มหธัมมปาลชาดก ชาดกว่าด้วยตระกูลที่ไม่ตายวัยหนุ่ม

“ มหาบพิตรในบัดนี้พระองค์จะทรงเชื่อได้อย่างไร แม้ในครั้งก่อน ครั้งหม่อมฉันเกิดเป็นมหธัมมปาลกุมาร เมื่ออาจารย์ทิศาปาโกเอากระดูกแพะมาแสดง บอกว่าบุตรของท่านตายเสียแล้ว นี่กระดูกบุตรของท่าน พระองค์ก็มิได้ทรงเชื่อ กล่าวกับอาจารย์ว่า ในตระกูลของเรานี้จักตายตอนกำลังหนุ่มนั้นเป็นไม่มี ก็เหตุไรในบัดนี้ พระองค์จักทรงเชื่อเล่า ” https://dmc.tv/a24246

บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ
[ 21 พ.ย. 2561 ] - [ ผู้อ่าน : 18282 ]

ชาดก 500 ชาติ

มหธัมมปาลชาดก-ชาดกว่าด้วยตระกูลที่ไม่ตายวัยหนุ่ม

นิโครธาราม กรุงกบิลพัสดุ์

นิโครธาราม กรุงกบิลพัสดุ์
  
     เมื่อครั้งพุทธกาลสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ นิโครธารามกรุงกบิลพัสดุ์ ทรงปรารภถึงความไม่ทรงเชื่อของพระพุทธบิดาในพระราชนิเวศน์ไว้ดังนี้
ครั้งนั้นพระเจ้าสุทโธทนะมหาราชพระพุทธบิดาได้ถวายข้าวยาคูและของเคี้ยวแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยภิกษุบริวารสองหมื่นรูปในพระราชนิเวศน์ของพระองค์
 
พระเจ้าสุทโธทนะถวายข้าวยาคูแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
พระเจ้าสุทโธทนะถวายข้าวยาคูแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
     ถวายภัตตาหารเสร็จจึงได้เล่าให้พระพุทธองค์ฟังว่า “ เมื่อตอนที่พระองค์ทำความเพียรอยู่ มีหมู่เทวดามายืนอยู่ในอากาศ บอกแก่หม่อมฉันว่า พระองค์
สิ้นพระชนม์เสียแล้ว เพราะเสวยพระกระยาหารน้อยเกินไป ” “ มหาบพิตร พระองค์ทรงเชื่อหรือ ”
 
พระเจ้าสุทโธทนะทรงตรัสเล่าถึงการเห็นเทวดาลงมาหาตนต่อพระสัมามาสัมพุทธเจ้า
 
พระเจ้าสุทโธทนะทรงตรัสเล่าถึงการเห็นเทวดาลงมาหาตนต่อพระสัมามาสัมพุทธเจ้า
 
     “ หม่อมฉันไม่อยากเชื่อหรอก ยังห้ามเทวดาเสียอีกว่า พระโอรสของเรายังไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้าที่โคนต้นโพธิ์แล้ว จะยังไม่ปรินิพพานเป็นแน่ ” “ มหาบพิตร
ในบัดนี้พระองค์จะทรงเชื่อได้อย่างไร
 
เทวดาบอกพระเจ้าสุทโธทนะว่าเจ้าชายสิทธัตถะทรงสิ้นพระชนม์แล้ว
 
เทวดาบอกพระเจ้าสุทโธทนะว่าเจ้าชายสิทธัตถะทรงสิ้นพระชนม์แล้ว
 
     แม้ในครั้งก่อน ครั้งหม่อมฉันเกิดเป็นมหธัมมปาลกุมาร เมื่ออาจารย์ทิศาปาโกเอากระดูกแพะมาแสดง บอกว่าบุตรของท่านตายเสียแล้ว นี่กระดูกบุตรของท่าน
พระองค์ก็มิได้ทรงเชื่อ กล่าวกับอาจารย์ว่า ในตระกูลของเรานี้จักตายตอนกำลังหนุ่มนั้นเป็นไม่มี ก็เหตุไรในบัดนี้ พระองค์จักทรงเชื่อเล่า ”  
 
พระเจ้าสุทโธทนะไม่ทรงเชื่อใน<a href=http://www.dmc.tv/articles/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2.html title='ข่าว' target=_blank><font color=#333333>ข่าว</font></a>ที่ว่าเจ้าชายสิทธัตถะสิ้นพระชนม์แล้ว
 
พระเจ้าสุทโธทนะไม่ทรงเชื่อในข่าวที่ว่าเจ้าชายสิทธัตถะสิ้นพระชนม์แล้ว
 
     เมื่อฟังดังนั้น พระเจ้าสุโทนะมหาราชจึงทูลอาราธนาพระองค์ให้ทรงตรัสเรื่องราว พระมหาสมณะโคดมจึงทรงนำเรื่องในอดีตมาสาทกดังนี้ ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัต
ครองราชสมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี มีตระกูลพราหมณ์ตระกูลหนึ่งชื่อว่า ธัมมปาล พราหมณ์ในตระกูลนี้ล้วนรักษาธรรมกุศลกรรมบถ 10

พระนครพารณสีในการปกครองของพระเจ้าพรหมทัต
 
พระนครพารณสีในการปกครองของพระเจ้าพรหมทัต
 
     แม้กระทั่งทาสคนรับใช้ก็ยังให้ทานรักษาศีลอุโบสถเป็นประจำมิได้ขาด ครั้งนั้นพระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลนี้มีนามว่า ธัมมปาลกุมาร ครั้นเจริญวัยแล้ว
บิดาได้ส่งไปเรียนศิลปะ ณ เมืองตักศิลา “ จงตั้งใจเรียน นำวิชชาความรู้มาพัฒนาตระกูลของเรานะลูก ” “ ขอรับท่านพ่อ ข้าจะตั้งใจเรียน ”

ตระกูลพราหมณ์ที่รักษาอุโบศลศีลเป็นประจำมิได้อย่างขาดตลอดต่อเนื่องมายาวนาน
 
ตระกูลพราหมณ์ที่รักษาอุโบศลศีลเป็นประจำมิได้อย่างขาดตลอดต่อเนื่องมายาวนาน
 
     ธัมมปาลกุมารได้เรียนกับอาจารย์ทิศาปาโมกด้วยความเฉลียวฉลาด อาจารย์จึงให้เป็นหัวหน้าดูแลเพื่อนมานพห้าร้อยคนที่เรียนมาด้วยกัน “ ข้าขอมอบหมาย
ให้ธัมมปาลกุมารเป็นหัวหน้าดูแลพวกเจ้าทั้งหลาย ” 
 
พระโพธิสัตว์ทรงกำเนิดในตระกูลพราหมณ์ มีชื่อว่า ธัมมปาลกุมาร
 
พระโพธิสัตว์ทรงกำเนิดในตระกูลพราหมณ์ มีชื่อว่า ธัมมปาลกุมาร
     
     วันหนึ่งลูกชายคนโตของอาจารย์ได้เสียชีวิตลง อาจารย์และญาติรวมถึงลูกศิษย์คนอื่นๆ ต่างพากันร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเสียใจ “ โธ่ ลูกพ่อ ทำไมๆ
เจ้าจากพ่อไปเร็วนัก ลูกพ่อ ” “ ท่านอาจารย์ หักห้ามใจเถิด ”
 
ธัมมปาลกุมารเป็นผูีที่มีความเฉลียวฉลาดเป็นอย่างยิ่ง
 
ธัมมปาลกุมารเป็นผูีที่มีความเฉลียวฉลาดเป็นอย่างยิ่ง
 
     ขณะที่คนอื่นๆ ต่างร้องไห้คร่ำครวญอยู่นั้น มีเพียงธัมมปาลกุมารเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ร้องไห้หรือคร่ำครวญแต่อย่างใด เมื่อกลับจากป่าช้าบรรดาลูกศิษย์
ต่างพากันนั่งสนทนาถึงเรื่องการตายของลูกชายอาจารย์ “ น่าเสียดาย คนดีมีมารยาทแบบลูกชายของท่านอาจารย์จริงๆ ”
 
โพธิกุมารเป็นเด็กที่มีความน่ารัก เฉลียวฉลาด และเป็นที่รักของทุกคน
 
โพธิกุมารเป็นเด็กที่มีความน่ารัก เฉลียวฉลาด และเป็นที่รักของทุกคน
 
     “ นั่นนะสิ ยังหนุ่มยังแน่นแท้ๆ เลย ” “ พวกเจ้าดูธัมมปาลกุมารสิ ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยรึ ” ธัมมปาลกุมารที่นึกสงสัยถึงการตายตั้งแต่ยังหนุ่มของลูกชายอาจารย์
จึงได้ถามเพื่อนๆ ว่า “ เพื่อนเอ๋ย ที่ว่าพากท่านตายตั้งแต่ยังหนุ่มนั้น เพราะเหตุใดรึ คนหนุ่มไม่ควรตายไม่ใช่หรือ ”
 
พราหมณ์บิดาได้ส่งธัมมปาลกุมารมาเรียนที่สำนักอาจารย์ทิศาปาโมก
 
พราหมณ์บิดาได้ส่งธัมมปาลกุมารมาเรียนที่สำนักอาจารย์ทิศาปาโมก
  
     “ นี่ท่านไม่รู้จักความตายหรอกรึ” “ เรารู้สิ แต่เราไม่เคยเห็นคนหนุ่มตายเลยสักครั้ง ” “ สังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยงจะหนุ่มหรือจะแก่ ก็ตายได้ทั้งนั้นแหละ ”
“ แต่ที่บ้านข้า มีเพียงคนแก่เท่านั้นที่ตาย ”  “ ที่บ้านท่าน ไม่เคยมีคนที่ตายตั้งแต่ยังหนุ่มเลยรึ ” “ ใช่แล้ว ตระกูลข้าไม่เคยมี ”
 
บุตรชายคนโตของอาจารย์ทิศาปาโมกได้เสียชีวิตในขณะที่ยังเป็นหนุ่ม    

บุตรชายคนโตของอาจารย์ทิศาปาโมกได้เสียชีวิตในขณะที่ยังเป็นหนุ่ม
 
     “ มันจะเป็นไปได้อย่างไร ธัมมปาลกุมาลมุสาแน่ๆ ” มานพทั้งหลายได้ฟังถ้อยคำของปาลกุมารแล้ว จึงพากันบอกแก่อาจารย์ “ ท่านอาจารย์ธัมมปาลกุมาร
บอกแก่พวกเราว่า ที่ตระกูลของเขาไม่มีคนหนุ่มตายเลย ” “ เป็นไปไม่ได้หรอก พวกเจ้าเข้าใจผิดไปหรือเปล่า ”
 
ธัมมปาลกุมารสงสัยในการตายในวัยหนุ่มของบุตรชายอาจารย์
 
ธัมมปาลกุมารสงสัยในการตายในวัยหนุ่มของบุตรชายอาจารย์
  
     “ จริงนะท่านอาจารย์ ไม่เชื่อท่านเรียกธัมมปาลกุมารมาถามดูสิ ” “ ถ้าอย่างนั้น พวกเจ้าจงไปช่วยตามธัมมปาลกุมารมาพบข้าสิ ” ด้วยความสงสัย อาจารย์ให้ศิษย์
ไปตามธัมมปาลกุมารมาเพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว “ ที่ว่าตระกูลของเจ้า คนไม่ตายกันตั้งแต่ยังหนุ่มน่ะ เป็นเรื่องจริงรึ ”
 
ตระกูลของธัมมปาลกุมารไม่เคยมีใครตายตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาว
 
ตระกูลของธัมมปาลกุมารไม่เคยมีใครตายตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาว
 
      “ จริงขอรับท่านอาจารย์ ตระกูลของข้า มีเพียงคนแก่เท่านั้นที่ตาย ” “ นี่มันเป็นเรื่องจริงรึ ดีล่ะ ข้าต้องไปถามบิดาของธัมมปาลกุมารดูแล้วล่ะ ถ้าเป็นจริง
เราจะบำเพ็ญธรรมเช่นนั้นบ้าง ”
 
บรรดาศิษย์ได้นำเรื่องการตายของตระกูลธัมมปาลกุมารมาเล่าให้อาจารย์ฟัง
 
บรรดาศิษย์ได้นำเรื่องการตายของตระกูลธัมมปาลกุมารมาเล่าให้อาจารย์ฟัง
 
    ครั้นทำพิธีศพลูกชายเสร็จ อาจารย์จึงได้มอบหมายให้ธัมมปาลกุมารดูแลสำนักและสั่งสอนลูกศิษย์แทนตนก่อนออกเดินทางไปพบกับบิดาของธัมมปาลกุมาร
“ ข้าจะออกไปทำธุระต่างเมืองสักระยะ เจ้าจงดูแลสำนักแทนข้าด้วยน่ะ ” 
 
อาจารย์ได้เรียกธัมมปาลกุมารมาสอบถามเรื่องการตายของคนในตระกูลของเขา
 
อาจารย์ได้เรียกธัมมปาลกุมารมาสอบถามเรื่องการตายของคนในตระกูลของเขา
 
        “ ขอรับ ท่านอาจารย์ ” จากนั้นอาจารย์ได้สั่งให้ลูกศิษย์เก็บกระดูกแพะตัวหนึ่งมาล้างเอาใส่กระสอบ ให้คนรับใช้ถือตามไปยังบ้านของธัมมปาลกุมาร
“ ท่านพ่อค้า ท่านรู้จักบ้านตระกูลธัมมปาลบ้างหรือไม่ ”
 
อาจารย์ได้มอบหมายให้ธัมมปาลกุมารดูแลสำนักแทนตน
 
อาจารย์ได้มอบหมายให้ธัมมปาลกุมารดูแลสำนักแทนตน
 
       “ แน่นอน ตระกูลนี้เป็นที่รู้จักกันว่า รักษากรรมกุศลกรรมบถ 10 ใครๆ ก็รู้จัก ” “ ดีล่ะ ถ้าอย่างนั้น ท่านช่วยบอกทางให้ข้าหน่อยแล้วกัน ” 
เมื่อเดินทางมาถึงบ้านของธัมมปาลกุมาร อาจารย์จึงบอกให้บ่าวไพร่แจ้งแก่บิดาพราหมณ์ของธัมมปาลกุมาลถึงการมาของตน
 
อาจารย์ทิศาปาโมกได้เดินทางไปยังบ้านของธัมมปาลกุมาร
 
อาจารย์ทิศาปาโมกได้เดินทางไปยังบ้านของธัมมปาลกุมาร
 
      “ พวกท่านจงไปบอกบิดาของธัมมปาลกุมารว่าอาจารย์ของบุตรท่านมาขอพบ ” พราหมณ์บิดาของธัมมปาลกุมารได้เชื้อเชิญอาจารย์ทิศาปาโมกเข้ามาในบ้าน
และให้บริวารนำอาหารและเครื่องดื่มมาต้อนรับ

อาจารย์ทิศาปาโมกได้แจ้งบ่าวไพร่ถึงการมาพบพราหมณ์บิดาของธัมมปาลกุมาร
 
อาจารย์ทิศาปาโมกได้แจ้งบ่าวไพร่ถึงการมาพบพราหมณ์บิดาของธัมมปาลกุมาร
 
        “ ท่านคงเดินทางมาเหนื่อยๆ เชิญกิน ดื่มกันตามสบายนะ ” “ ขอบใจท่านมาก ” เมื่ออาจารย์บริโภคอาหารแล้ว ทั้งสองจึงได้เริ่มสนทนากัน “ ท่านอาจารย์ ธัมมปาลกุมาร
ลูกข้าตอนนี้เขาสบายดีหรือเปล่า ” “ ธัมมปาลกุมารบุตรของท่านเป็นคนมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด แต่เสียดายที่เขาต้องมาตายด้วยโรคอย่างหนึ่ง ท่านอย่าได้เศร้าโศกไปเลย ”
 
อาจารย์ทิศาปาโมกได้รับประทานอาหารก่อนที่จะมีการพูดคุยกับพราหมณ์บิดาของธัมมปาลกุมาร
 
อาจารย์ทิศาปาโมกได้รับประทานอาหารก่อนที่จะมีการพูดคุยกับพราหมณ์บิดาของธัมมปาลกุมาร
 
         พราหมณ์พอฟังจบ ก็ตบมือหัวเราะดังลั่น “ ท่านพราหมณ์ ท่านหัวเราะทำไม ” “ ฮ่าๆๆ บุตรของข้ายังไม่ตาย ที่ตายหน่ะ เป็นผู้อื่น ” อาจารย์ได้เอากระดูกแพะ
ที่นำมาด้วยยื่นให้แก่พราหมณ์เพื่อยืนยันตามที่ตนกล่าวมา “ บุตรของท่านตายแล้วจริงๆ ข้าได้เอาเถ้ากระดูกของเขามาด้วย ดูสิ ” “ เฮอะๆๆ นี่คงเป็นกระดูกแพะ
หรือกระดูกสุนัข ลูกข้าหน่ะ ยังไม่ตาย ”

พราหมณ์หัวเราะชอบใจเพราะไม่เชื่อในข่าวการตายของธัมมปาลกุมาร
 
พราหมณ์หัวเราะชอบใจเพราะไม่เชื่อในข่าวการตายของธัมมปาลกุมาร
 
      “ เพราะอะไรท่านถึงไม่เชื่อที่ข้าบอกล่ะ ” “ เพราะในตระกูลเจ็ดชั่วโคตรของเรามาแล้ว ที่ไม่เคยมีใครตายมาตั้งแต่ยังหนุ่มเลย ท่านพูดปดแน่ๆ ” คนในตระกูลธัมมปาล
ต่างหัวเราะเฮฮา ถือเป็นเรื่องตลกไป สร้างความประหลาดใจแก่อาจารย์เป็นอย่างยิ่ง “ ที่ท่านพูดมา เป็นเรื่องจริงรึ ” “ จริงสิ ข้าและคนในตระกูลข้า ไม่เคยพูดปด ”
“ เพราะเหตุใด พราหมณ์ตระกูลของท่านจึงไม่มีคนตายในวัยหนุ่มล่ะ ”
 
อาจารย์ทิศาปาโมกนำกระดูกมายืนยันการตายของธัมมปาลกุมาร
 
อาจารย์ทิศาปาโมกนำกระดูกมายืนยันการตายของธัมมปาลกุมาร
 
        พราหมณ์บิดาของธัมมปาลกุมาร ได้อธิบายถึงสาเหตุที่คนในตระกูลของตนไม่มีผู้ใดตายตั้งแต่ยังหนุ่ม “ พวกเราประพฤติธรรม ไม่พูดมุสา งดเว้นกรรมชั่ว ฟังธรรมของสัตบุรุษ
ละธรรมอสัตบุรุต ก่อนให้ทานพวกเราตั้งใจดี แม้กำลังให้ก็มีใจเบิกบาน เมื่อให้แล้วก็ไม่เดือดร้อนภายหลัง พวกเราเลี้ยงดูสมณะ คนเดินทางไกล วนิพก ยาจก คนขัดสนให้อิ่ม
พวกเราไม่นอกใจสามีภรรยา งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ผู้อื่น
 
อาจารย์ทิศาปาโมกได้ขอขมาบิดาของธัมมปาลกุมารในเรื่องที่ตนได้โกหก
 
อาจารย์ทิศาปาโมกได้ขอขมาบิดาของธัมมปาลกุมารในเรื่องที่ตนได้โกหก
 
        ไม่ดื่มของเมา บุตร มารดาบิดา พี่น้องสามีภรรยา ทาส คนรับใช้ ก็ล้วนแต่ประพฤติธรรม มุ่งประโยชน์ในโลกหน้า เพราะประพฤติธรรมอย่างนี้แหละ คนหนุ่มของพวกเรา
จึงไม่ตาย ธัมมปาลบุตรของเรามีธรรมคุ้มครอง กระดูกที่ท่านนำมานี้ เป็นกระดูกสัตว์อื่น ลูกของเรายังไม่ตายหรอก ” อาจารย์ฟังจบแล้วขอขมาพราหมณ์ แล้วกล่าวว่า
“ ท่านพราหมณ์ ข้าต้องขอโทษท่านด้วย ” “ นี่เป็นกระดูกแพะ ข้านำมาเพื่อที่จะทดสอบใจท่าน ตอนนี้บุตรชายของท่านสบายดี ”
 
เมื่อจบสัจจะพระเจ้าสุทโธทนะได้บรรลุอานาคามิผล
 
เมื่อจบสัจจะพระเจ้าสุทโธทนะได้บรรลุอานาคามิผล
 
      อาจารย์ได้พักอยู่ที่นั่นต่ออีกสองสามวันจึงกลับเมืองตักศิลา ให้ธัมมปลากุมารศึกษาวิทยาจบแล้วส่งตัวกลับคืนบ้าน พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดง
แก่พระเจ้าสุทโธทนะมหาราชแล้วประกาศสัจธรรม ในเวลาจบสัจจะพระเจ้าสุทโธทนะมหาราชได้บรรลุอนาคามิผล พระทศพลทรงประชุมชาดกว่า
 
 

มารดาบิดาในครั้งนั้น ได้มาเป็น พุทธมารดาพุทธบิดาในบัดนี้
อาจารย์ในครั้งนั้น ได้มาเป็น พระสารีบุตรในบัดนี้
บริษัทในครั้งนั้น ได้มาเป็น พุทธบริษัทในบัดนี้


รับชมคลิปวิดีโอมหาธัมมปาลชาดก
ชมวิดีโอมหาธัมมปาลชาดก   Download ธรรมะมหาธัมมปาลชาดก
 
 
 




พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง
      เกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
      ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
      ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
      ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
      มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
      ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
      สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
      สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
      อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
      สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
      สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
      อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ