอกหลวงพี่ดีกว่า” สามเณรพบเหตุประหลาดเช่นนี้ ก็รีบขึ้นจากน้ำไปบอกแก่ภิกษุ “หลวงพี่ขอรับ เกิดเรื่องประหลาดขึ้นขอรับ คือผมกับเพื่อนๆ ไปตัดต้นอ้อตั้งหลายต้นแล้ว
แต่ไม่พบต้นใดที่มีข้อเลยซักต้น” “อืม..แปลกจริงๆ ตามธรรมชาติแล้วนี่ อ้อก็ต้องมีข้อมีปล้องอยู่แล้วนี่น่า ประหลาดจริงๆ” ภิกษุเมื่อได้ฟังเรื่องประหลาดของต้นอ้อ ก็นำปล้อง
ต้นอ้อนั้นไปหาพระอาวุโส และเล่าเรื่องให้ทราบตามลำดับต้ออ้อถูกตัดเป็นจำนวนมากแต่ไม่มีข้อปล้องให้ใช้งานได้“โอ ต้นอ้อไม่มีข้อเป็นก้นกล่องให้เก็บเข็มเก็บด้ายจริงๆ ประหลาดแท้ๆ” “อืม แปลกจริงๆ ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้นะ พวกเราคงต้องกราบขอพระกรุณาจากพระพุทธศาสดา
กันอีกแล้ว” เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทอดพระเนตรต้ออ้อ ซึ่งกลายมาเป็นรูกลวงตลอด โดยไม่มีข้อปล้องดังเคย ก็ทรงรู้ด้วยญาณบุพเพนิวาสานุสติญาณสามเณรนำเรื่องแปลกประหลาดของต้นอ้อมาบอกเล่ากับพระผู้ใหญ่คือพระญาณระลึกชาติในทันที ถึงพระชาติครั้งหนึ่งของพระองค์ ซึ่งอธิษฐานไว้ในต้นอ้อ พระพุทธเจ้าทรงมีพระมหากรุณาธิคุณให้ภิกษุทั้งหลายทราบเหตุนั้น จึงตรัส
นฬปานชาดกขึ้น เหนือขึ้นไปของนฬปานหมู่บ้าน บัดนี้ ในอดีตป่ากว้างที่มีพญาวานรใหญ่ปกครองบริวารอยู่หลายร้อยตัวคิมหันต์อันทรมานฤดูหนึ่งมาถึงเร็ว จนพญาวานร
รับสถานการณ์ไม่ทัน “เฮ้อ ร้อนจริงๆ ทั้งร้อนทั้งแห้งแล้งบรรดาภิกษุทั้งหลายช่วยกันพิจารณาต้ออ้อที่ปราศจากข้อปล้องพืชผลผลาหารพากันเหี่ยวเฉาไปหมด น้ำท่าที่เคยอุดมสมบูรณ์ก็เหือดแห้งลง เราเป็นผู้นำต้องทำอะไรซักอย่าง จะรอบุญวาสนามาช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นพวกลิงบริวารของเรา
พากันตายหมด” พญาวานรเรียกประชุมใหญ่ให้เครือข่ายทั้งหมดของป่ามารับทราบวิกฤต และช่วยกันหาทางออก ซึ่งมีทางรอดเดียวที่เห็น คือ อพยพไปหาแหล่งที่อยู่อื่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสเล่า นฬปานชาดก กับเหล่าภิกษุสงฆ์“เจี๊ยกๆๆๆ งานเข้าแล้วเรา” “ย้ายก็ดีเหมือนกัน ทนอยู่ที่นี่ เราอดตายกันแหงๆ” เมื่อแบ่งอาหารมื้อสุดท้ายกันหมดแล้ว พญาวานรก็บัญชาการให้ฝูงอพยพลงทิศใต้ที่ยังมองเห็นว่า
พอจะอาศัยอยู่กินได้ ฝูงลิงเดินออกจากบ้านเก่าถึงสามวัน สามคืนจึงหมด พญาวานรจึงตามรั้งท้ายระวังภัยให้ขบวนพญาวานรสั่งให้บริวารอพยพถิ่นฐานไปยังที่อยู่ใหม่ซึ่งอุดมสมบูรณ์ทางทิศใต้“ทางเดียวที่พวกเราจะรอด ก็คือต้องอพยพย้ายไปอยู่ที่อื่น พวกเราจะแบ่งเป็นส่วนๆ ออกเดินลงไปทิศใต้จนกว่าจะพบสระน้ำ ลำธาร และอาหารที่อุดมสมบูรณ์จึงจะหยุดพัก”
“เจี๊ยกๆๆๆ งานเข้าแล้วเรา” “ย้ายก็ดีเหมือนกัน ทนอยู่ที่นี่ เราอดตายกันแหงๆ” เมื่อแบ่งอาหารมื้อสุดท้ายกันหมดแล้ว พญาวานรก็บัญชาการให้ฝูงอพยพลงทิศใต้ที่ยังมองเห็น
ว่าพอจะอาศัยอยู่กินได้ ฝูงลิงเดินออกจากบ้านเก่าถึงสามวัน สามคืนจึงหมดลิงทั้งหลายพากันออกเดินทางตามคำสั่งของพญาวานรพญาวานรจึงตามรั้งท้ายระวังภัยให้ขบวน“เอาหล่ะ พวกเราเดินทางกันได้แล้ว จงรักษาวินัยกันเอาไว้ เราจะตามไปเป็นตัวสุดท้ายเอง” บริวารทุกตัวมีวินัยและความอดทนเป็นเลิศ
แม้ในยามค่ำคืนก็ไม่ได้พักผ่อน สู้ออกสูดดมไอชุ่มชื้น แล้วสะกดรอยตามกลิ่นไอน้ำไปไม่ย่อท้อ “เหนื่อยจัง เมื่อไหร่จะถึงแหล่งน้ำแหล่งอาหารที่ใหม่ของเราซะที”
ลิงกลุ่มแรกเดินทางมาถึงบึงใหญ่ตามที่พญาวานรได้บอกให้รู้ไว้ล่วงหน้า“อดทนไว้ก่อนเถิด เจ้าลองสูดกลิ่นไอน้ำดูสิ ข้าว่าอยู่ไม่ไกลหรอก เจี๊ยกๆๆๆ” เหล่าวานรเดินทางกันทั้งวันทั้งคืน จนลุเข้าอีกวัน กลางแสงตะวันที่เผาจนขนแทบไหม้เกรียมนั้น หน่วยข่าว
แถวหน้าก็พบป่าและสระน้ำสมปรารถนา “เฮ้ย พวกเรา ดูนั่นซิ เราเจอสระน้ำแล้ว เฮ้ เจี๊ยกๆๆ” “จริงๆ ด้วย โอ้โห สระน้ำใสแจ๋วเลย” “ดีใจจังเลย ในที่สุดเราก็พบแหล่งที่อยู่ใหม่แล้ว”ลิงทั้งหลายไม่ยอมลงกินน้ำในบึงใหญ่ต่างพากันรอคอยการมาของพญาวานร“รีบแจ้งพญาวานรเร็วเข้าเถอะ พวกเรารอดกันแล้ว” ไม่ช้าโขดหินต้นไม้และพื้นหญ้ารอบสระน้ำกว้างใหญ่ที่ถูกค้นพบก็เต็มไปด้วยบริวารลิงที่ทยอยกันมาถึงเรื่อยๆ “โอ้โห พรรคพวกเรา
กำลังทยอยกันมาแล้ว อีกไม่ช้าพญาวานรก็คงเดินทางมาถึง” “ดูสิ พวกเรา น้ำใส น่ากินมากเลย เมื่อไหร่พญาวานรจะมาถึงซะทีน่า” “นั่นนะสินะ รอพญาวานรก่อนก็แล้วกันนะพวกเรา”
แม้จะเหนื่อยและหิวกระหายสักเพียงใด แต่เมื่อพญาวานรผู้นำฝูงยังมาไม่ถึง บริวารทุกตัวก็ไม่อาจหาญลงดื่มกินน้ำในสระได้ภายในบึงใหญ่มีอสูรน้ำตนหนึ่งอาศัยอยู่“พวกเราใจเย็นไว้ รอพญาวานรก่อน อย่าเผลอแอบกินน้ำก่อนล่ะ เจี๊ยกๆๆๆๆ” “รู้แล้วล่ะน่า พวกเราเป็นวานรที่มีกฎ มีระเบียบ ไม่ทำอย่างนั้นหรอก” จนอาทิตย์อัศดงลงไปก็ยังไม่มีวานร
ตัวไหนละเมิดกฎกติกาของฝูง วานรทุกตัวรอคอยหัวหน้าอย่างอดทนริมสระน้ำนั้น ซึ่งนั้นเป็นการดีที่สุดสำหรับฝูงลิง “เมื่อไหร่หัวหน้าเราจะมาสักทีล่ะ เย็นแล้วนะ” “อดทนไว้เถอะ อย่างไรก็
ต้องรอก่อน เจี๊ยกๆๆๆ” ในก้นสระอันลึกล้ำนี้ ยังมีอสูรน้ำตนหนึ่งอาศัยและยึดถือว่าพญาวานรมาถึงบึงใหญ่ก็พิจารณาสิ่งแวดล้อมรอบบริเวณด้วยความระมัดระวังน้ำทุกหยดในสระเป็นของตน มันตั้งกฎว่า ใครก็ตามหากย่างก้าวเข้ามาในสระก็จะถูกลงโทษ แม้เหล่าวานรจะไม่รู้ถึงภัยที่มีก้นสระ แต่ฝูงลิงก็ไม่ประมาทยังรักษาวินัยรอพญาวานร
แม้จะหิวกระหายเพียงใดก็ตาม “โอ้ย พวกมันรออะไรอยู่เนี่ย ลงมาให้ข้าลงโทษบ้างสิ หิว อยากกินลิง ลงมากันซะทีสิ พวกเจ้าหนะ หิวกระหายอยู่มิใช่เรอะ ลงมากินน้ำในสระนี่สิ
ข้าจะได้กินพวกเจ้าซะเลย ฮ่าๆๆๆ”พญาวานรได้พูดคุยกับอสูรน้ำในบึงใหญ่นั้นคืนนั้นผ่านไปก็ยังไม่มีใครละเมิดกฎของฝูง จนแสงแรกของอรุณวันใหม่เบิกฟ้า พญาวานรก็นำบริวารที่ยังหลงเหลือไว้ เดินทางมาถึง “นั่น! เพื่อนๆ พวกเราขบวนสุดท้ายมาถึงแล้ว”
“พญาวานรมาแล้วพวกเรา เจี๊ยกๆๆๆ” “โอ้โห ดีใจจังเลย พวกเรามากันครบแล้วน่ะซิ” วานรใหญ่ซึ่งนำฝูงมานาน ก็มีญาณบารมีซึ่งสั่งสมมาแต่อดีตชาติ เพราะบำเพ็ญความดีไว้ทุกชาติ
จึงเฉลียวฉลาดไม่ประมาทต่อเหตุการณ์ “โอ้ สระน้ำนี่ ดูลึกลับจริงๆพญาวานรตั้งสัตยาอธิษฐานให้ต้นอ้อไม่มีข้อปล้องมีรอยเท้าสัตว์ต่างๆ เฉพาะแต่ที่เดินลงไปในสระเท่านั้น แล้วทำไมน่า ถึงไม่มีรอยเท้าเดินขึ้นมาจากสระเลยล่ะ” พญาวานรเห็นภัยร้ายที่อยู่ก้นสระ จึงนึกชมเชยบริวารที่เชื่อฟัง
ไม่เห็นแก่ความหิวโหยลงไปดื่มกินน้ำเหมือนสัตว์อื่นๆ “ดีนะ ที่บริวารของเราทุกตัวอยู่ในวินัย ไม่เช่นนั้นหากเผลอลงไปกินน้ำในสระ ต้องเกิดอันตรายขึ้นแน่ๆ” เมื่อใช้สติพิจารณา
ถี่ถ้วนแล้ว พญาวานรใหญ่ก็หัวเราะลงไปในสระนั้นพญาวานรให้บริวารของตนนำต้ออ้อมาทำเป็นหลอดดูดน้ำในบึงใหญ่“ฮ่ะๆๆ เรารู้ว่าในสระน้ำนี้ มีอสูรคอยกินเนื้อผู้อื่นอยู่ จงปรากฏตัวมาคุยกันเถอะ” อสูรตัวเขียวโกรธเกรี้ยวที่มีผู้รู้ทัน จึงผงาดขึ้นมาขู่คำรามว่า “ชะช้า รู้แล้วเป็นไงจะรอจนหิวตาย
ก็ตามใจเจ้า แต่อย่าเผลอก้าวลงน้ำเชียวนะ ไม่งั้น เราจะจับกินให้หมดฝูงเลย หึๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ” พญาวานรใช้สติปัญญาดื่มกินน้ำโดยไม่ต้องงลงไปในสระ เมื่อสังเกตเห็นว่ารอบๆ สระน้ำ
มีต้นอ้อขึ้นอยู่มากมาย จึงตั้งสัตยาอธิษฐานเอาบุญบารมีที่สะสมไว้เป็นปัจจัยบรรดาฝูงลิงทั้งหลายพากันดื่มกินน้ำในบึงโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ“ขอให้ข้อปล้องทุกปล้องทุกลำในสระน้ำนี้จางหายไป ให้สามารถใช้ดูดน้ำดื่มกินได้บัดนี้เถิด” อัศจรรย์ของแรงอธิษฐานแห่งบุญบารมีย่อมมีผลเสมอ ต้นอ้อในป่านฬปานกาลนั้น
ก็พลันไร้ข้อกั้นเป็นปล้องรอยต่อในบัดดล บริวารซึ่งเป็นเสมือนหัวหน้าหน่วยกล้าหาญก็เข้าไปดึงและหักต้นอ้อมาจากขอบสระเอามาแจกจ่ายกันในฝูง “เจ้าที่ตัวเล็กๆ ก็เหยียบตอ
ต้นอ้อเข้าไปเก็บมา แต่อย่าให้เท้าแตะผิวน้ำเชียวล่ะ”อสูรน้ำได้น้อมใจรับฟังคำสั่งสอนอบรมของพญาวานร“เจี๊ยกๆๆ ช่วยกันเก็บเข้าพวกเรา จะได้ดูดกินน้ำกันให้ชุ่มฉ่ำไปเลย” “อืม น่ากลัวจริงๆ ดีนะเนี่ย ที่พวกเราไม่มีใครลงไปกินน้ำนั่นก่อน ไม่งั้นโดนกินแน่นอน”อสูรน้ำเมื่อเห็นว่าเหล่าวานร
ได้ดื่มกินน้ำในสระ โดยไม่ต้องลงไปในสระ ก็เกิดความโกรธ “ฮ่ะ อย่าพลาดตกลงมาในสระก็แล้วกัน แม้เพียงปลายขนแตะโดนน้ำนิดเดียวจะจับกินให้หมดฝูงเลย” “เห็นหรือยังล่ะอสูรเอ่ย
บริวารของเราหนะ กินน้ำในสระได้โดยไม่ละเมิดกฎของเจ้าเลยสักตัวเดียว เหอะๆๆ น้ำในสระนี้ฝูงลิงได้อาศัยอยู่ในป่านฬปานอย่างมีความสุขช่างเย็นชื่นใจจริงๆ นะ พวกเรา” อสูรน้ำโกรธแค้นที่ไม่อาจจับผู้บุกรุกกินตามกฎได้ เพราะลิงทุกตัวมิได้ลงในสระน้ำนั่นเอง “ดู ดู้ ดู มันทำ หึ หัวหน้ามันฉลาดอย่างนี้นี่เอง พวงลิง
จึงทนหิว รออยู่ทั้งคืนได้ อดเลยเรา” “อืม ชื่นใจจริงๆ พวกเราปักหลักหากินกันในป่านี่เถอะนะ” “ใช่ๆๆ ข้าก็อยากอยู่ที่นี่เหมือนกัน มีทั้งน้ำและผลไม้เต็มไปหมดเลย” “ดีนะ ที่หัวหน้าเรา
ทั้งเก่งทั้งฉลาดพวกเราก็เลยสบายไร้ภัยอันตราย เจี๊ยๆๆๆ” อสูรน้ำได้แต่เฝ้ามองความเป็นอยู่ฝูงลิงอย่างสงบ นับแต่นั้นมานานวันเข้าก็นึกชื่นชมและน้อมใจรับคำสั่งสอนที่พญาลิงอบรม
บริวารจนสิ้นอายุขัยไปเกิดในภพภูมิใหม่ของตน “พญาวานรนี่ น่านับถือจริงๆ ดูสิ วานรทุกตัวอยู่ในโอวาทหมด ไม่มีตัวไหนที่ทำผิดวินัยเลย” พญาวานรจึงอาศัยป่าใหญ่บึงกว้าง ปกครอง
ดูแลบริวารอย่างยุติธรรมสืบต่อมา
สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ต้นอ้อในสระนฬปานมีรูกลวงตลอดก็เพราะแรงอธิษฐานในครั้งนั้นนั่นเองในพุทธกาลสมัยอสูรน้ำกำเนิดเป็น พระเทวทัตวานรบริวารกำเนิดเป็น พุทธบริษัทพญาวานร เสวยพระชาติเป็นพระพทธเจ้า
![](https://www.dmc.tv/qrcode/cache/qr-code-200-18950.png)
http://goo.gl/PPUX8l