ชาดก 500 ชาติ
วลาหกัสสชาดก-ว่าด้วยความสวัสดี
เรือสำเภาของนายพ่อค้าวาณิชได้ล่องผ่านท้องทะเลเพื่อไปค้าขายตามเมืองต่างๆครั้งหนึ่งพระพุทธศาสดาทรงตรัสพระธรรมเทศนาขึ้นอรรถคาถาหนึ่ง ขึ้นต้นว่า เยนะ กาหันติ โอวาทัง เหตุเพราะมีภิกษุรูปหนึ่งกระสันด้วยอำนาจกิเลสความงามของอิสตรี
อำนาจนั้นเกาะกุมจิตใจจนก่อกิเลสจนแทบจะลาสิกขาบทออกไป “ความงามของน้องหญิงตราตรึงใจพี่ยิ่งนักภิกษุผู้ตกอยู่ภายใต้อำนาจกิเลสความงามของสตรีถึงจะครองเพศบรรพชิตต่อไปก็คงจะไม่บรรลุธรรมเป็นแน่ เราควรจะสึกเสียเถิด” ครั้งนั้นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสเตือนสติภิกษุว่า “ดูก่อนภิกษุ รูปรส กลิ่นเสียง อันหญิงปรุงแต่งนั้น แม้ชายตกอยู่ในอำนาจแล้วไซร้จะถึงพินาศ พินาศแห่งศีลและขนบประเพณีดังนี้เคยเกิดมาแล้วในอดีตพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสเตือนภิกษุผู้ตกอยู่ในอำนาจความงามของสตรีด้วยว่าเหล่ายักษิณีที่มีอำนาจแปลงกายกระทำต่อพ่อค้าสำเภาอับปางทั้งหลายดุจกันกับหญิงงามกระทำต่อภิกษุของเราเวลานี้” พระองค์ทรงมีกรุณาธิคุณเข้าสู่บุพเพนิวาสนุสติญาณรำลึกพระชาติเก่าแล้วตรัสเล่า วลาหกัสสชาดกดังนี้เมืองยักษ์สิริสวัตถุตั้งอยู่บนเกาะ ตามพปัณณิกลางห้วงมหาสมุทรในครั้งโน้นยังมีเกาะตามพปัณณิเป็นแผ่นดินลอยน้ำอันมีเมืองยักษ์ชื่อ สิริสวัตถุ ตั้งอยู่ เมืองนี้เป็นเมืองแม่หม้าย ผู้อาศัยในเมืองทั้งหมดล้วนเป็นนางยักษิณีที่อาศัยกินเนื้อมนุษย์ที่พลัดหลงเข้ามาเพราะเรือแตกพวกลูกเรือหนีตายจากเรืออำปาง“โอ้ นั่นไง มาโน่นแล้ว พวกผู้ชายที่หนีตายจากเรือแตก ว่ายน้ำขึ้นฝั่งทางโน้นมากันแล้ว น้องๆ ดูสิจ๊ะ อาหารอันโอชะของพวกเราเนี่ยมาแล้วนะ ” “ดีเลยจ๊ะ น้องกำลังหิวพอดีผู้ชายไม่ได้ตกถึงท้องมาหลายวันแล้ว ครั้งนี้จะกินให้อิ่มหน่ำใจไปเลย ฮ่าๆๆ”บรรดานางยักษ์ทั้งหลายต่างพากันมารอเหยื่่อมนุษย์ที่หนีรอดมาจากเรืออับปางนี่เป็นกิจวัตรปกติของนางยักษ์เหล่านี้ที่ต้องวนเวียนอยู่ชายฝั่งสมุทรหาเหยื่อมนุษย์แล้วลวงไปเสพกามคุณปรนเปรอให้อ้วน โดยพวงนางจะรีบแปลงกายเป็นสตรีงดงามแต่งจริตมารยาให้เหยื่อตายใจเป็นขั้นต้น “ทางนี้จ้าๆ พี่ๆ เชิญมาทางนี้เลยนะจ๊ะ น้องๆ เค้ารอพี่อยู่”เหล่านางยักษ์ได้แปลงกายเป็นสาวสวยคอยบอกทางขึ้นฝั่งกับพวกลูกเรือทั้งหลาย“มาทางนี้สิจ๊ะ น้องๆ ได้เตรียมข้าวปลาอาหารไว้ให้พี่แล้ว โธ่ คงทั้งเหนื่อยทั้งหิวกันเลยสิจ๊ะเนี่ย มาทางนี้เลยจ้า” อันกิเลสตัณหากับบุรุษผู้ไร้ปัญญานั้นเปรียบกันไว้ว่า คือเปลวไฟกับแมงเม่า ชาววาณิชผู้สำเภาแตกทุกคณะก็ไม่เคยพ้นบ่วงมารดังว่านี้ยักษ์แปลงกายสาวสวยคอยต้อนรับและดูแลผู้ที่รอดชีวิตจากเรืออับปาง“โอ้โห แม่เจ้าโว๊ย สวยสุดๆ นางฟ้านางสวรรค์หรืออย่างไรกันละเนี่ย” “โห้ คอนสวาทหาดสวรรค์แท้ๆ รอดตายแล้วเรา สบายแล้วหญิงงามเพียบเลย” “มาสิจ๊ะ เร็วๆ เข้าสิจ๊ะ ของดีๆรอพวกพี่อยู่นะ” “เชิญท่านพี่ขึ้นจากน้ำไปยังที่พักของพวกน้องๆ เถิดจ๊ะ พวกเราน่ะ จะอดใจรอกินพวกท่านไม่ไหวแล้ว อุ๊ย ไม่ใช่ๆ อดใจที่จะรับใช้พวกพี่ไม่ไหวแล้วนะจ่ะ....เกือบไป”หัวหน้านายสำเภาได้ช่วยประคับประคองลูกเรือของตนจนถึงฝั่งอย่างปลอดภัยทุกครั้งทุกคราที่มีเรืออับปางใกล้เกาะตามพบัณณิแห่งนี้ ทุกคนที่เดินขึ้นมาจะไม่มีใครมีชีวิตกลับออกมาได้อีกเลย ครั้งหนึ่งมีเรือสำเภาล่มอีกลำพ่อค้าทุกคนพากันลอยคอข้ามทะเลลึกเข้ามาหาฝั่งตามกระแสกรรม “โอ๊ะ โอ้ย ช่วยข้าด้วย ลากข้าไปด้วย หมดแรงแล้ว โอ้ย นี่เรา จะมีชีวิตรอดอีกไหมนี่”นายสำเภาและลูกเรือมีชีวิตรอดมาจนถึงเมืองของพวกนางยักษ์“อดทนไว้ ข้าจะช่วยท่านเอง อึบ จับท่อนไม้ไว้เร็วเข้า” นายสำเภาเป็นวาณิชหนุ่มมีกำลัง เมื่อใกล้ฝั่งทะเลก็ส่งสัญญาณให้บริวารรู้ “น้ำทะเลอุ่นขึ้นเรื่อยๆ พวกเราจะได้ขึ้นฝั่งบนเกาะสักแห่งแล้ว อดทนไว้นะพวกเรา พวกเรารอดแล้ว เราจะได้เจอฝั่งแล้ว”พวกนางยักษ์ได้แปลงกายเป็นสาวสวยคอยต้อนรับบรรดาพ่อค้าเรืออับปางกลุ่มใหม่ที่เพิ่งมาถึงฝั่งเกาะแห่งเดียวในห้วงมหาสมุทรแห่งนี้ ก็คือเมืองยักษิณีซึ่งบัดนี้ได้เนรมิตกายใหม่จนดูเป็นมนุษย์ปกติ “จ่ะเอ๋เจ้าหนู ดูนี่เร้ว น่ารักจังเลย” “แหม ทำเป็นรักเด็กซะเหมือนเลยนะพี่เป็นนางงามสาวไทยหรือไงจ๊ะ รักเด็กน่ะ” “ฮะๆ อย่ามาแซวหน่อยเล้ย ต้องฝึกไว้ก่อน ผู้ชายเห็นจะได้ตายใจ ฮึๆๆ”หัวหน้านางยักษ์ได้ดูแลหัวหน้านายสำเภาเป็นอย่างดีการเย้ายวนเชื้อเชิญและบริการดูแลก็เกิดขึ้นอย่างที่เคยเป็น “พี่พักในห้องนี้ให้สบายนะจ๊ะ เดี๋ยวน้องจะดูแลพี่ให้หายเหนื่อยเอง อยู่กินที่นี่ให้สบายเถอะนะจ๊ะ ที่เกาะของเรามีอาหารอร่อยๆ ผลไม้รสดีเยอะแยะเลยนะจ๊ะพี่จ๋า มาเถอะจ๊ะ”บรรดาลูกเรือได้รับการดูแลเป็นอย่างดีหัวหน้านางยักษ์จำแลงกายเข้าจับจองหัวหน้านายสำเภาพ่อค้าผู้เป็นหัวหน้า เหล่าบริวารนางยักษิณีก็เข้าจองตัวบริวารพ่อค้า บำรุงบำเรอกันอย่างอุดมสมบูรณ์ “เป็นไงบ้างจ๊ะพี่รสชาติอาหารถูกปากพี่มั๊ยจ๊ะ” “รสชาติดีอย่าบอกใครเลยละจ๊ะ ขอบใจเจ้ามากน่ะ ที่ช่วยดูแลพวกเราอย่างดี”ทุกค่ำคืนมีดนตรีและระบำรำฟ้อนสุราอาหารอย่างดีมอบให้กับลูกเรือทุกคน“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ ที่เกาะนี้มีแต่พวกเรา พอพวกพี่ๆ มานะ ก็ทำให้พวกเรามีความสุขกันมาก พี่ลองดื่มนี่ซะหน่อย นะจ๊ะ” “จ้า รินมาเลยจ๊ะ มีความสุขจังเลยเรา” ทุกราตรีก็มีระบำรำฟ้อนและสุรายาเมามอบแก่เหล่าพ่อค้าจนสำลักความสุขหัวหน้าพ่อค้าเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของนางยักษ์จำแลงและทุกๆ คืนจะมีพ่อค้าหายไปจำนวนหนึ่ง พวกที่เหลือก็ไม่ได้เฉลียวใจแต่อย่างใด พวกเขามัวแต่เพลิดเพลินกับความสำราญที่เหล่ายักษ์หญิงมารยามอบให้ “อือหือ ยักย้ายส่ายสะโพกได้ใจจริงๆ นี่แหละสวรรค์ของเรา รู้งี้มาติดเกาะตั้งนานแล้วนะเนี่ย ฮ่ะๆ ๆ” (เอาเถอะ…เจ้าพวกโง่ทั้งหลาย กินกันเข้าไป จะได้อ้วนๆ น่ากิน)พระอรหันต์กัสสปะเพิกเฉยต่อเสียงของโยมมารดาเหตุเพราะไม่ต้องการให้มารดามีบาปข้อวิวรณ์จะมีเฉลียวใจอยู่ก็มีแต่นายสำเภาหัวหน้าพ่อค้าคนเดียวเท่านั้น เพราะค่อนรุ่งคืนหนึ่งนางยักษิณีที่เพิ่งกลับมาจากภายนอกมีอาการแปลกๆ (อึย อร่อยจริงๆ เลย
เนื้อคนเนี่ย มันหวานเกินกว่าเนื้อใดๆ จริงๆ เลยนะเนี่ย) “นี่น้องทำให้พี่ตื่นหรือจ๊ะเนี่ย
หัวหน้าพ่อค้าได้แจ้งให้ลูกเรือของตนทราบในข้อสงสัยของตนเกี่ยวกับนางยักษิณีมามะ มานอนกันต่อเถอะนะจ๊ะ” (แปลกจริงๆ เลย ทำไม่นางถึงได้ตัวเย็นเชียบขนาดนี้ เหมือนกับยักษ์ที่เพิ่งกินคนมาใหม่ๆ เอ๊ะ หรือว่าจะใช่ ว่าแล้วเชียวที่เกาะนี้มันมีอะไรแปลกนี่พรรคพวกของพวกเราก็หายไปที่ละคนสองคน ต้องใช่แน่ๆ เลย พวกนางต้องเป็นยักษ์แน่ๆ) ดังนั้นเมื่อนางยักษิณีออกไปจากที่พักในค่ำคืนต่อมา นายสำเภาก็เรียกประชุมบริวารเหล่านางยักษ์ได้เผยโฉมหน้าที่แท้จริงให้กับพวกลูกเรือที่หลงในความงามของพวกนาง“ฟังทางนี้ พวกเรากำลังตกอยู่ในอันตราย ผู้หญิงพวกนี้คือยักษ์แปลงกายมา รีบชักชวนกันหนีเร็วเข้าพวกเราต้องหนีไปก่อนที่พวกนางจะกลับมา เร็วเข้า” “ฮึย นายนี้ท่าจะบ้า หญิงงามขนาดนั้นจะเป็นยักษ์ได้อย่างไร หนีให้โง่เรอะ ที่นี่มันสวรรค์แท้ๆ” ครั้งนั้นมีบริวารอีกครึ่งหนึ่งไม่ยอมเชื่อฟัง เพราะยังหลงใหลจากความสุขจากนางยักษิณีพวกลูกเรือลูกถูกนำไปขังไว้ในถ้ำเพื่อเป็นอาหารของนางยักษิณีเหมือนบุตรที่ดื้อรั้นเป็นพวกหลงตัวเอง หลงในกิเลสที่รังจะพินาศวอดวายอย่างน่าเวทนา “เอาเถิด เราไม่สามารถที่จะบังคับใครให้เชื่อได้ แต่เมื่อไหร่ที่พวกท่านได้รู้
ความจริงด้วยตนเองก็ให้กลับไปรวมกันที่ชายฝั่งทะเลก็แล้วกัน” “เอาช้างมาลากก็ไม่ไปหรอก อยู่ที่นี่มีความสุขจะตาย พวกนางสวยๆ กันทุกคน เมียที่บ้านยังสู้ไม่ได้เลย”
ราตรีนั้นกลุ่มบริวารผู้หลงในกิเลสกามหามีใครหนีกลับออกไปกับนายสำเภาไม่
นางยักษ์ษีณีได้ทยอยกินมนุษย์ทีพวกตนได้กักขังไว้กว่าจะรู้ว่าหลงผิดติดบ่วงมาร ทุกสิ่งก็สายเกินแก้เสียแล้ว “นี่แหละจ๊ะ ตัวตนที่แท้จริงของพวกเรา เป็นไงจ๊ะ อึ้งไปเลยละสิ เจ้ามนุษย์เอ้ย เจ้าได้เป็นอาหารของเราแน่ๆ” “มามะ กลัวทำไมละจ๊ะจำน้องไม่ได้เหรอ มามะ เข้ามาสิจ๊ะ ถอยหนีกันทำไม มามะ คืนนี้พวกเราอิ่มกันมาแล้ว พวกท่านไม่ต้องเสียใจไป มื้อหน้าเป็นรอบพวกเจ้าแน่” นางยักษิณีเอาชายผู้หลงกิเลส อยากได้ อยากมีอยากครอบครองไปล่ามโซ่ขังไว้ในถ้ำรอกินเป็นอาหารม้าวลาหกได้มุ่งตรงมายังเกาะตามพปัณณิ“โอ้ ไม่น่าเชื่อ หญิงงามอย่างนั้น เป็นยักษ์จริงๆ รึเนี่ย ตายแล้วเรา” “ไม่น่าเลยเรา เราน่าจะหนีไปกับนายสำเภาตั้งแต่แรก โอ้ย ตายๆ ตาย แน่ๆ เลยเรา”แล้วราตรีแห่งความสยดสยองก็เริ่มขึ้นพ่อค้าผู้ติดในบ่วงกามทยอยตายลดจำนวนลงอย่างมากมาย “อ้าว ร้องกันเข้าไป เนื้อคนที่ตกใจสุดขีดนี่แหละมันหวานนัก อร่อย หวาน” “กระดูกอ่อนนี้มันเคี้ยวมันดีนัก ยิ่งตรงแขนนี่แหละอร่อยสายดายน่าจะอ้วนกว่านี้อีกหน่อย จะได้ติดมันนิดๆ”
ม้าวลาหกได้ให้พ่อค้าและลูกเรือทั้งหลายตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าจะทำแต่ความดีตลอดไปครั้งนั้นมีบริวารเชื่อคำเตือนที่พากันติดตามออกมารอยังฝั่งทะเลเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น พวกเขาต่างรอความหวังที่จะรอดชีวิตอย่างอดทน นายสำเภารู้ว่าเวลานี้จะมีพระโพธิสัตว์เสด็จมาช่วยมนุษย์จึงเฝ้าสวดมนต์อ้อนวอน “ด้วยความดีที่ได้ทำสั่งสมมาโปรดช่วยให้พวกเรารอดชีวิตกลับไปในครั้งนี้ด้วยเถิด” เมื่อถึงฤกษ์มงคลของมนุษย์โลกก็ปรากฏร่างวลาหกม้าเหิรหาวโฉบผ่านรัศมีจันทร์มุ่งมายังเกาะนางยักษิณีม้าวลาหกได้นำชาวเรือสำเภาทั้งหมดกลับคืนสู่ดินแดนมนุษย์วลาหก เป็นม้าวิเศษอันพำนักอยู่ในหิมพานต์เป็นม้าสงเคราะห์มนุษย์ผู้ตกทุกข์เพื่อสั่งสมบารมี เมื่อเหาะมาถึงเกาะตามพปัณณิก็ร่อนลงเพราะเมฆทิพย์อันเป็นยานบรรทุกช่วยเหลือ“เราคือพระยานอัศวราชวลาหก ให้ทุกคนจงตั้งจิตเป็นกุศลว่าจะทำแต่ความดีสืบไปแล้วเราจะช่วยพวกท่านให้พ้นจากอันตรายนี้” “เราขอตั้งสัตย์ปฏิญาณ ว่าจะทำแต่ความดีสืบไป”“ดีแล้ว พวกท่านจงเร่งขึ้นนั่งบนเมฆทิพย์นี้เถิด เราจะใช้ฤทธิ์เหาะพาพวกท่านไปยังดินแดนมนุษย์เดี๋ยวนี้” “พวกเรารอดแล้ว สาธุ” “รอดตายแล้วพวกเรา”พริบตาต่อมาชาวสำเภาผู้เชื่อในคำตักเตือนของผู้นำและม้าวลาหก ก็รอดพ้นหายนะจากเกาะยักษิณีสู่ดินแดนมนุษย์อย่างปลอดภัย
ในพุทธกาลสมัย บุรุษผู้พ้นหายนะ กำเนิดเป็น พุทธบริษัท
ม้าวลาหก เสวยพระชาติเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
![](https://www.dmc.tv/qrcode/cache/qr-code-200-19066.png)
http://goo.gl/j4eVbn