สีหจัมมชาดก ชาดกว่าด้วยลาห่มหนังสิงโต

พ่อค้าเจ้าเล่ห์เอาหนังสิงโตที่ตัวเองเก็บไว้ขายให้คหบดีอีกเมืองหนึ่งมาคลุมตัวลาของตน แล้วนำลาไปปล่อยไว้ในนาข้าวสาลีของชาวบ้าน ส่วนตนก็เดินทางไปขายของตามปกติ https://dmc.tv/a27798

บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ
[ 31 มี.ค. 2565 ] - [ ผู้อ่าน : 18295 ]

ชาดก 500 ชาติ

สีหจัมมชาดก-ชาดกว่าด้วยลาห่มหนังสิงโต

พระโกกาลิกะผู้ที่ชอบโกหกหลอกลวงประพฤติผิดศีลผิดธรรมเป็นนิจ

พระโกกาลิกะผู้ที่ชอบโกหกหลอกลวงประพฤติผิดศีลผิดธรรมเป็นนิจ
  
      โลกของเราในเวลาหลังพุทธกาลล่วงพ้นมาจนบัดนี้ ย่อมรู้กันดีว่าความโกหกหลอกลวงนั้นมีอยู่มากมาย แต่ในพุทธสมัยหาเป็นเช่นนี้ไม่
ดังมีภิกษุรูปหนึ่งเก่งทางหลอกลวงขึ้นในพระมหาวิหาร นั้นก็คือพระโกกาลิกะ แต่ภิกษุผู้นี้ก็ไม่อาจลอยนวลหลุดพ้นบ่วงกรรมไปได้
พระโกกาลิกะได้กล่าวหลอกลวงเพื่อนภิกษุเพื่อให้ตนนั้นได้ออกไปรับภัตกิจแทน
 
พระโกกาลิกะได้กล่าวหลอกลวงเพื่อนภิกษุเพื่อให้ตนนั้นได้ออกไปรับภัตกิจแทน
 
       อันคนเราหากได้ลองโกหกสักครั้งหนึ่งแล้วก็จะติดเป็นสันดอนกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า พระโกกาลิกะนั้นเป็นภิกษุที่ใช้คำโกหกโป้ปดมดเท็จจนเป็นนิสัย
และมิได้เห็นโทษของสิ่งเหล่านี้เลย กลับกันยิ่งกิตติศัพท์ความเจ้าเล่ห์ หลอกลวงเก่งโด่งดังขึ้นเท่าใด ภิกษุนักโกหกก็ยิ่งหลงตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
 
พระโกกาลิกะไม่เคยเล็งเห็นโทษในความผิดของตนแต่กลับชอบใจในความฉลาดแกมโกงของตน
 
พระโกกาลิกะไม่เคยเล็งเห็นโทษในความผิดของตนแต่กลับชอบใจในความฉลาดแกมโกงของตน
 
      “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตลกภิกษุเหล่านั้นจริง ๆ เลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ช่างซื่อไร้เดียงสายิ่งนัก หลอกนิดหลอกหน่อยก็เชื่อ เชื่อไปได้ยังไงนี่ เหอะๆ ตลกจังเลย ”
นอกจากลวงพระเณรในพระอารามเดียวกันแล้ว พระโกกาลิกะยังทำกลอุบายรับนิมนต์ หรือการภัตกิจต่าง ๆ อย่างแนบเนียนเป็นที่เอือมระอาทั่วไป

กิตติศัพท์ความเจ้าเล่ห์ของพระโกกาลิกะโด่งดังเป็นที่รู้กันทั่วในหมู่ภิกษุสงฆ์
 
กิตติศัพท์ความเจ้าเล่ห์ของพระโกกาลิกะโด่งดังเป็นที่รู้กันทั่วในหมู่ภิกษุสงฆ์
 
       “ โยมอุปถัมภ์ผู้นั้นนิมนต์อาตมาไว้เป็นนิจแล้ว ท่านคงไม่ควรไปหาเขาอีก ” “ หากเป็นเช่นนั้น ท่านก็ไปแทนเราเถิด ” ( เหอะๆ โง่ได้อีก เสร็จเรา
โยมผู้นั้นทำบุญที ถวายของตั้งมากมาย จะแบ่งให้ใครได้ยังไงละ เอาเองดีกว่า) เมื่อเหล่าภิกษุสงฆ์รู้ข้อเท็จจริงที่ไม่เป็นไปตามคำที่พระโกกาลิกะบอก

เหล่าภิกษุสงฆ์ต่างพากันหนีห่างไม่ร่วมเสวนากับภิกษุโกกาลิกะจอมเจ้าเล่ห์
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ต่างพากันหนีห่างไม่ร่วมเสวนากับภิกษุโกกาลิกะจอมเจ้าเล่ห์
        
       ก็เริ่มหนีทำตัวออกห่าง หนักเข้าจากที่ไม่มีใครพูดคุยด้วยก็กลายมาเป็นไม่มีผู้ใดเข้าใกล้ชิด “ อืม พระผู้นี้ผิดศีลจนเป็นนิสัย ไปกันเถอะอย่าเสวนา
กับเขาเลย ” แล้วเหตุดังนี้ก็ทราบโดยพระเนตรพระกรรณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงเรียกภิกษุนี้มายังพระคันธกุฎีแล้วตรัสว่า
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเรียกพระโกกาลิกะมาเข้าเฝ้ายังพระคันธกุฎี
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเรียกพระโกกาลิกะมาเข้าเฝ้ายังพระคันธกุฎี
     
       “ ดูก่อน พระโกกาลิกะบวชอยู่ในพระพุทธศาสนา อันมีความจริงเป็นแก่นสาร ไม่ควรครองตนอยู่ด้วยความหลอกลวง ดังในอดีตกาล
ก่อนโน้นก็ถูกทุบตีขับไล่จากชนบทเพราะการล่อลวงผู้อื่นมาแล้ว ” สมเด็จพระบรมศาสดาทรงตรัส สีหจัมมชาดกอันเป็นอดีตชาติหนึ่งดังนี้
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสเล่าสีหจัมมชาดกแก่พระโกกาลิกะ
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสเล่าสีหจัมมชาดกแก่พระโกกาลิกะ
 
     มัชฌิมประเทศในอดีตกาลนั้น การแลกเปลี่ยนค้าขายยังไม่ได้มีขบวนเกวียนของนายวาณิชย์ดังเวลาภายหลัง ผู้คนต่างเมืองต่างนิยมใคร่ค้า
ก็ค้ากันโดยเสรี ดังนิคมชนบทหนึ่งชายแดนแคว้นกาสีที่บางครั้งพ่อค้าวาณิชย์ก็พากันขนสินค้าเร่ขายกันมากเป็นขบวน

มัชฌิมประเทศในครั้งอดีตกาล
 
มัชฌิมประเทศในครั้งอดีตกาล
     
        แต่บางครั้งก็จะมีเพียงรายสองรายเท่านั้น ครั้งที่ไม่มีผ้าค้าขายเป็นเวลานานได้มีพ่อค้าเครื่องหอม เครื่องประทินผิวรายหนึ่งขนสินค้า
เข้ามายังชนบทที่นี่ “ ที่นี้แหละจักเป็นถุงเงินถุงทองให้เราตักตวงเป็นที่ต่อไป
 
ชายแดนแคว้นกาสีมีการค้าขายกันอย่างเสรี
 
ชายแดนแคว้นกาสีมีการค้าขายกันอย่างเสรี
 
        อ้าวพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายของดีอินเทรนด์แบรนเนมดัง ๆ มาแล้วจ้า ยาบำรุงกำลังฟิตปั๊งๆ ก็มี วิตตามินกินแล้วขาวโบ๊ะ ๆ ก็มี ออกมาเลือกซื้อ
เลือกหากันได้เลยนะจ๊ะ อยากสวยอยากหล่อต้องทางนี้จ้า โอ้น้องหญิงทางนั้น สนใจซื้ออาหารเสริมไหมจ๊ะ จะปล่อยให้อ้วนอยู่ทำไม
 
ดินแดนแคว้นกาสีผู้คนต่างใช้ชีวิตกันตามปกติ
 
ดินแดนแคว้นกาสีผู้คนต่างใช้ชีวิตกันตามปกติ
 
       ฉันมียาวิตตามินชั้นดีกินแล้วผอมได้สัดส่วน สามีรักสามีหลงนะจ๊ะ สนใจก็มาเลือกซื้อได้เลยนะจ๊ะ ฉันจะวางขายที่ลานกลางหมู่บ้าน ซื้อเยอะ
เดี๋ยวแถมวิตตามินเสริมกระชับผิวด้วยนะจ๊ะ ” “ หึ ฉันไม่ได้อ้วนย่ะ แค่อวบระยะสุดท้ายสุดๆ เท่านั้นเอง ปากเสีย ”
 
มีพ่อค้าเร่จากต่างเมืองได้เข้ามาขายสินค้ายังแคว้นกาสี
 
มีพ่อค้าเร่จากต่างเมืองได้เข้ามาขายสินค้ายังแคว้นกาสี
  
        วันแรกพ่อค้าขายสินค้าได้จำนวนหนึ่งเมื่อนำมาซื้ออาหารให้ตนและลากินแล้วยังพอเหลือเล็กน้อย “ โอ้ เรานี่โง่จริง ๆ ไม่น่าต้องซื้ออาหาร
ให้เจ้าลามันเลย ของมีกินเต็มทุ่งเนี่ย ดูสิข้าวสาลีออกรวงกำลังดีเลย ของชอบของเจ้าเลยใช่ไหมเจ้าลาเอ๋ย

พ่อค้าเร่ได้ตะโกนขายสินค้าของตนไปเรื่อยๆ    

พ่อค้าเร่ได้ตะโกนขายสินค้าของตนไปเรื่อยๆ
 
        พ่อจะจัดแจงให้แกได้กินของชอบของแก กินได้อย่างหนำใจเลย นี่ไงล่ะเคล็ดลับของพ่อ หนังสิงโต รับรองว่าถ้าเจ้าสวมหนังนี้เข้าไป
ไม่มีใครกล้าแหย่มเจ้าแน่ ๆ แล้วคราวนี้ ลาน้อยของพ่อก็จะกลายเป็นสิงโตเจ้าป่าครองนาข้าวสาลี กินรวงข้าวเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่
 
พ่อค้าเจ้าเล่ห์คิดวางแผนให้ลาของตนได้กินข้าวสาลีของชาวบ้านแบบฟรี ๆ
 
พ่อค้าเจ้าเล่ห์คิดวางแผนให้ลาของตนได้กินข้าวสาลีของชาวบ้านแบบฟรี ๆ

       ไม่มีใครกล้าหือ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ” พ่อค้าเอาหนังสิงโตที่ตัวเองเก็บไว้ขายให้คหบดีอีกเมืองหนึ่งคลุมตัวลาของตนแล้วนำไปปล่อยไว้ในนาข้าวสาลี
“ อยู่นี้กินอย่างสบายใจนะพ่อเอ้ย ขายของเสร็จแล้วจะกลับมารับ เอาล่ะสิงโตลูกพ่อเข้าไปลุยกับรวงข้าวเหล่านั้นเถอะ

พ่อค้าเจ้าเล่ห์ได้เอาหนังสิงโตมาห่มคลุมให้ลาของตน
 
พ่อค้าเจ้าเล่ห์ได้เอาหนังสิงโตมาห่มคลุมให้ลาของตน
 
       พ่อจะไปล่ะ ของดี ๆ มีให้กินฟรี ไม่ต้องจ่ายเงิน ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า สบายใจ แค่นี้เราก็มีเงินเหลืออีกเยอะเลย ”เมื่อการหลอกผู้อื่นผ่านไปครั้งหนึ่ง
ครั้งต่อมาพ่อค้าก็ค้าขายได้สบายใจโดยไม่ต้องแบ่งกำไรซื้ออาหารให้ลาอีก “ ยาวิเศษเหลืออีกแค่ท่านเดียวจ้า ที่ย่น ๆ ยับ ๆ

พ่อค้าเจ้าเล่ห์ปล่อยให้ลาของตนกินข้าวสาลีในนาของชาวบ้าน
 
พ่อค้าเจ้าเล่ห์ปล่อยให้ลาของตนกินข้าวสาลีในนาของชาวบ้าน
       
       แล้วก็จะดูเต่งตึงตูม ๆ ใครที่หน้าดำหมองคล้ำก็เชิญทางนี้เลยจ้า มียาดี้ดี กินแล้วผิวขาวอมชมพูขึ้นทันตาเห็นเลยนะจ๊ะ ” เมื่อได้กำไรดี
พ่อค้าเจ้าอุบายก็มาบ่อย และตั้งแต่เช้าจรดเย็นก็นำลาคลุมหนังสิงโตมาปล่อยไว้ในนาข้าวของชาวบ้านเหมือนดังเคย
พ่อค้าเจ้าเล่ห์ได้มาขายของตามปกติโดยทิ้งลาของตนไว้ในทุ่งข้าวสาลี
 
พ่อค้าเจ้าเล่ห์ได้มาขายของตามปกติโดยทิ้งลาของตนไว้ในทุ่งข้าวสาลี
 
       “ เงินเหลือบานเลย แววเศรษฐีออกเลยสิเรา ดูสิลาน้อยของพ่อก็กินเอ้ากินเอา โตวันโตคืน เฮ้ย สบายใจจริง ๆ อิมจังตังส์อยู่ครบ ” พ่อค้า
จอมหลอกลวงนึกถึงแต่ผลประโยช์นของตน ไม่สนใจว่าชาวบ้านที่พบในลาคลุมหนังสิงโตนั้นจะตกใจขวัญผวาหวาดกลัวสักแค่ไหน
 
สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ได้วางแผนที่จะแย่งชิงเมืองจากพระราชา
 
เลิกจากการค้าขายพ่อค้าเจ้าเล่ห์ก็กลับมารับลาของตนที่ทุ่งนา
 
     “ เฮ้ย นั่นมันสิงโตนี่หว่า มาอยู่ในนาข้าวสาลีของเราได้ไง โอ้ยพ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย ” แม้ไม่เคยมีข่าวว่าสิงโตตัวนี้เคยกัดกินคน
หรือวัวควายของใคร แต่เมื่อแรกเห็นทุกคนก็เผ่นหนีกันเตลิดทั้งทุ่ง ไม่เป็นอันทำมาหากินได้ปกติสุข
 
ชาวบ้านที่เห็นลาในคราบของสิงโตต่างพากันหวาดกลัวจนไม่เป็นอันทำงาน
 
ชาวบ้านที่เห็นลาในคราบของสิงโตต่างพากันหวาดกลัวจนไม่เป็นอันทำงาน
 
       “ เฮ้ยสิงโต ตัวเป็น ๆ เลยนี่หว่า เอาตัวรอดก่อนดีกว่า ” “ หนีเลยลูก สามีตัวดี หน้าสิ่วหน้าขวานขึ้นมาทีไร มันหนีเอาตัวรอดคนเดียวทุกที ”
“ แม่จ๋า หนูกลัวสิงโต หน้ามันดุ มันจะกัดเราไหมแม่ ดูสิมันมองมาทางนี้แล้ว ” ครั้นเดือดร้อนมาก ๆ เข้า
 
แม้สิงโตจะไม่เคยทำร้ายใครแต่ชาวบ้านก็พากันวิ่งหนีเอาตัวรอดทุกครั้งที่เจอ
 
แม้สิงโตจะไม่เคยทำร้ายใครแต่ชาวบ้านก็พากันวิ่งหนีเอาตัวรอดทุกครั้งที่เจอ

        ชายฉกรรจ์ในนิคมหมู่บ้านนั้นก็พากันมารวมตัวหาทางกำจัดสิงโต แต่แล้วก็หาคนกล้าเสี่ยงตายไม่ได้เลยแม้แต่เพียงคนเดียว
“ อ้าว ไหนใครจะไปไล่สิงโตตัวนั้นกันบ้าง เราจะปล่อยให้มันกัดกินข้าวในนาเราอย่างนี้ต่อไปรึ ” “ งานนี้ใครจะไปกล้าเสี่ยง

ชาวบ้านต่างประชุมกันเพื่อต้องการคนอาสาไปปราบสิงโต
 
ชาวบ้านต่างประชุมกันเพื่อต้องการคนอาสาไปปราบสิงโต

       โดนมันขยุ้มกัดเอามันไม่คุ้มกันหรอก ” “ ใครจะไปก็ไปเถอะ ข้าไม่ไปคนหนึ่งล่ะ ” ถ้าเอ็งไม่ไป ข้าก็ไม่ไป กลัวเหมือนกันนะโว้ย ” เรื่องราว
เหล่านี้อยู่ในสายตาของบัณฑิตผู้นำหมู่บ้านนิคมนั้นอยู่ตลอดเวลา บัณฑิตหนุ่มสังเกตพบว่า เมื่อถึงเวลาเย็นที่พ่อค้าจูงลากลับไป

บัณฑิตผู้นำหมู่บ้านได้เฝ้าสังเกตพฤติกรรมของพ่อค้าเร่ที่มาจูงลากลับจากทุ่งนาในเวลาเย็น

บัณฑิตผู้นำหมู่บ้านได้เฝ้าสังเกตพฤติกรรมของพ่อค้าเร่ที่มาจูงลากลับจากทุ่งนาในเวลาเย็น
 
       สิงโตที่อยู่ในนาข้าวสาลีนั้นก็หายไปด้วย “ น่าแปลกนักทำไมเจ้าสิงโตตัวนั้นมันหายไปเวลาเดียวกับที่พ่อค้าจูงลากลับบ้านทุกครั้งเลย
ดูมีพิรุธ สงสัยชาวบ้านจะโดนเจ้าพ่อค้านั้นปั่นหัวแน่ ๆ ” บัณฑิตผู้นำหมู่บ้านเล่าเรื่องที่ตนสังเกตเห็นให้ชาวบ้านรับรู้โดยทั่วกัน
 
บัณฑิตผู้นำหมู่บ้านได้นำเรื่องที่ตนเห็นพ่อค้าเจ้าเล่ห์จูงลากลับจากทุ่งนามาเล่าให้ชาวบ้านฟัง
 
บัณฑิตผู้นำหมู่บ้านได้นำเรื่องที่ตนเห็นพ่อค้าเจ้าเล่ห์จูงลากลับจากทุ่งนามาเล่าให้ชาวบ้านฟัง
 
     จากนั้นมาลูกบ้านทุกคนก็ช่วยกันสังเกตพิรุธนั้น “ นั่นไงเจ้าพ่อค้านั่นมันนำลากลับไปแล้ว ประเดี๋ยวพวกเราที่ทุ่งนาก็จะมาส่งข่าว
เรื่องสิงโตว่ามันจะมีอยู่ไหม ”  “ ถ้าสิงโตในนาข้าวนั้นหายไปจริง ๆ ก็แสดงว่าเจ้าพ่อค้าเจ้าเล่ห์นั่นมันมาหลอกลวงพวกเรา
 
บัณฑิตได้วางแผนให้ชาวบ้านไปเฝ้าดูพฤติกรรมของพ่อค้าเจ้าเล่ห์
 
บัณฑิตได้วางแผนให้ชาวบ้านไปเฝ้าดูพฤติกรรมของพ่อค้าเจ้าเล่ห์
 
      คอยดูถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เจ้าพ่อค้านั่นมันน่วมแน่ ”  ส่วนผู้นำหมู่บ้านนั้นก็คอยสังเกตการเคลื่อนไหวของพ่อค้านั้นตลอดเวลาทั้งเช้าและเย็น
เขาพบว่าบนหลังลานั้นมีทั้งสินค้าและหนังสิงโตบรรทุกไว้ “ เจ้าพ่อค้าจอมลวงโลกคนนี้คงเอาหนังสิงโตใส่ให้ลาแล้วปล่อยไว้ให้กินข้าวของ
 
ชาวบ้านต่างพากันมาขับไล่พ่อค้าเจ้าเล่ห์ที่หลอกพวกตนด้วยการห่มคลุมหนังสิงโตบนร่างของลาทำให้ชาวบ้านต่างหวาดกลัว
 
ชาวบ้านต่างพากันมาขับไล่พ่อค้าเจ้าเล่ห์ที่หลอกพวกตนด้วยการห่มคลุมหนังสิงโตบนร่างของลาทำให้ชาวบ้านต่างหวาดกลัว
 
      ของชาวนาเป็นแน่ สิงโตอะไรไม่เห็นจะเคยกัดกินวัวควายเลยสักครั้งเดียว เชื่องยังกับลา ” เย็นวันนั้นบัณฑิตหนุ่มและชาวบ้านจึงซ้อนกลพ่อค้าเจ้าเล่ห์
“ เราพากันไปซุ่มรอ ไว้จนพ่อค้ามา เสร็จแล้วก็ช่วยกันจับลาตัวนั้นถอดหนังสิงโตออก ถึงตอนนั้นพวกคนที่เหลือก็ช่วยกันถือไม้ถือกระบองขับไล่เจ้าพ่อค้า
 
ชาวนาเจ้าเล่ห์พร้อมเจ้าลาต่างพากันวิ่งหลบหนีการทำร้ายจากพวกชาวบ้าน
 
ชาวนาเจ้าเล่ห์พร้อมเจ้าลาต่างพากันวิ่งหลบหนีการทำร้ายจากพวกชาวบ้าน
 
      แล้วก็ลาตัวนั้นออกไปจากหมู่บ้านเราไปสะ ” และแล้วเรื่องราวก็เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ ชาวบ้านช่วยกันถลกหนังสิงโตออกจากลา ส่วนชาวบ้านที่เหลือ
ก็พากันถือไม้ขับไล่พ่อค้า “ หนอยแน่ะ เจ้าพ่อค้าเจ้าเล่ห์บังอาจมาหลอกพวกเราได้ เอาไม้กระบองนี้ไปชิมหน่อยแล้วกัน นี่ นี่ ”  “ เอาให้หนักเลยพวกเราทั้งลา
ทั้งเจ้าของนั้นแหละ
 
 
 
พระพุทธองค์ทรงประชุมชาดก
 
     นั่นไงได้ยินเสียงราชสีห์คำรามไหมพี่น้อง ปะปะไปกันเถอะกลับมาทางไหนก็ไปทางนั้นเลย ลาบ้าหลอกกินข้าวในนาเสียหายหมด ” เรื่องคนหลอกลวงในครั้งนั้น
มีภาพสุดท้ายที่ชาวบ้านได้เห็นก็คือเจ้าลาที่น่าสงสารกับคนโกหกหลอกลวงหอบหนังสิงโตหนีไปอย่างหัวซุกหัวซุน  “ แหม แค่นี้ก็ต้องไล่กันด้วย กินนิดๆ หน่อย ๆ
โอ้ย ๆ นั่นไม้หน้าสามนี่น่าหนีเอาตัวรอดก่อนแล้วโว้ย ตัวใครตัวมันนะเจ้าลา ” สมเด็จพระพุทธศาสดาทรงประชุมชาดกโสดาปัตติผลว่า
 ในพุทธกาลครั้งนั้น
ให้ภิกษุหลอกลวงบรรลุ
 
พ่อค้าเจ้าเล่ห์ กำเนิดเป็นโกกาลิกภิกษุ
บัณฑิตหัวหน้าหมู่บ้าน เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า

 

 





พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง
      เกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
      ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
      ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
      ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
      มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
      ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
      สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
      สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
      อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
      สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
      สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
      อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ